"เลขาฯนายกฯ" เผยกฤษฎีกาเร่งตรวจสอบข้อมูล"ครม.ชุดใหม่" คาดเสร็จสัปดาห์นี้ "อภิสิทธิ์" เตือน "ทักษิณ"หากไม่เก็บเกี่ยวบทเรียนในอดีต ระวังประวัติศาสตร์ซ้ำรอย อาจทำให้รัฐบาล 'อุ๊งอิ๊ง' มีปัญหา ไม่สามารถก้าวพ้นครอบครัวได้  เชื่อสภาอยู่ครบเทอม ชี้จุดตายรัฐบาลอยู่ที่ศรัทธาประชาชน ด้าน ปธ.กกต. ยังไม่เห็นคำร้องนิรนามยื่นยุบพรรคเพื่อไทย  เผยแม้ผู้ร้องไม่ระบุตัวตน หากมีข้อเท็จจริงและเหตุอันควรสงสัย สามารถรับไว้พิจารณาต่อได้
       
    
 เมื่อวันที่ 1 ก.ย.67  นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช  เลขาธิการนายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์กรณีการส่งตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีใหม่ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาคณะใหญ่ที่มี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 2560 รวมถึง นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ร่วมคณะช่วยพิจารณา ว่า ได้ส่งไปให้ตรวจสอบแล้วตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ตอนนี้มีการตอบกลับมายังเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะถ้ามีข้อสงสัยทางข้อกฎหมายก็จะส่งให้กฤษฎีกาตรวจสอบ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ขั้นตอนตางๆ ยังไม่เสร็จสิ้น
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า รายชื่อที่ส่งให้กฤษฎีกาตรวจสอบเป็นใครบ้าง นพ.พรหมมินทร์ กล่วาว่า ด้วยความรอบคอบ ทางเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งไปทุกกรณี แต่ไม่ได้ระบุตัวบุคคล ซึ่งคาดว่าการตรวจสอบของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้ข้อมูลครบถ้วนในสัปดาห์ที่จะถึงนี้
    
 ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมามีบทบาทในประเทศอีกครั้ง ว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากวันที่นายทักษิณเคยเรืองอำนาจ ส่วนที่นายทักษิณเข้ามามีบทบาทในการบริหารประเทศจะกระทบกับการบริหารประเทศมากน้อยแค่ไหนนั้น จริงๆ สังคมก็มองออกว่านายทักษิณมีบทบาทมาต่อเนื่อง เพียงแต่จะเปิดเผยมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง ส่วนหนึ่งถ้ามองในมุมบวกก็ต้องบอกว่าสำหรับคนที่เชื่อในแนวทางนั้นก็อาจจะมีความเชื่อมั่น มีความมั่นใจมากขึ้น อาจจะทำให้การประสานงาน อาจจะใช้ประสบการณ์ผลักดันในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

     ขณะเดียวกันอย่างที่ตนเคยบอกว่าวันที่นายทักษิณเคยมีอำนาจมากมายมหาศาล สุดท้ายก็ต้องยุติลงด้วยหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นความไม่ถูกต้อง ดังนั้นถ้ายังไม่เก็บเกี่ยวบทเรียนตรงนี้ความเสี่ยงที่จะเกิดแบบนี้อีกก็มี เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ช่วงที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงเล่นการเมือง นายอภิสิทธิ์เคยปราศรัยว่าสงสารน.ส.ยิ่งลักษณ์ วันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มาเป็นนายกรัฐนนตรี มองอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรากำลังพูดถึงคนในครอบครัว ตนไม่ไปก้าวล่วงในแง่ความสัมพันธ์ในครอบครัวจะเป็นอย่างไร แต่แสดงว่าเป็นแนวทางที่ต้องสอดรับกัน
      
 "ผมเคยพูดหลายครั้งว่า แม้จะต่อสู้กับพรรคเพื่อไทยมาอย่างยาวนาน ผมก็ยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยมีความสำเร็จในบางเรื่อง และเสียดายว่าเขาไม่ได้ต่อยอดเอาตรงนั้นมาเป็นแกนในการขับเคลื่อนพรรค และยังไม่สามารถที่จะก้าวพ้นครอบครัวได้" 
     
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้งนายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์มีจุดจบที่ไม่สวย มาวันนี้คนก็มองว่าจุดจบของน.ส.แพทองธารจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราไม่อยากให้มีปัญหา จริงๆ ดีที่สุด ถ้าหากรัฐบาลสามารถที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศบนความถูกต้องได้ ทุกคนก็ควรจะดีใจ เมื่อถามว่า มองว่าจากนี้จะมีการปฏิวัติเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะคนตระกูลชินวัตรมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 แล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่เรื่องตระกูลหรืออะไร แต่อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้มันมีเงื่อนไข และเราก็ไม่อยากจะต้องไปสู่จุดนั้นกันอีก
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่ารัฐบาลน.ส.แพทองธารจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ เพราะตัวนายกรัฐมนตรีก็มีปัญหาเรื่องที่ดินอัลไพน์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าสภาฯ น่าจะอยู่ครบเทอม เพราะตนก็มองไม่เห็นว่าจะมีปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งไม่น่าจะมีพรรคไหนอยากจะเลือกตั้งเร็ว เมื่อถามย้ำว่า คิดว่ามีอะไรเป็นจุดอ่อน หรือจุดตายของรัฐบาลชุดนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาศรัทธาของประชาชนที่ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องความไม่ถูกต้อง
   
  นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ขณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี ถึงกรณีที่มีผู้ร้องนิรนามยื่นยุบพรรคเพื่อไทย ว่า ยังไม่เห็นคำร้อง เป็นเพียงการรายงานข่าว และขณะนี้กกต.ยังไม่ได้รายงานให้ทราบ ซึ่งตามขั้นตอนแล้วหากมีผู้มายื่นคำร้อง ต้องพิจารณาว่าเป็นคำร้องที่สมควรรับไว้หรือไม่ หากเห็นว่าคำร้องควรรับไว้ ก็จะตั้งคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน สอบปากคำพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานแวดล้อมผู้ที่เกี่ยวข้อง เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็จะเสนอความเห็นพร้อมสำนวนไปยังสำนักงาน กกต. และมีเลขาธิการ กกต. เป็นผู้ให้ความเห็น โดยแต่ละขั้นตอนก็จะต้องใช้ระยะเวลา
    
 สำหรับประเด็นที่คำร้องไม่ได้ระบุชื่อตัวตนของผู้ร้องนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า โดยหลักการแล้วคำร้องที่จะรับไว้พิจารณาจะต้องแสดงให้เห็นตัวตนของผู้ร้อง หากเป็นคำร้องที่ไม่ได้ระบุชื่อก็จะให้ถือไปว่าเป็นบัตรสนเท่ห์ไว้ก่อน แต่หากในคำร้องนั้นมีเนื้อหาและมีข้อเท็จจริง แม้ว่าจะไม่รับคำร้องเพราะไม่มีการระบุชื่อของผู้ร้อง แต่ก็สามารถรับไว้พิจารณาในฐานะมีเหตุอันควรสงสัย หรือความปรากฏก็ได้
   
  ผู้สื่อข่าวถามว่า คำร้องที่ไม่ได้ระบุชื่อผู้ร้องจะถือว่ามีน้ำหนักน้อยกว่าคำร้องที่ระบุชื่อผู้ร้องหรือไม่ ประธาน กกต.  กล่าวว่า ต้องพิจารณาว่าคำร้องนั้นยื่นภายในกำหนดระยะเวลาหรือไม่ เพราะในบางเรื่องจะต้องยื่นในกรอบระยะเวลา และบางเรื่องอาจไม่ต้องยื่นในกรอบระยะเวลา ประกอบกับคำร้องที่ร้องมาผู้ร้องมีตัวตนหรือไม่ หากคำร้องไม่มีการระบุตัวตน แต่มีเนื้อหาข้อเท็จจริง เพียงพอที่จะดำเนินการต่อได้ ก็ทิ้งไม่ได้ ต้องรับไว้ดำเนินการต่อ
    
 ตอนนี้ยังไม่เห็นคำร้อง กว่าจะได้เห็นก็ต้องให้มั่นใจว่าเป็นไปตามกระบวนการ ตามระเบียบว่าด้วยการตรวจสอบข้อเท็จจริงของนายทะเบียน และระเบียบว่าด้วยการสืบสวนไต่สวน ซึ่งกว่าจะมาถึงผมก็จะต้องผ่านขั้นตอนอีกหลายขั้นตอน ไม่สามารถที่จะเข้าไปแทรกแซงการทำงานของแต่ละฝ่ายได้