หนุ่มขอนแก่นสุดท้อร้องเรียนหน่วยงานรัฐ 6 ครั้งเรื่องเงียบ หลังพบความผิดปกติเลือกตั้ง ผู้ใหญ่บ้านฯ เจ้าตัวเผยไม่หวังอะไรแล้วเพราะทำไปไม่มีใครสนใจ และต้องสู้กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ วอนสื่อฯเผยข้อเท็จจริงกระตุ้นหน่วยงานรัฐเอาจริงเสียที

วันที่ 29 ส.ค.2567  เวลา 10.00 น. ที่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น นายวิญญู  ปอสี อายุ 48 ปีอยู่บ้าน ม.7 ต.หนองสองห้อง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงสะท้อนไปถึงหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบ หลังจากมีการร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.หนองสองห้อง และ ศูนย์ดำรงธรรม จ.ขอนแก่น แล้วรวมกว่า 6 ครั้งแต่เรื่องเงียบและไม่ได้รับคำตอบหรือการดำเนินการใดๆตามข้อร้องเรียน แม้กระทั่งการพยายามเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับ ผวจ.ขอนแก่น ขณะลงพื้นที่ปฎิบัติภารกิจที่ อ.หนองสองห้อง แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่กันตัวออกไป

โดย นายวิญญู  กล่าวว่า เรื่องร้องเรียนดังกล่าวสืบเนื่องจากการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.หนองสองห้อง เมื่อเดือน ก.พ.2567 ที่ผ่านมา พบความผิดปกติ เนื่องจากมีการย้ายคนเข้ามาในพื้นที่แบบผิดสังเกตุก่อนการเลือกตั้ง รวม 36 คนกระจายอยู่ในครัวเรือนต่งๆในพื้นที่ ม.7 แบบผิดสังเกตุ ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ผู้ใหญ่บ้าน ทั้งหมด 2 คน คือ นางสุภาวิณี ปอสี หมายเลข 1 และ นายสิทธิชัย ชิดนอก หมายเลข 2 ซึ่งก่อนถึงวันเลือกตั้ง ตนเองได้ยื่นเรื่องร้องเรียนกับทางอำเภอแล้วเพื่อให้มีการตรวจสอบ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ จนกระทั่งถึงวันเลือกตั้ง ผู้สมัครหมายเลข 2 ได้รับชัยชนะ ด้วยคะแนน 137 คะแนน ขณะที่หมายเลข 1 ได้คะแนน 134 คะแนน

“ พื้ที่ ม.7 มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งสิ้น 299 คน ซึ่งในการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านที่ผ่านมานั้น หมายเลข 2 เอาชนะ หมายเลข 1 ไปเพียง 3 คะแนน ซึ่งก่อนการเลือกตั้งผมได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปแล้ว แต่การดำเนินการต่างๆก็ดำเนินการไปอย่างต่อเองซึ่งแม้ว่าท่านนายอำเภอสั่งให้ตรวจสอบแต่ก็การเลือกตั้ง ผู้ใหญ่บ้านก็ดำเนินการไปจนแล้วเสร็จ ทั้งที่มีการคัดค้าน จากนั้นผมก็ร้องเรียนไปอีกหลานคัร้ง ทั้งที่อำเภอและจังหวัดรวมกว่า 6 ครั้งเรื่องก็เงียบ มาวันนี้ครั้งที่ 7 พยายามจะเข้ายื่นเรื่องกับท่านผู้ว่าฯ ก็ถูกเจ้าหน้าที่กันออกและมารับหนังสือไป และบอกเพียงว่าอยู่ระหว่างการตรวสอบ”นายวิญญู  กล่าว

ทั้งนี้ นายวิญญู กล่าวต่ออีกว่า ยอมรับว่าการร้องเรียนที่ผ่านมาจนถึงวันนี้หมดหวังแล้ว เพราะต้องต่อสู้กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และเรื่องก็ยังคงเงียบหรือได้รับคำตอบใดๆกับหน่วยงานของรัฐที่ชัดเจน เพราะการร้องเรียนนั้นเพื่ออยากให้มีการเสาะแสวงหาข้อเท็จจริงที่แน่ชัดว่ากาย้ายเข้ามาในทะเบียนบ้านในเขตพื้นที่ ม.7 เป็นการย้ายเข้ามาประจำหรือย้ายมาเพราะเหตุผลในการเลือกตั้ง จึงอยากให้สื่อมวชนช่วยเป็นกระบอกเสียงแทนชาวบ้านตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้กระบวนการตรวจสอบเกี่ยวกับการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น เริ่มจากผู้ใหญ่บ้าน ไปจนถึงระดับต่างๆนั้นมีความเข้มงวดและโปร่งใส  จริงจังเสียที