วันที่ 27 ส.ค.2567 ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีตสส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีผู้ไปยื่นยุบพรรคเพื่อไทย ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เหตุนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีครอบงำพรรค จะกระทบต่อการทำงานของพรรคเพื่อไทยในสภาฯหรือไม่ ว่าหากมองในมุมของภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของประเทศไทยที่ผ่านมานานาชาติมองว่าการเมืองไทยไม่มั่นคง รัฐบาลไม่แข็งแรงจึงทำให้เกิดการย้ายฐานธุรกิจไปหลายประเทศ ดังนั้นการจะยุบหรือไม่ยุบพรรคนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยด้าน แต่หากเกิดการยุบด้วยเงื่อนไขใดก็ตาม ตนในฐานะสมาชิกพรรค ก็ไม่ติดขัดอะไรที่จะดำรงชีวิตกับสิ่งที่เป็นอยู่ และจะเดินหน้าต่อไปเพื่อช่วยเหลือประชาชน
นายจิรายุ กล่าวว่า แต่อยากฝากเรื่องความเชื่อมั่นของประเทศ หากดูจากการโหวตน.ส.แพทองธาร ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา วันนั้นหุ้นไทย ขึ้นอยู่ในแดนบวกมาโดยตลอด และจะเกิดอะไรขึ้นภาวะเศรษฐกิจของประเทศ อาจจะขับเคลื่อนและเดินหน้าต่อไม่ได้
“ขอให้ประเทศมันเดินหน้าไปสัก 3-4 ปี หาก 4 ปี ไม่ไหว ก็เลือกตั้ง เลือกรัฐบาลใหม่ เลือกพรรคการเมืองใหม่ แต่ถ้าทำดีท่านก็เลือกพรรคเพื่อไทยในอนาคต” นายจิรายุกล่าว
เมื่อถามว่า การยื่นยุบพรรคจะเป็นการล้มพรรคการเมืองคู่แข่งหรือไม่ นายจิรายุ กล่าวว่า เรื่องการยุบพรรคเป็นเรื่องที่เกินความคาดเดา และคาดหวังอะไรไม่ได้ แต่หากให้บ้านเมืองเดินหน้า มีภาวะความแข็งแรง ก็ไม่ควรที่จะมีการยุบพรรค
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่จะให้ประเทศไทยเดินหน้าโดยการสร้างความปรองดอง นายจิรายุ กล่าวว่า ทุกวันนี้บ้านเมืองถือว่ามีความปรองดองพอสมควร เพียงแต่สถานการณ์ปัจจุบัน ในโลกของประชาธิปไตยที่มีนักร้อง ก็ถือเป็นสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย แต่การไปร้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเจตนาพิเศษที่ตั้งเป้าว่าต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ส่วนตัวมองว่าต้องระวัง
ส่วนโผครม. ล่าสุด ที่เก้าอี้ของนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังไม่นิ่งนั้น นายจิรายุ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยได้จัดบุคลากรได้อย่างดีในการบริหารราชการแผ่นดินมาโดยตลอด ดังนั้นต้องเคารพการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ใครก็ตามที่มาทำงานให้กับรัฐบาลเชื่อว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถทั้งสิ้น
เมื่อถามว่าหากเก้าอี้กลาโหมไม่ใช่นายสุทิน จะเป็นรอยต่อของยุคหรือไม่ นายจิรายุ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่านายสุทิน จะอยู่หรือจะไป แต่วันนี้นายสุทินยังคงทำงานอยู่ ยังคงเรียกหน่วยงานขึ้นตรงต่อกระทรวงกลาโหมมาประชุม เพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมอยู่ ดังนั้นท่านจะอยู่ หรือจะไป ก็ถือว่ายังทำงานอย่างมีสปิริต ไม่ว่าใครจะมาเป็น เราก็ทำงานแบบไร้รอยต่อ