เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 30 ส.ค. 67 ที่ตึก SC ASSET Public Company Limited ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ (ตึกชินวัตร 3) นายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้าตึก ภายหลังเมื่อคืนวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมาที่ประชุมกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคประชาธิปัตย์ มีมติเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย หลังถูกเทียบเชิญให้เข้าร่วมรัฐบาล โดยนายนริศ นำรายชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ มาส่งให้พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาล
นายนริศ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้นำรายชื่อทั้ง 2 คนที่จะเข้าร่วมรัฐบาล มาส่งให้กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นรายชื่อที่มีมติจากที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ซึ่งเมื่อคืนก็มีการประชุมกันจนดึก จึงได้เดินทางมาส่งหนังสือในเช้าวันเดียวกันนี้ และได้มีการประสานงานกับนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยแล้ว แต่เนื่องด้วยนายสรวงศ์ ติดภารกิจลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัย พร้อมกับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งกระบวนการนับจากนี้จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติตามขั้นตอน
เมื่อถามว่า ทางพรรคเพื่อไทยได้มาหรือไม่ว่าตำแหน่งที่เราได้ 2 เก้าอี้ คือตำแหน่งรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ รมช.สาธารณสุข นายริศ พยักหน้าและตอบว่า ครับ ซึ่งเมื่อคืนวันที่ 29 ส.ค.หัวหน้าพรรคได้แจ้งภายในว่าได้ 2 ตำแหน่ง
เมื่อถามว่า มีความมั่นใจหรือไม่ในเรื่องของคุณสมบัติว่าจะไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง นายนริศ กล่าวว่า เรื่องนี้หัวหน้าพรรคได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า มีความมั่นใจในทั้ง 2 รายชื่อ แต่ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ
เมื่อถามถึง กรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ภายหลังที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย นายนริศ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเราเป็นทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลมาแล้ว เป็นระยะเวลายาวนานมาก ซึ่งมีกระแสเช่นนี้เกิดขึ้นทุกครั้ง
เมื่อถามย้ำว่า แบบนี้จะหมายถึงว่า “ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูที่ถาวรใช่หรือไม่” นายนริศ กล่าวว่า ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะการร่วมรัฐบาลครั้งนี้ พรรคจะผลักดันนโยบายของพรรค
เมื่อถามต่อว่า มีความมั่นใจว่า รัฐบาลจะอยู่ครบเทอมในอีก 3 ปีที่เหลือ นายนริศ กล่าวว่า อยู่ที่การทำงานของรัฐบาลชุดนี้เป็นสำคัญ หากทำงานได้ตามนโยบายและประชาชนพึงพอใจ โอกาสที่จะอยู่จนครบวาระก็มีความเป็นไปได้
เมื่อถามย้ำว่า แต่ขณะนี้มีบุคคลเตรียมร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรี ซึ่งอาจเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งนั้น นายนริศ กล่าวยอมรับว่า เรื่องนี้ก็เยอะจริง ๆ แต่ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งก็ต้องมีความหนักแน่น เพราะการตรวจสอบบุคคลสาธารณะ สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ