วันที่ 2 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไป หมู่ที่ 4 ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ ที่ได้มี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกระบี่ จ.กระบี่ ได้มีการตั้งจุดตรวจคัดครองชาวบ้านอย่างเข้มงวดบนถนนทางเข้าออกหมู่บ้านในพื้นที่บ้านห้วยโต้ ม.4 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นในพื้นที่ เพราะว่าได้มีกลุ่มชาวบ้าน ชื่อ”กลุ่มคนไทยไร้ที่ดินทำกิน” เป็นจำนวนมาก ได้เข้าไปยึดสวนปาล์มน้ำมันของนายทุนรายหนึ่ง รวมเนื้อที่กว่า 2000 ไร่ ขณะนี้ได้มีการสร้างเพิงพักที่อยู่อาศัยชั่วคราว อยู่ในสวนปาล์ม แปลงดังกล่าวแล้ว เพื่อที่จะ เรียกร้องให้ทางจังหวัดได้เข้ามาตรวจสอบ ที่ดินแปลงดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
นายณัฐภูมินท์ นวลจันทร์ ในฐานะเป็นแกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า การรวมตัวเข้ามาปักหลักชุมนุมของชาวบ้าน ในพื้นที่เป็นสวนปาล์มน้ำมันของนายทุนรายหนึ่ง รวมเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่ ตนเองมีความมันใจว่า ที่ดินแปลงนี้ อยู่ในพื้นที่ สปก.โดยก่อนหน้านี้ทางตัวแทนชาวบ้านได้ไปยื่นหนังสือให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวเข้ามาตรวจสอบแล้ว แต่เรื่องก็เงียบ ไม่มีอะไรคืบหน้า ชาวบ้านจึงต้องรวมตัวกัน อีกครั้ง เพื่อกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ลุกขึ้นมาตรวจสอบโดยเร็ว หากพบว่าพื้นที่ดังกล่าวนี้เป็นที่ สปก.เจ้าหน้าที่ก็ต้องยึดคืนมาจัดสรรให้กับชาวบ้าน ไม่ใช่ปล่อยให้นายทุนครอบทำประโยชน์อยู่จนทุกวันนี้
นายณัฐภูมินท์ ยังได้บอกอีกว่า การเข้ามารวมตัวของชาวบ้านในครั้งนี้ มาด้วยความสงบ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อน ให้แก่ใคร จุดประสงค์เดียวก็คือเรียกร้องให้ ทางจังหวัด และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ สปก.เข้ามาตรวจสอบพื้นที่ หาความจริง ให้กระจ่าง หากพบว่าที่ดินอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือ สปก.ก็ต้องยึดคืนมา จัดการขั้นเด็จขาด นายทุนำแ ครอบครองได้อย่างไร เพราะคนรวยไม่มีสิทธิ์ได้ที่ดิน สปก.
ด้านนายประยูร สิริสม ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของที่ดิน กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ที่ชาวบ้านเข้าไปอยู่อาศัยและเรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐเข้ามาตรวจสอบเป็นที่ดินที่เจ้าของมีการครอบครองอย่างถูกต้องมีเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน และทำกินมานานไม่ต่ำกว่า 40 ปี ซึ่งจะเห็นได้จากการทำประโยชน์ มีการล้มต้นปาล์มเดิมและมีการปลูกทดแทน จึงขอให้ชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุกออกจากพื้นที่ ถ้าหากขัดขืน ก็จะต้อง ว่ากันไปตามกฎหมาย