ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชายแดนเมียนมา ยึดสายเคเบิลส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงข้ามแดนผิดกฎหมาย

วันที่ 2 ก.ย.67 ที่ บช.สอท. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกประเภท โดยเน้นไปที่พื้นที่แนวชายแดน ที่ผ่านมาตำรวจในพื้นที่ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดนอย่างจริงจัง และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเฉียบขาดทุกราย

พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วีระพล กันธวงศ์ รอง ผกก.2 บก.สอท.4, และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเข้มงวดการออกตรวจพื้นที่แนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 1 ก.ย.67 เวลาช่วงบ่าย เจ้าพนักงานตำรวจ  กก.2 บก.สอท.4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ราชมนู, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด, ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ได้ร่วมกันออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบได้พบกลุ่มผู้ต้องสงสัยจำนวนหลายรายลักษณะกำลังพยายามนำวัตถุต้องสงสัยข้ามแม่น้ำเมย บริเวณ อ.แม่สอด จ.ตาก ตรงข้ามเมืองชเว่ก๊กโก๊ รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมาร์ จึงได้เข้าทำการตรวจสอบกลุ่มผู้ต้องสงสัยดังกล่าว สามารถยึดสายเคเบิล จำนวน 3 เส้น กล่องสีดำสำหรับต่อสายเคเบิล หมายเลข กล่อง UF-3042S TOT CODE 70000002 จำนวน  1 กล่อง ,เชือก สีขาว จำนวน 3 ขด,ประแจคอมือ จำนวน 2 ตัว,รอก จำนวน 2 ตัว ,ที่สูบลม จำนวน 1 อัน,สายสลิง จำนวน 1 ขด,ท่อพีวีซี พร้อมที่ยิง จำนวน 1 ชุด ,ท่อเหล็ก ยาวประมาณ 3 เมตร จำนวน 6 ท่อน ท่อเหล็ก ยาวประมาณ 7 เมตร จำนวน 12 ท่อน    

             

เมื่อกลุ่มผู้ต้องสงสัยดังกล่าวทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ต่าวพากันวิ่งหลบหนีไปคนละทางทิ้งอุปกรณ์ไว้บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำเมย จากการตรวจสอบพบสายเคเบิลใยแก้วส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงถูกสอดในท่อเหล็กเชื่อมติดกันเป็นเส้นโดยใช้แท่งปูนเป็นตัวถ่วงให้จมลงไปในน้ำเพื่อเชื่อมต่อสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้ทำการตัดสายสัญญาณและทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด และประสานเจ้าหน้าที่ กสทช.เขต 31เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป