เรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค เคล คอส ฟิลเลย์ไอซ์เบิร์ก และผักสดหลากหลายชนิดบนแปลงเพาะปลูกของนิคมชุมชนเกษตรแม่เมาะ จังหวัดลำปาง กำลังงอกงามและเติบโตพร้อมรอการเก็บเกี่ยว นับเป็นภาพของวิถีเกษตรชุมชนที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบการทำเกษตรสมัยใหม่ที่อาจกลายเป็น Smart Farmer ในอนาคตอันใกล้

พื้นที่หมู่บ้านอพยพตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง เป็นพื้นที่ภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ติดกับภูเขา ไม่เหมาะกับการทำการเกษตรเท่าไรนัก แต่ได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยทำให้การเพาะปลูกได้


ผลผลิตที่ดีและพัฒนาไปสู่ผลิตภัณฑ์ผักปลอดสารเคมีจากเทคโนโลยี เกษตรกรรมแนวตั้ง (Indoor Vertical Farm) และเกษตรอินทรีย์ (Organic Farm) ที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ในชุมชนร่วมกันบริหารจัดการ ภายใต้ “บริษัท นิคมชุมชนเกษตรแม่เมาะ จำกัด”

กว่าจะเป็นพืชผักมูลค่าสูง จากเกษตรกรรมแนวราบสู่เกษตรกรรมแนวตั้ง

          จากเกษตรกรรมแนวราบหรือการปลูกพืชบนหน้าดินที่เป็นความคุ้นเคยและเป็นอาชีพหลักของคนในชุมชน ได้รับการสนับสนุนจากโครงการแม่เมาะเมืองน่าอยู่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พัฒนาวิสาหกิจชุมชนไปสู่วิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) โดยร่วมกันสร้างพื้นที่สาธารณประโยชน์ของชุมชนให้เป็นพื้นที่ต้นแบบ พร้อมดึงสตาร์ตอัปด้าน Plant Factory บริษัท ไดสตาร์ เฟรช จำกัด (Distar Fresh)
มาให้ความรู้ด้านเทคนิคการทำการเกษตรแบบใหม่ที่เรียกว่า เกษตรกรรมแนวตั้ง ตั้งแต่ปี 2566

เกษตรกรรมแนวตั้ง เป็นวิธีการเพาะปลูก โดยสร้างโรงเรือนปลูกพืช (Plant Factory) ในระบบปิดรูปแบบห้องปลอดเชื้อ ปลูกโดยจัดชั้นเพาะปลูกวางเป็นแนวดิ่งซ้อนกันเป็นชั้น ๆ สามารถควบคุมทั้งการให้น้ำ ธาตุอาหาร และการควบคุมแสงให้เหมาะสม ด้วยการใช้หลอดไฟ LED แทนแสงอาทิตย์ ซึ่งข้อดีของการปลูกในโรงเรือนนั่นคือ ประหยัดพื้นที่ เพราะการสร้างโรงเรือนใช้พื้นที่เพียง 40 ตร.ม. เท่านั้น อีกทั้งยังทำได้ตลอดทั้งปี ไม่จำกัดฤดูกาล รวมถึงสามารถลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ สภาพอากาศ ป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืชซึ่งเป็นภัยคุกคามร้ายแรงของผู้ที่ทำอาชีพเกษตรกรรมด้วย

          การปลูกพืชผักในห้องปลอดเชื้อต้องดูแลอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่คัดสรรพันธุ์ผักมูลค่าสูง เช่น เคล สวิสชาร์ด มิซูน่า การเพาะเมล็ด การดูแลให้น้ำ ธาตุอาหาร แสง จนกระทั่งการเก็บเกี่ยวและใส่บรรจุภัณฑ์ ซึ่งผู้ดูแลจะต้องสวมชุด PPE ในทุกกระบวนการ เพื่อควบคุมสิ่งปนเปื้อนที่มาจากภายนอก ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรรมแนวตั้งแห่งนี้มีกำลังการผลิตถึง 1 ตัน/เดือน ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ภาคเหนือ

ส่งมอบผักสดถึงมือผู้บริโภค

          การปลูกพืชผักมูลค่าสูงที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้รักสุขภาพที่ต้องการทานผักสดสะอาดปลอดภัยนั้นสามารถทำราคาได้ดี แต่การหาช่องทางการจัดจำหน่ายและทำการตลาดในช่วงแรกให้เป็นที่รู้จักไม่ง่ายนัก
การจำหน่ายผักสดจาก Plant Factory ของชุมชนบ้านดงแห่งนี้ จึงเริ่มจากการทำในรูปแบบ OEM (Original Equipment Manufacturer) เป็นแหล่งผลิตผักสดส่งให้กับ บริษัท Distar Fresh และยังมีผลผลิตอีกบางส่วนนำมาขายผ่าน Online ภายใต้แบรนด์ Mae Moh Fresh นับเป็นการสร้างเศรษฐกิจใหม่ให้กับชุมชนอีกด้วย

            

เสริมความยั่งยืนด้วยวิถีธรรมชาติ

          นอกเหนือเกษตรกรรมแบบแนวตั้ง ยังมีพื้นที่พอสำหรับต่อยอดได้อีก กฟผ. แม่เมาะ จึงร่วมกับเครือข่ายและชุมชน พัฒนาโรงเรือนเกษตรอินทรีย์ 6 โรงเรือน โดย กฟผ. แม่เมาะสนับสนุนทุนในเบื้องต้น ปลูกผักเกษตรอินทรีย์ ได้แก่ เรดคอรัล, เรดโอ๊ค, ฟิลเลย์ไอซ์เบิร์ก, เบบี้คอส, กรีนโอ๊ค แบบเปิดที่มีการติดตั้งมุ้งกันแมลงพร้อมระบบควบคุมน้ำ และนวัตกรรมปลูกผักบนโต๊ะ เพื่อป้องกันวัชพืชทำให้ไม่ต้องใช้สารเคมี
ให้เป็นต้นแบบแหล่งเกษตรอินทรีย์ที่ครบวงจร และการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรมที่สร้างรายได้จากการขายผลผลิตแล้วยังสร้างรายได้ให้กับชุมชนผ่านการจ้างงานรายวัน/รายชั่วโมง เพื่อดูแลเกษตรอินทรีย์ที่มีกำลังการผลิตสูงถึง 3 – 5 ตัน/เดือนด้วย

   

ขยับฝันก้าวเข้าสู่ตลาด Mass

          การหาตลาดที่พร้อมรองรับสำหรับผักเกษตรอินทรีย์  ได้เครือข่ายภายใต้แพลตฟอร์ม “Farmbook” มาทำหน้าที่เชื่อมโยงความต้องการของผู้ผลิตและผู้ซื้อเข้ามาอยู่ด้วยกัน โดยระบบจะช่วยจับคู่การตลาดให้เกษตรกรวางแผนการปลูกพืชล่วงหน้าที่ตรงตามความต้องการกับผู้ซื้อ ซึ่งสามารถเข้าถึงแหล่งสินค้าได้โดยตรง เพื่อให้ผักที่ปลูกนั้นขายออกได้ 100 % ปัจจุบันผักที่ผลิตได้ทั้งหมดถูกส่งไปขายภายใต้แบรนด์ Aro ของ Makro ตลาด Mass ที่ส่งออกทั่วประเทศ เป็นความภาคภูมิใจของนิคมชุมชนเกษตรแม่เมาะ ซึ่งไม่เคยคาดฝันมาก่อนว่าจะสามารถทำได้

ก้าวต่อไปของนิคมชุมชนเกษตรแม่เมาะ 

นิคมชุมชนเกษตรแม่เมาะในวันนี้ หากมองในเรื่องของการลงทุนและความคุ้มทุนอาจจะยังไม่ใช่คำตอบ แต่สิ่งที่ได้รับเป็นเรื่องของการพัฒนายกระดับการทำเกษตรรูปแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นการสร้าง “เกษตรใหม่ เศรษฐกิจใหม่ ชีวิตใหม่” ให้กับชุมชนของตนเอง ซึ่งในอนาคตชุมชนและเครือข่ายยังได้วางแผนเพิ่มโรงเรือนเกษตรอินทรีย์ และปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้เป็น Net Zero Product ที่ปลอดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดกระบวนการผลิต อีกทั้งในอนาคตอันใกล้ยังมุ่งสู่การเป็น บริษัท นิคมชุมชนเกษตรแม่เมาะ จำกัด ในรูปแบบวิสาหกิจเพื่อสังคม ที่จะนำรายได้ทั้งหมดจากผลผลิตกลับเข้าสู่วิสาหกิจฯ สามารถยืนหยัดพึ่งพาได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืนต่อไป

          หากต้องการลิ้มรสผักสด สะอาด ปลอดภัย ที่ปลูกจากความใส่ใจของนิคมชุมชนเกษตรแม่เมาะ ตามสโลแกน “ใส่ใจทุกขั้นตอนพร้อมมอบสุขภาพที่ดีให้กับคุณ” จะสดและอร่อยขนาดไหน สามารถมา F กันได้ทาง Line ID : @maemohfresh หรือ โทร 08 0747 7599 นะจ๊ะ