เมื่อวันที่ 28 ส.ค.67 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ออกมาเตือนทุกประเทศทั่วโลก ให้ระวังน้ำทะเลหนุนสูง และอาจเกิดภัยพิบัติทั่วโลกจากน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งจะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับหมู่เกาะหลายแห่งในมหาสมุทรแปซิฟิก รวมถึง ตองกา พร้อมขอให้ทุกประเทศทั่วโลก เตรียมรับมือกับผลกระทบร้ายแรงจากน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ไข ขอให้ทั่วโลกเพิ่มงบประมาณ และให้การช่วยเหลือแก่ประเทศในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบรุนแรงจากน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งเป็นผลพวงจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่มีต้นเหตุจากน้ำมือของมนุษย์

รายงานข่าวแจ้งว่า นายกูเตอร์เรส ได้ประกาศเตือนภัยเรื่องนี้ในเวทีประชุมของบรรดาผู้นำประเทศหมู่เกาะในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific Islands Forum) ซึ่งจัดขึ้นในกรุงนูกูอาโลฟาของตองกา เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีรายงานจากคณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกของยูเอ็น เผยแพร่รายงานว่า วิกฤตจากสภาพการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศทั่วโลกก่อให้การเปลี่ยนแปลงต่อมหาสมุทรอย่างไร

ทั้งนี้ รายงานจากองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกของยูเอ็น ระบุว่า อุณหภูมิของผิวน้ำทะเลในแถบตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก เพิ่มสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของผิวน้ำทะเลทั่วโลก 3 เท่านับตั้งแต่ปี 2523 และระดับน้ำทะเลในภูมิภาคนั้น เพิ่มสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของผิวน้ำทะเลทั่วโลก 2 เท่าในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา 

ขณะเดียวกัน คลื่นอากาศร้อนจากน้ำทะเลเพิ่มขึ้นจากปกติ 2 เท่า ซึ่งรุนแรงกว่าเดิม แต่ละครั้งที่เกิดอากาศร้อนใช้เวลายาวนานกว่าเดิมเช่นกัน

นอกจากนี้ รายงานระบุอีกว่า ทะเลจะดูดซับร้อยละ 90 ของความร้อนทั่วโลก เป็นผลจากการที่มนุษย์เผาเชื้อเพลิงฟอสซิล ทำให้เกิดปัญหาอื่นต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ เช่น ภาวะโลกร้อน ธารน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือละลายทำให้ระดับน้ำทะเลหนุนสูง

 


#ยูเอ็น #UN #ภัยพิบัติจากน้ำทะเลหนุนสูง #ข่าวต่างประเทศ