วันที่ 27 ส.ค 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดมัคคสัญจาราม บ้านเหมือด ตำบลฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธรเป็นที่ตั้งของสิมเก่าแก่ (สิม หรืออุโบสถ) อายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี และภายในสิมหลังนี้พบว่ามีพระพุทธรูปไม้แกะสลักปางมารสะดุ้ง ซึ่งเป็นพระประธานประดิษฐานอยู่แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าพระพุทธรูปไม้แกะสลักองค์นี้สร้างขึ้นเมื่อไหร่และมีอายุกี่ปีกันแน่แต่จากการบอกเล่าของชาวบ้านต่อกันมาว่าพระพุทธรูปไม้ หรือหลวงพ่อไม้ องค์นี้มีอายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี ลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารสะดุ้งที่แกะสลักจากไม้เนื้อแข็งแต่ไม่ทราบว่าเป็นไม้อะไรมีความสูง 165 เซนติเมตร และหน้าตักกว้าง 21 นิ้ว ที่บริเวณฐานด้านหน้าแกะสลักเป็นรูปกลีบบัว 4 เหล่า และฐานด้านหลังแกะสลักเป็นรูปคนฟ้อนรำและรูปสุนัขเห่าหอน ส่วนโครงสร้างของตัวสิมผนังจะทำจากดินเหนียวที่ปั้นเป็นก้อน 4 เหลี่ยมแล้วนำมาเรียงกันขึ้นก่อนฉาบด้วยดินเหนียวอีกชั้น
แต่ปัจจุบันมีการบูรณะใหม่จึงมีการฉาบปูนทับไปอีกชั้นและโครงหลังคาทำด้วยไม้มุงหลังคาด้วยสังกะสี ส่วนที่หน้าบรรทางด้านหน้าสิมมีภาพเขียนด้วยสีน้ำเป็นรูปเทพพนมและหน้าบันทางด้านหลังสิมมีภาพเขียนเป็นรูปราหูอมจันทร์ใต้กันลงมามีรูปการละเล่นพื้นบ้านและการประกอบอาชีพของคนในสมัยก่อน ชาวบ้านเชื่อว่าสิมหลังนี้ก็มีอายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี เนื่องจากวัดมัคคสัญจาราม ตามประวัติก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2344
ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านส่วนใหญ่จะไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีพระพุทธรูปไม้เก่าซึ่งเป็นพระประธานอยู่ในสิมแห่งนี้เพราะทุกคนที่เข้าไปกราบไหว้ไม่ได้สังเกตและเข้าใจว่าเป็นพระพุทธรูปทองเหลืองทั่วไปประกอบกับมีข้อห้ามห้ามให้ผู้หญิงเข้าไปในสิมนอกจากผู้ชายเท่านั้นที่สามารถจะเข้าไปในสิมได้ จึงเชื่อว่าหลวงพ่อไม้ศักดิ์สิทธิ์มากเนื่องจากบางคืนโดยเฉพาะคืนวันพระจะมีคนมองเห็นแสงไฟ หรือดวงไฟสว่างไสวเต็มวัดก่อนจะลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยชาวบ้านเชื่อว่าเป็นลูกแก้วที่เกิดจากปาฏิหาริย์ภายในสิมแห่งนี้ที่ผ่านมาเคยมีชาวบ้านที่มีลูกเล็กที่ไม่สบายหรือร่างกายไม่แข็งแรงแต่พอมากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อไม้แล้วก็จะหายและมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงดีปกติและหลายคนเคยไปขอโชคลาภก็ได้เลขเด็ดไปเสี่ยงโชคจนถูกรางวัลมาแล้วหลายคน
ด้าน พระครูปลัดพิเชษฐ์ ยสินธโร อายุ 26 ปี เจ้าอาวาสวัดมัคคสัญจาราม บอกว่า วัดแห่งนี้ก่อตั้งมานานกว่า 200 ปีแล้ว ส่วนพระพุทธรูปไม้ที่เป็นพระประธานอยู่ภายในสิมจากการบอกต่อกันมาของผู้เฒ่าผู้แก่ภายในหมู่บ้านและเจ้าอาวาสวัดคนก่อนๆเล่าว่าพระพุทธรูปไม้องค์นี้นำมาจากประเทศลาวก่อนจะนำมาประดิษฐานไว้ภายในวัดแห่งนี้ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีสิมจึงมีการนำผ้าขาวไปคลุมพระพุทธรูปไม้เอาไว้ต่อมาได้มีการก่อสร้างสิมจึงนำเข้าไปพระประธานภายในสิมเรื่อยมา
แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่าเป็นพระพุทธรูปไม้เพียงแต่พากันกราบไหว้เฉยๆจนกระทั่งพระครูปลัดพิเชษฐ์ฯมาจำพรรษาที่วัดแห่งนี้เมื่อประมาณ 2 ปี ที่แล้วจึงได้เข้าไปทำความสะอาดภายในสิมจึงพบว่าจอมปลวกหุ้มพระพุทธรูปไม้เอาไว้เกือบครึ่งองค์จนมือด้านซ้ายถูกปลวกกัดกินหายไปต้องมีการแกะสลักไม้ทำเป็นมือมาต่อขึ้นใหม่จากนั้นจึงได้ทำความสะอาดภายในสิมทั้งหมดและมีการทาสีสิมใหม่
จนต่อมาเมื่อช่วงสงกรานต์ปี 2566 ที่ผ่านมาตนจึงได้นำพระพุทธรูปไม้องค์นี้ออกมาให้ชาวบ้านได้สรงน้ำตามประเพณีชาวบ้านจึงทราบว่ามีพระพุทธรูปไม้เก่าแก่ดังกล่าวแต่ก็ไม่มีใครยืนยันได้ว่ามีอายุกี่ปีกันแน่ หลายคนจึงเชื่อว่าน่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี เพราะผู้เฒ่าผู้แก่ได้เล่าต่อกันมาว่าเกิดมาก็เห็นสิมหลังนี้แล้ว ส่วนที่บริเวณฐานด้านหน้ามีการแกะสลักเป็นรูปกลีบบัว 4 เหล่า ก็เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เปรียบเหมือนดอกบัว 4 เหล่า และฐานด้านหลังแกะสลักเป็นรูปคนฟ้อนรำและสุนัขเห่าหอน เป็นคติธรรมเปรียบเหมือนถ้าเราทำดีแล้วก็อย่าไปสนใจคนนินทา หรือคนพูดไม่ดี โดยชาวบ้านจะพากันเรียกว่าหลวงพ่อไม้ ต่อมาตนจึงตั้งชื่อให้ใหม่เป็นพระพุทธมหาชนะชัยศรีสุวรรณภูมิ