จากกรณี เจ้าของร้านตัดผมย่านลาดพร้าว-วังหิน 38 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกลุงอายุ ประมาณ 50 ปี ที่เป็นลูกค้าเข้ามาตัดผม แล้วไม่พอใจที่ช่างตัดผมสั้นเกิน พร้อมตบบังคับให้กราบเท้าขอโทษ อ้างตัดสั้นขนาดนี้ “กูไม่ได้จะไปบวชเป็นพระ”
ล่าสุด วันที่ 26 ส.ค.67 ทางทีมงานได้ลงพื้นที่ไปยังร้านตัดผมซึ่งตั้งอยูริมถนนลาดพร้าววังหิน พบกับนายศุรวุฒิ อายุ 37 ปี ช่างตัดผม ผู้เสียหาย เล่าว่า เกิดเหตุเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.30 น. ลูกค้าคนก่อเหตุเข้ามาร้านตัดผม ซึ่งตอนนั้นไม่มีคิว ผู้ก่อเหตุก็เข้ามานั่งที่เก้าอี้ตัวแรก และบอกกับตนเองว่า “ตัดทรงลองทรงสูง ขอข้างบนสั้นๆ” ซึ่งหลังผู้ก่อเหตุพูด ตนเองก็หยิบอุปกรณ์มา และใส่ฟันรองทรงเบอร์ 10 ไถ่ปัตตาเลี่ยน ที่บริเวณบรศีรษะฝั่งซ้าย ไถ่ไปได้ประมาณ 1 นาที ไถ่ไปไม่กี่ครั้ง จู่ๆ ผู้ก่อเหตุก็โวยวาย บอกว่า ตัดสั้นไป ตนเองก็บอกว่า ก็ลูกค้าบอกให้ตัดข้างบนสั้นๆ ซึ่งตนเองคิดว่า ผู้ก่อเหตุคิดว่าตนเองเถียง จึงยิ่งทำให้ผู้ก่อเหตุยิ่งโวยวาย จนลุกออกมาพยายาทจะตบทำร้ายตนเอง ละบอกว่า “ตัดสั้นแบบนี้ไม่ได้จะไปบวชนะ” และพยามเงื้อมือตบเข้าที่กกหูข้างซ้าย และให้ตนเองขอโทษ ซึ่งตนเอง ก็ก้มลงไปขอโทษ แต่ก็บอกว่าให้กราบลงไป พร้อมเอามือมากดหัว และโวยวายว่าจะคุยกับเจ้าของร้านเท่านั้น ผู้ก่อเหตุยังพูดตอนโวยวายด่าผู้เสียหายอีกว่า ไหนบอกตัดมาหลายปี ทำไมไม่เหมือนที่คุย และยังบอกอีกว่ามาตัดกับเจ้าของร้านก็ไม่เคยเป็นอะไร
ช่างผมผู้เสียหาย ยังบอกอีกว่า ตนเองเป็นช่างตัดผมมา 6-7 ปี และไม่ตัดที่ร้านนี้ได้ประมาณ 1 ปี ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรและไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ยอมรับว่า ตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้น และงงกับเหตุการณ์เพราะตนเองตัดไปได้แปปเดี๋ยว และผู้ก่อเหตุเห็นได้อย่างไรว่าสั้นทั้งที่เพิ่งตัด และเมื่อถามว่า ถูกบังคับให้กราบขอโทษ รู้สึกเสียศักดิ์ศรีหรือไม่ บอกว่า ตนเองไม่ได้คิดอะไร ก้มกราบขอโทษไปก็เพราะอยากให้เรื่องจบ ไม่อยากติดใจเอาความอะไร และหลังจากนี้ตัดผมลูกค้าจะถามรายละเอียดให้ดีก่อนว่าสั้นคือสั้นแบบใด ส่วนเหตุการณ์วันนั้นก็จบลง ด้วยการเรียกตำรวจสน.โชคชัย และเจ้าของร้านเข้ามาคุย ซึ่งคนก่อเหตุก็มีการขอโทษมาแล้ว
ขณะที่ นางสาวดล อายุ 41 เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ตอนเกิดเหตุไปหาหมอไม่ได้อยู่ที่ร้าน ระหว่างนั้นพนักงานที่ร้านโทรศัพท์มาบอกให้รีบกลับร้านทันที ระหว่างนั้นได้ดูคลิปกล้องวงจรปิดก็พบว่า การกระทำของลูกค้ารู้สึกว่าทำเกินกว่าเหตุ เพราะโดยปกติแล้วหากลูกค้าไม่พอจะมีแค่การต่อว่าเท่านั้น แต่ครั้งนี้ลูกค้าได้มีการพยายามตบศรีษะช่าง ทั้งที่ช่างก็ได้ขอโทษไปแล้ว และยังมีช่างผู้หญิงมาขอโทษหลายครั้งลูกค้าก็ไม่ยอมหยุด จนกระทั่งช่างผู้ชายได้มีการขอโทษอีกครั้ง ลูกค้ากลับเอามือกดหัวช่างลงกับพื้น และตบศรีษะช่างอีกรอบ อีกทั้งยังตามไปตบช่างที่บริเวณหน้าเคาท์เตอร์อีกครั้งและไม่ยอมจบ ตัวเองจึงรีบโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาระงับเหตุและรีบเข้ามาในร้าน
ซึ่งภายในคลิปจะเห็นได้ว่าช่างมีความนอบน้อมและไม่ได้โต้ตอบอะไรลูกค้าเลย เพราะทางร้านคอยบอกช่างตัดผมทุกคนเสมอว่าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ต้องรีบขอโทษก่อนเพราะเป็นความผิดของช่าง ส่วนตัวมองว่าการกระทำแบบนี้ทำให้รู้สึกหดหู่ใจ และไม่โอเค การกระทำเหมือน “คนชั้นต่ำ ทำร้ายร่างกายช่างเหมือนช่างไม่ใช่คน“
โดยปกติหากลูกค้าจะใช้บริการจะต้องมีการสื่อสารระหว่างช่างกับลูกค้าก่อนตัดเสมอ ซึ่งครั้งนี้อาจจะมีการสื่อที่ผิดพลาดเล็กน้อย เพราะเมื่อไปดูภาพวงจรปิด ตอนลูกค้าเข้าร้านมาลูดค้าได้บอกกับช่างว่า“เอารองทรงสูงสั้นๆ” ซึ่งช่างได้มีการถามแล้วว่าเอาสั้นขนาดไหน และได้มีการตดลงกันแล้ว ช่างจึงใช้หวีรองเบอร์ 10 ซึ่งส่วนตัวมองว่า ลูกค้าคงเข้าใจผิดว่าการใช้หวีรองนั้น ทรฃผมที่ได้มาจะต้องสั้นแบบทรงสกรีนเฮท หรือสั้นคล้ายพระ จนได้คุยกับลูกค้า ลูกค้า อ้างว่าช่างไม่มีการสื่อสารถึงขั้นตอนการตัดแต่อย่างใด ว่าจะตัดส่วนไหน แต่โดยปกติแล้วช่างจะสื่อสารแค่ความพึ่งพอใจระกว่างการตัดเท่านั้น
เจ้าของร้านยืนยันว่า ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเนื่องจากดูจากพฤติกรรมแล้วดูเป็นการก่อกวน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการขอโทษและได้เจรจายอมความกันไปแล้วต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เมื่อเห็นคลิปอีกครั้งก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ
เมื่อถามชาวบ้านระแวกนี้ว่า รู้จักชายผู้ก่อเหตุหรือไม่ ชาวบ้านบอกว่าไม่คุ้นตา ไม่เคยเห็น เพราะมีคนพลุกพล่าน จึงไม่คิดว่าเป็นคนแถวนี้