วันที่ 26 ส.ค.2567 เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านทั้งในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และ จ.อุดรธานี ซึ่งถูกบริษัทขายกาแฟแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี   หลอกลงทุนรูปแบบขายกาแฟโดยที่ไม่ต้องขายเอง โดยจะเป็นการลงทุนซื้อกาแฟแล้วทางบริษัทจะเป็นผู้ขายสินค้าให้ และรอรับผลตอบแทนเป็นเงินกำไรจากการขาย โดยแพ็คเก็จเล็กราคา 13,580 บาท จะได้กลับคืน 18,900 บาท ซึ่งจะได้กำไร 5,320 บาท และแพ็คเก็จใหญ่ 67,900 บาท จะได้กลับคืน 94,500 บาท ซึ่งจะได้กำไร 26,600 บาท และแต่ละแพ็คเก็จยังสามารถไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวทั้งในประเทศไทและต่างประเทศได้อีกด้วย ทำให้มีคนหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก

โดย น.ส. นวลจันทร์  อายุ 62 ปี 43 ม.6 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี กล่าวว่า ได้ร่วมลงทุนไปทั้งหมด 8 แพ็คเก็จ แบ่งเป็นแพ็คเก็จใหญ่ 4 แพ็คเก็จ และเพ็คเก็จเล็กอีก 4 แพ็คเก็จ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 347,200 บาท โดยแพ็คเก็จแรกลงทุนไป 67,900 บาท และได้รับผลตอบแทนตรงทุกงวดที่มีการโอนเงินมาให้รวม 94,500 บาท พร้อมได้ไปเที่ยวกับคนอื่นๆที่ร่วมลงทุนด้วยกัน รวมๆที่ได้เงินคืนมาประมาณ 130,000 บาท

ทั้งนี้เริ่มแรกจากได้รับการชักชวนจากลูกศิษย์ที่เคยสอนหนังสือ ที่จ.อุดรธานี ให้ไปเที่ยวด้วยกันซึ่งยังไม่ได้ลงทุนอะไร บอกมีคนสละสิทธิ์ไม่ได้ไปเที่ยว เสียแต่ค่ารถไปจึงตกลงไปเที่ยวด้วย โดยเป็นการไปเที่ยวที่ จ.กาญจนบุรี แล้วก็ได้เห็นระบบการทำงานของบริษัทฯ พร้อมทั้งได้ไปดูบริษัทดังกล่าวที่ จ.ปทุมธานีด้วย ซึ่งคณะที่ไปเที่ยวจะเป็นการซื้อแพ็คเก็ตไปเที่ยวก่อนหน้านี้โดยเป็นการลงทุนขายกาแฟ หลังจากท่องเที่ยวที่ จ.กาญจนบุรีเสร็จเดินทางกลับมาบ้าน ลูกศิษย์คนนี้ก็ตามมาที่บ้านอีกแล้วเล่าให้ฟังและได้ชักชวนให้ร่วมลงทุนบอกว่าจะได้ผลตอบแทนเป็นเงินและได้ท่องเที่ยวด้วย ซึ่งขณะนั้นตนเองเพิ่งเกษียณใหม่ๆ ทำใหม่ทำให้ช่วงนั้นมีเงินจึงได้ลองลงทุนไป เป็นแพ็คเก็จใหญ่ จำนวน 4 แพ็ดเก็จ โดยแบ่งเป็นการลงทุนในช่วงต้นเดือน กลางเดือน และปลายเดือน เพราะจากที่ได้เห็นระบบการทำงาน และเห็นบริษัทก็เกิดความน่าเชื่อถือ และได้ไปเที่ยวภูเก็ต กับฮ่องกง

ภายหลังจากได้ซื้อแพ็คเก็จแรกๆก็ได้ตรงตามทุกเดือนและเดือนหนึ่งเข้าเดือนละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 10,000-20,000 บาท และได้กาแฟมาทานประมาณ 20 กล่อง พอหมด 4 แพ็คเก็จก็ได้ลงทุนเพิ่มใหม่เป็นแพ็คเก็จเล็ก กระทั่งช่วงปลายยเดือน พ.ย.2566 เงินเริ่มสะดุด ทวงถามไปก็ได้คำตอบว่าให้แจ้งมาว่าเดือนไหนยังไม่ได้ ตนเองก็ได้แจ้งไปแต่ก็แจ้งไป ทีแรกหลังจากแจ้งไปก็ได้เงินคืนมาบ้าง พอพักหลังเริ่มเป็นเดือนที่และไม่ได้อีกเลย ไลน์กลุ่มทวงถามไปก็บอกเพียงจะแจ้งกลับ ก่อนจะไม่มีใครพูดอะไรในไลน์กลุ่ม สอบถามลูกศิษย์ไปได้คำตอบว่าบริษัทขาดสภาพคล่องจะโอนเงินคืนให้อยู่ แต่ก็ไม่ได้ ตอนนี้เดือดร้อนเงินก็ไม่มีเพราะเป็นหนี้บัตรเครดิตมาลงทุนทุกเดือน คำตอบล่าสุดได้รับคำตอบเพียงว่าทางบริษัทขอปรึกษากันก่อนแล้วจะแจ้งไปแต่สุดท้ายก็ไม่แจ้งอะไรมา และยังบอกอีกว่าใครจะแจ้งความหรือไปฟ้องก็ไปแจ้งเลย เพราะทนายเค้าเก่ง ซึ่งเชื่อว่าตัวเองถูกหลอกแล้วอย่างแน่นอน จึงมาร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนและเตรียมร้องทุกข์ผ่านทางตำรวจภูธรภาค 4

ขณะที่ นาง บัวเรียน   อายุ 64 ปี  ม.7 ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี กล่าวว่า รู้จากเพื่อนที่ค้าขายด้วยกัน ซึ่งหลังจากเลิกขายปูแดงเนื่องจากผิดกฎหมายต่างคนต่างแยกย้ายไปทำมาหากินอย่างอื่น ซึ่งเพื่อนคนนี้ได้ไปทำงานที่บริษัทกาแฟดังกล่าว มาหาถึงที่บ้านและชักชวนร่วมลงทุนเช่นกัน พร้อมทั้งพาไปกินข้าวและพาไปประชุมที่โรงแรมในเมืองอุดรธานี และแนะนำเรื่องการลงทุน ตนเองมองว่าได้ทั้งเที่ยวฟรีและได้เงิน จึงร่วมลงทุนแพ็คเก็จใหญ่กับเพื่อนรายนี้ไป 20,000 กว่าบาท

ซึ่งเพื่อนรายนี้บอกว่าถ้าอยากได้เต็มจำนวนก็ค่อยโอนเงินมาเพิ่มให้ครบ 67,900 บาท พอผ่านไป 2 เดือน เงินเข้าในบัญชีตรงตามที่บริษัทพูดไว้ ทำให้มองว่าน่าจะได้เงินจริงๆ จริงติดต่อเพื่อนกลับไปขอลงทุนเองทั้งหมด ผ่านไป 6 เดือนอยากได้อีกเพราะมีแพ็คเก็จไปเที่ยวที่ภูเก็ต จึงลงทุนเพิ่มไป 67,900 บาท และก็ได้ไปเที่ยว ตนเองก็ตัดสินใจลงทุนไปอีกเพราะจะได้ไปเที่ยวกระบี่ ก็ยังเห็นเงินเข้าทุกๆเดือน ทุกๆแพ็คเก็จที่ลงทุนไปก็ได้ผลตอบแทนกลับมาทั้งหมด จึงลงทุนเพิ่มไปอีก รอบนี้ได้ไปเที่ยวเวียดนาม พอกลับจากเวียดนาม ก็ได้ลงทุนไปเที่ยวภูเก็ตอีกครั้ง จึงลงทุนไปเรื่อยๆแต่ก็เริ่มไม่ได้เงินและไม่ได้ไปเที่ยว

ทั้งนี้หลังจากนั้นบอกว่าจะพาไปเที่ยวเมืองจีน ก็ยังลงทุนไปอีก 67,900 บาท แต่ก็ไม่ได้ไปเที่ยวและล่าสุดบอกจะพาไปที่ซาปา เวียดนามก็ยังลงทุนไปเพิ่มอีก และยังมีแพ็คเก็ตไปเที่ยวสิงคโปร์ 13,000 กว่าบาทก็ยังลงทุนไป แต่ก็ไม่ได้ไปเที่ยว ซึ่งแต่ละแพ็คเก็ตแรกๆก็ได้เงินตามปกติ แต่เริ่มงวดที่ 7 เป็นต้นไปเริ่มไม่ได้เงินตอบแทนมาแล้ว กระทั่งเชื่อว่าไม่น่าจะได้เงินคืนแล้ว และมีคนอื่นๆที่ร่วมลงทุนเช่นกันชวนไปแจ้งความตนเองจึงตัดสินใจไปร่วมแจ้งความด้วยเพราะเชื่อว่าเป็นการหลอกลวงอย่างแน่นอน  และที่ลงทุนไปหลายแพ็คเก็จรวม 8 แพ็คเก็จนั้น เพราะคิดแค่ว่าตัวเองแก่แล้ว ต้องลงทุนแบบเบาๆ หาเงินแบบใช้สมองจึงลงทุนไปเรื่อยๆ และต้องการที่จะท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆจากการโฆษณาเชิญชวน และแต่ละครั้งที่พากันไปเที่ยวก็เหมารถบัสไปทีละ 3-4 คัน และนั่งเครื่องบินแบบเหมาลำไปเที่ยวต่างประเทศด้วย

พร้อมกันนี้ นางบัวเรียน กล่าวต่ออีกว่าหลังเกิดเรื่องก็ได้สอบถามไปหาเพื่อนที่ขายปูแดงด้วยกัน ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นมือขวาของเจ้าของบริษัท บอกตอนนี้บริษัทมีปัญหาขายกาแฟไม่ได้ ขอให้รอไปก่อน แต่พอขอกาแฟมากินกลับบอกว่ากาแฟขายดีไม่มีกาแฟให้ ผลิตไม่ทัน แต่กลับไม่มีเงินให้ จึงตัดสินใจมาร่วมร้องทุกข์กับคนอื่นๆด้วย เพื่อไม่ให้คนที่กำลังตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อในขณะนี้ ถูกหลอกเอาเงินเหมือนพวตนเองอีก เพราะทราบมาว่า ได้ปิดกลุ่มของตนเองแล้วไปเปิดอีกกลุ่มโดยใช้วิธีการหลอกเหมือนกันแค่เปลี่ยนชื่อใหม่