"ภูมิธรรม" ลุยน้ำท่วมเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย อ.ท่าวังผา จ.น่าน เร่งทุกหน่วยงานสำรวจพื้นที่น้ำท่วม เร่งเยียวยาประชาชน อย่ารอจนน้ำลด
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี มอบถุงยังชีพแก่ ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยที่อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดูแลฟื้นฟู วางแผนป้องกันปัญหาระยะยาว
วันนี้ (25 สิงหาคม 2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และคณะ ประกอบด้วย นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยภาคเหนือ และสถานการณ์น้ำในภาพรวมของพื้นที่ จ.น่าน ผ่านรถ Mobile War Room หน่วยวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์น้ำ จากสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และ มอบสิ่งของให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยที่วัดอัมพวัน ตำบลศรีภูมิ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน โดยมีนายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นำคณะให้การต้อนรับและให้ข้อมูล และมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนในพื้นที่จำนวน 728 ชุด สำหรับพื้นที่อำเภอท่าวังผาได้รับผลกระทบ ตำบล 1,379 ครัวเรือนพื้นที่ทางการเกษตร 4,678 ไร่ น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 4,000 หลังคาเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 คน
ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านได้สรุปเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดน่าน อยู่เป็นพี่มีประสบอุทกภัย 11 อำเภอ 65 ตำบล ประชากรได้รับความเสียหายกว่า 20,000 หลังคาเรือน มีผู้เสียชีวิต รวม 3 คน นับเป็นความเสียหายมากที่สุดในรอบ 10 ปี
การดำเนินการให้ความช่วยเหลือต้องนำคนออกจากบ้านเรือนให้เร็วที่สุด ระดมเรือท้องแบนเรือกู้ภัยจากภาคราชการและเอกชนช่วยลำเลียงประชาชนออกมา เยียวยา จัดหาอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อ น้ำดื่มและยารักษาโรค ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งโรงครัว แจกจ่ายอาหารให้แก่ผู้ประสบภัย
สถานการณ์น้ำที่จังหวัดน่านขณะนี้น้ำได้ลดลงไปมากที่สถานี N1 น้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.5 เมตร พื้นที่ในเมือง น้ำลด เกือบหมดแล้วยังเหลือเพียงบ้านบ้านภูมินทร์ท่าลี่ ที่น้ำยังคงระดับสูงอยู่สถานการณ์ เริ่มเข้าสู่ภาวะฟื้นฟู ซึ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านได้สั่งการให้มีการบูรณาการทหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านฟื้นฟูซ่อมแซมบ้านเรือน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความชื่นชมในการประสานบูรณาการร่วมมือทำงานอย่างเต็มที่ของทุกภาคส่วนในพื้นที่ 3 จังหวัด แพร่ น่าน และเชียงรายที่ได้เข้าไปเยี่ยมเยียนในระยะนี้ ทั้งนี้เพื่อ สร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน อีกทั้งรับทราบปัญหาและสถานการณ์ ซึ่งจังหวัดน่านขณะนี้น้ำร้อยละ 60 ได้ไหลเลยไปแล้วยังเหลืออีกประมาณร้อยละ 30 การพยากรณ์และคาดหมายลักษณะอากาศล่วงหน้ามีความแม่นยำ ระบบการแจ้งเตือนของทางจังหวัดได้ผล ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสาร และมีการระวังป้องกัน แต่เหตุที่เกิดเป็นเหตุสุดวิสัยจากภัยธรรมชาติ ซึ่งต้องช่วยเหลือฟื้นฟูกันต่อไป
จะเห็นได้ว่าภัยพิบัติต่างๆ เกิดมาจากความเปลี่ยนแปลงของภาวะโลกร้อนซึ่งต้องช่วยดูแลตั้งแต่ต้นน้ำและต้องมีการวางแผนดูแลทั้งระบบ โดยขอให้เรื่องน้ำเป็นวาระแห่งชาติ จากการวางแผนปี 2554 มีการวางแผนการใช้เงินแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบประมาณ 2-3 ล้านล้านบาท ในปีนี้น่าจะประมาณ 5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัว เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาทั้งระบบ ดำเนินการตั้งแต่ต้นน้ำ โดยเฉพาะในภาคเหนือซึ่งอาจจะใช้เงินมากหน่อยแต่คุ้มค่าในระยะยาว
น้ำท่วมน่านครั้งนี้เป็นน้ำหลาก หลังจากนี้ต้องฟื้นฟู กระทรวงพาณิชย์ต้องดูแลไม่ให้ของขาดตลาด ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สำรวจจุด ทางน้ำไหลจุดน้ำท่วมในอนาคต และป้องกันก่อนที่น้ำจะมาถึงโดยจะต้องมีแนวทางแก้ปัญหา ช่องทางน้ำจะต้องมีการเจาะทะลุให้น้ำระบาย ส่วนของการฟื้นฟูให้แต่ละจังหวัดรวบรวม หากเกินกว่ากำลังพื้น ให้ของบกลางมาดำเนินการ โดยให้JISDA ร่วมกับ สทนช. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหมนำข้อมูลและแผนที่มาร่วมกันวิเคราะห์ วางแผน โดยพื้นที่ที่น่าเป็นห่วง คือที่จังหวัดสุโขทัย ซึ่งได้เตรียมจุดรับน้ำที่ทุ่งบางระกำ โดยพื้นที่ภาคเหนือมีจุดรับน้ำกว๊านพะเยาอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อกรุงเทพมหานคร จากการคาดการณ์ ปลายเดือนกันยายน สถานการณ์น่าเป็นห่วง อาจจะมีฝนตกหนัก ขอให้ประชาชนเฝ้าระวัง