วันที่ 27 ส.ค.67 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยถึงการจับกุมผู้ต้องหาชาวไทย น.ส.กนกวรรณ อายุ 26 ปี ตามหมายจับ ที่เป็น ผู้สั่งการและประสานงานเครือข่ายยาเสพติดจากไทยไปประเทศเกาหลีใต้
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก วันที่ 30 มีนาคม 2567 สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ (NIS) และเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ (KNPA) ตรวจยึดคีตามีน ซุกซ่อนในกระป๋องแป้ง บรรจุในพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศเตรียมจัดส่งปลายทางเกาหลีใต้ ตนจึงได้สั่งการให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด มอบหมายชุดปฏิบัติการ สืบสวนขยายผล พิสูจน์ทราบผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถพิสูจน์ทราบ ผู้สั่งการ และ ผู้ส่งยาเสพติด รวมจำนวน 2 คน จึงรวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสวน ขอศาลอนุมัติหมายจับบุคคลบุคคลดังกล่าว
ในระหว่างการสืบสวนตรวจสอบพบว่า ผู้สั่งการได้เดินทางไปยังประเทศเกาหลีใต้ จึงประสาน สำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ (NIS) สืบสวนติดตามพฤติการณ์ กระทั่งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 สำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ (NIS) แจ้งว่า บุคคลดังกล่าว (ผู้สั่งการ) ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีจับกุมในคดี ยาเสพติด ถูกลงโทษจำคุก 3 เดือน หลังจากพ้นโทษ พบว่ามีการเดินทางเข้าประเทศไทย เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการติดตามสืบสวนจับกุม
โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ ปส.1 บช.ปส. และเจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ (NIS) เข้าจับกุม น.ส.กนกวรรณ อายุ 26 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 292/2567 ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ในความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน, ร่วมกันพยายามส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเกท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และร่วมกันจำหน่ายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” ได้ที่ร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง ต่อเนื่อง ห้องพักในเขตทวีวัฒนา กทม. ผลการตรวจค้น ไม่พบยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย
พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. มีการบูรณาการด้านการข่าวร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของภายในและระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิดอยู่เสมอ จนสามารถสืบสวนขยายผลเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศเกาหลีใต้ยิ่งขึ้น ในเรื่องการปราบปรามยาเสพติดของไทย นอกจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. จะดำเนินสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามหาบุคคลในเครือข่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป