วันที่ 28 ส.ค.2567 เวลา 14.15 น.ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงพรรคเพื่อไทยส่งหนังสือเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลว่า พรุ่งนี้มีการนัดประชุมกรรมการบริหารพรรคและสส.พรรค เวลา 19.30น. ซึ่งส่วนตัวขอยืนยันในจุดยืนเดิมไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีตั้งแต่วันแรกตั้งแต่รัฐบาลชุด ของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะไม่สามารถทรยศประชาชนได้ ซึ่งตนขอร้องประชาชนไม่ให้เลือกพรรคไทยรักไทย พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เพราะความขัดแย้งส่วนตัว แต่เป็นเพราะพรรคเหล่านั้น ประกาศชัดเจนที่จะพัฒนาจังหวัดที่เลือกเขาก่อน ส่วนจังหวัดอื่นไว้ที่หลัง ซึ่งวิธีเหล่านี้เราไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมา 90 ปี ไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหน ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง หรือมาจากการยึดอำนาจ  ยิ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลจะให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคอย่างยุติธรรมโดยไม่สนใจว่าใครจะเลือกใครเป็นรัฐบาล แต่จัดการบ้านเมืองด้วยความเป็นธรรม

เมื่อถามว่าหากในวันพรุ่งนี้มติของพรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยในการร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย นายชวน กล่าวว่า คงไม่ใช่การเห็นด้วย เพราะมีการติดต่อกันแล้ว ที่มาถามว่าเขามาเชิญความจริง ตนคิดว่าคนของเราไปติดต่อเขาก่อนเขาเชิญ หรือสงสัยว่าไปขอให้เขามาเชิญด้วยซ้ำ แต่ตามมารยาทก็มาเชิญด้วยวิธีนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะก่อนหน้าจะมีหนังสือเชิญคนของเราบางคนก็ไปประสานติดต่อ จึงถูกสื่อมวลชนเรียกว่าพรรคอีแอบ พรรครอเสียบ

“อยากขออย่าเรียกพรรคประชาธิปัตย์แบบนี้ เพราะเป็นพฤติกรรมของคนส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ การเลือกแบบนี้ทำให้พรรคเสื่อมเสีย อยากปกป้องเกียรติภูมิของพรรค เราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้คนใดคนหนึ่งได้เป็นนายกอยู่สัก 1- 2 สมัยแล้วล้มไป แต่พรรคประชาธิปัตย์อยู่มาเกือบ 80 ปี ปฏิบัติตามอุดมการณ์ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นหลักประชาธิปไตยมาอย่างยาวนาน ไม่อยากให้เสื่อมเสียด้วยการกระทำของกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน”นายชวน กล่าว

นายชวน ยอมรับว่าตนเองเป็นเสียงข้างน้อยในพรรค ปชป. ชัดเจนตั้งแต่ มีการลงมติเลือกนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ตนเองได้หารือกับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ และนายสรรเพชญ บุญญามณี  ว่าอย่างน้อย 4 คน จะยังคงยืนยันในจุดยืนเดิม แต่ไม่ว่ามติของพรรคเป็นอย่างไรก็พร้อมจะเคารพ เพียงแต่ไม่เห็นด้วยที่จะร่วมกับพรรคการเมืองที่เคยกลั่นแกล้งประชาชน และเชื่อว่าการตัดสินใจร่วมรัฐบาลในครั้งนี้จะส่งผลต่อฐานเสียงภาคใต้ไม่น้อย

เมื่อถามว่าหลายคนมองว่าพรรคประชาธิปัตย์อาจสูญพันธุ์ นายชวน กล่าวว่า ความดีของพรรคยังมีอยู่ ผลงานก็มี แต่คนไม่ค่อยพูดถึง แต่คนที่รู้เขาจะยังระลึกถึง แต่คงต้องใช้เวลาในการพัฒนาพรรคให้กลับมาน่าเชื่อถือเหมือนเดิม เพราะในสมัยก่อนไม่เคยคิดว่าจะต้องร่วมรัฐบาลทุกครั้ง ไม่จำเป็นต้องไปเหมาไปซื้อพรรคเพื่อเป็นเสียงข้างมากเหมือนอย่างในสมัยของนายทักษิณ ชินวัตร ทำ แต่เข้าใจว่านักการเมืองรุ่นหลังไม่คิดที่จะเติบโต คิดเพียงว่าจะเป็นรัฐมนตรีสัก 2-3 คน ก็พอแล้ว แต่พรรคประชาธิปัตย์ดั้งเดิมเขาไม่คิดอย่างนี้คิดแต่จะสร้างพรรคให้ใหญ่ เพื่อแกนนำเป็นรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตามพรรคประชาธิปัตย์เป็นส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งของบ้านเมือง ที่ควรจะทำ บทบาทตัวเองให้มีเกียรติมีศักดิ์ศรีและมีประโยชน์ต่อบ้านเมือง

“การเป็นรัฐบาลก็ดีได้พัฒนาประเทศ แต่ถ้าถึงขนาดเสียศักดิ์ศรีไปเป็นรัฐบาล การเป็นฝ่ายค้านก็ไม่เสียหาย ส่วนคนรุ่นใหม่มองว่าหมดยุคของลุงชวนแล้ว มันไม่มีกำหนดอายุ มีคนคิดเหมือนกันว่าผมเป็นขวากหนามของเขา ทำให้ไปร่วมรัฐบาลไม่ได้ จึงพยายามพูดว่าหมดยุคของผู้อาวุโส แต่ในความจริงแล้ว ผมเป็นผู้สร้างมากกว่าผู้ทำลาย และคนที่พูดเหล่านั้นอาศัยบารมีพรรค ที่พวกผมทำเอาไว้ แต่คนเหล่านั้นยังไม่เคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับพรรคเลย เพียงแต่อาศัยชื่อพรรคเพื่อเข้ามาเป็นนักการเมือง ผมเองก็เคยได้ยินเรื่องนี้แต่ไม่ได้โกรธ แม้กระทั่งเรื่องที่จะขับพ้นออกจากพรรค ก็มาดูว่าใครเป็นคนพูดพอทราบก็เข้าใจเพราะเขาก็เพิ่งเข้าพรรคมาอาศัยบารมีของพรรคที่คนรุ่นก่อนเขาสะสมสร้างมา

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 9 ซึ่งยังไม่ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้พรรคเท่ากับรุ่นก่อน ดังนั้น ใครที่คิดจะปลดต้องดูกฎหมายไม่ได้กำหนดอายุ ผมยังคงทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ ผมกลายเป็นคนหัวคัดค้าน ทั้งที่มีหลายคนไม่เห็นด้วยแต่เขาไม่อยากเปลืองตัว เป็นการกระทำของคนบางกลุ่ม ทำให้คนทั่วไปยังเข้าใจว่า ประชาธิปัตย์โดยทั่วไปยังพอใช้ได้อยู่ เพียงแต่คนบางกลุ่มเท่านั้นที่เข้ามา ใช้ตำแหน่งในพรรคเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งคนกลุ่มนั้นไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับผม จนพยายามจะบอกว่าขัดแย้งมาแล้ว 20 ปี จึงอยากถามว่าขัดแย้งเรื่องอะไร ไม่ได้ทะเลาะเพื่อประโยชน์ส่วนตัวกัน แต่เป็นเรื่องของประชาชน”

เมื่อถามว่านายชวนจะลงสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายชวน ไม่ได้ยืนยันชัดเจน เพราะไม่อยากพูดอะไรไปล่วงหน้า