“สมศักดิ์” สั่งยกระดับ สธ. เพิ่มความเข้มข้นช่วยน้ำท่วม ให้สาธารณสุขทุกจังหวัด เตรียมรับมือ-ช่วยเหลือประชาชนด่วน ย้ำ ต้องตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์ฯ เพื่อส่งทีมแพทย์ฉุกเฉินลงพื้นที่ช่วยผู้ป่วยติดเตียง พร้อมช่วยฟื้นฟูหลังน้ำลด-เฝ้าระวังความเสี่ยง 5 กลุ่มโรคมากับน้ำ 


วันที่ 26 สิงหาคม 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด และมีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบอีกหลายจังหวัด เพราะกรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีการแจ้งเตือนฝนตกหนักมาก 26-28 ส.ค.67 ทั้งจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ขอนแก่น และชัยภูมิ ตนจึงได้เพิ่มระดับความเข้มข้น ให้กระทรวงสาธารณสุข ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง และประเมินความเสี่ยงของสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่มในทุกจังหวัด เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข โดยกรมวิชาการของกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ได้มีการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และการสาธารณสุข และดำเนินการซ้อมแผนตอบโต้เหตุการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่ม เพื่อสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่มในพื้นที่ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด จะต้องสื่อสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ผลกระทบ และความเสียหายของเหตุการณ์ ให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อพิจารณาดำเนินการตอบโต้เหตุการณ์ดังกล่าว 

นายสมศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า หากเหตุการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่มในพื้นที่เป็นภาวะฉุกเฉิน ทางสาธารณสุข ต้องจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน โดยกระทรวงสาธารณสุข ต้องพิจารณาจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับจังหวัด เพื่อตอบโต้เหตุการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่ม ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์ฯ ประกอบด้วย 1.ทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์สำหรับให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน 2.ชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วสำหรับดูแลประชาชนที่เดินทางไปโรงพยาบาลไม่สะดวกหรือถูกตัดขาดจากอุทกภัย ผู้ป่วยติดเตียง รวมทั้งสถานที่อพยพของผู้ประสบภัยอุทกภัย 3.ทีมปฏิบัติการทางสิ่งแวดล้อมสำหรับการดูแลด้านสุขาภิบาล สำหรับจัดการด้านสุขาภิบาล และสิ่งแวดล้อม 4.ทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต สำหรับดูแลสุขภาพจิต และ 5.ทีมทรัพยากรและกำลังบำรุงสำหรับจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์แก่ประชาชน และหน่วยบริการในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย เป็นต้น

“หลังผ่านพ้นเหตุการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่ม กระทรวงสาธารณสุข ก็จะต้องดำเนินการฟื้นฟูทางการแพทย์และสาธารณสุข ประกอบด้วย การช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤตอย่างต่อเนื่อง การปรับปรุงสุขาภิบาล และสิ่งแวดล้อม การเฝ้าระวังความเสี่ยงด้านโรคและภัยสุขภาพ 5 กลุ่มโรค 1. กลุ่มโรคปนเปื้อนอาหารและน้ำ 2. กลุ่มโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ 3. กลุ่มโรคนำโดยแมลงและสัตว์นำโรค 4. กลุ่มโรคติดต่ออื่น ๆ 5. กลุ่มการบาดเจ็บ พร้อมต้องมีการประเมิน ปรับปรุงสถานบริการสาธารณสุขที่ได้รับผลกระทบ และศึกษาผลกระทบจากอุทกภัยที่มีต่อชีวิต ทรัพย์สินของประชาชน เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการอุทกภัยในอนาคต เป็นต้น ผมจึงขอให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมการ และปฎิบัติอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด” รมว.สาธารณสุข กล่าว