วันที่ 30 สิงหาคม 2567 เวลา 16.06 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต. ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ช่วยราชการ รอง ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.รัฐพงศ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม.,พ.ต.อ.ชูวงษ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม.,พ.ต.ท.นพรัตน์ จงเชิดตระกูล รอง ผกก.4 บก.สส.สตม.,พ.ต.ท.ดุสิต ภูหงษ์เพชร รอง ผกก.ปอพ. บก.สส..สตม.,พ.ต.ท.วิทยา ทองผึ้ง รอง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ถือหมายค้นเลขที่ 258/2567 บุกเข้าค้นบ้านหรู ม.6 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ สามารถควบคุมตัวกลุ่มชาวจีนไว้ได้ทั้งหมด 15 คน เป็นผู้ชาย 14 คน ผู้หญิง 1 คน พร้อมคอมพิวเตอร์ 18 เครื่อง โทรศัพท์ มือถือ 90 เครื่อง

สืบเนื่องมาจากทีมสืบสวนสืบทราบมาว่าที่บ้านหลังดังกล่าว มีกลุ่มขบวนการชาวจีน กระทำผิดทำคอลเซ็นเตอร์เกี่ยวกับชักชวนผู้เสียหายให้ทำการลงทุนเล่นหุ้น ซึ่งจะมีการแบ่งเป็นสามหน้าที่ โดยหน้าที่แรกจะมีการโทรศัพท์หาผู้เสียหายที่เป็นคนจีน ซึ่งจะมีกลุ่มเครือข่ายที่ทำหน้าที่ในการโทรศัพท์ ซึ่งการโทรศัพท์นั้นจะมีการชักชวนให้ผู้เสียหายทำการแอดแอพพลิเคชั่นวีแชท เพื่อแนะนำหุ้นที่ดีและจากนั้นจะมีการให้ผู้เสียหายแอดเข้ากลุ่ม หน้าที่ที่สอง จะมีการให้ผู้เสียหายแอดเข้ากลุ่มของแอพพลิเคชัั่นใหม่ชื่อ work puls  ซึ่งในกลุ่มนั้นจะมีแอดมินที่เป็นหนึ่งในสมาชิกของคนร้ายจะทำหน้าที่ในการแนะนำการลงทุนหุ้น โดยจะมีการส่งข้อความชักชวนในแต่ละวันและข้อความที่มีการแนะนำหุ้น

โดยจะมีการส่งข้อความชักชวนในแต่ละวันและข้อความที่มีการแนะนำหุ้น โดยจะมีการให้ผู้เสียหายทำการติดตั้งแอพพลิเคชั่นที่สามารถดูบทเรียนเกี่ยวกับการเล่นหุ้น แต่อาจารยที่สอนแนะนำหุ้นนั้นล้วนเป็นหนึ่งในสมาชิกขบวนการเดียวกับผู้ต้องหา และจากนั้นจะมีการเริ่มให้ผู้เสียหายเริ่มทำการลงทุน โดยในช่วงแรกจะมีการสร้างความน่าเชื่อถือกับผู้เสียหาย โดยจะทำให้ผู้เสียหายได้รับเงินรางวัลที่เข้าร่วมในการลงทุน ซึงจะให้ผู้เสียหายส่งกระเป๋ารับเงินของแอปพลิเคชั่น alipay โดยจะมีได้รับรางวัลประมาณ 20-100 หยวน และในขั้นตอนที่สาม เมื่อสร้างความน่าเชื่อได้แล้วจะมีการแนะนำให้ผู้เสียหายลงทุนมากขึ้นและทำการหลอกเอาเงิน

ทั้งนี้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. เปิดเผยว่า เราทราบว่ามีกลุ่มชาวจีน เข้ามาเช่าบ้านหลังดังกล่าว ในราคาเดือนละ 150,000 บาท ต้องสงสัยว่ามีการกระทำผิดเกี่ยวกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์นั้น จึงได้สนธิกำลัง ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดพัทยา บุกเข้าตรวจค้นซึ่งภายในบ้านนั้นพบชาวจีนทั้งหมด 15 ราย โดยสามรายทำหน้าที่ประจำเครื่องคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก โดยตรวจสอบเบื้องต้นพบรายชื่อผู้เสียหายกว่าหนึ่งพันรายชื่อ โดยในเบื้องต้น หัวหน้ากลุ่มชาวจีนให้การอ้างว่าเพิ่งเข้ามาเปิดฐานปฏิบัติการในด้านหลังดังกล่าว ได้เพียงเพียงสามวันเท่านั้น ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขยายผล คาดว่าน่าจะมีมูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาท