วันที่ 25 สิงหาคม 2567 เวลา 07.30 น. พ.ต.ท.วัชรพงศ์ เทียนประถัมภ์ สารวัตรเวรสอบสวนสภ.สามโคก ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีรถชนจำนวน 3 คัน มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 รายบาดเจ็บ 1 ราย บนถนนปทุมธานี-สามโคกมุ่งหน้า สามโคก หมู่ 7 ตำบลบางเตยอำเภอสามโคกจังหวัดปทุมธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูและรถกู้ชีพเทศบาลบางเตย ที่เกิดเหตุ พบ รถกระบะ Mitsubishi  สีขาวหมายเลขทะเบียน 6 กญ 6389 กรุงเทพมหานคร สภาพท้ายรถถูกชน ได้รับความเสียหาย  ทราบชื่อ นายบดี อายุ 53 ปี เสียชีวิตอยู่ใกล้ถังขยะ ด้านหลังพบกระบะ Isuzu d-max 4 ประตู แต่งซิ่ง หมายเลขทะเบียน กว 9481 พระนครศรีอยุธยาสภาพเสียหายทั้งคันพบคนขับกระเด็นออกนอกรถเสียชีวิต ทราบชื่อ นายพีระพงษ์  อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา   และยังพบรถกระบะ Isuzu d-max 4 ประตูสีขาว แต่งซิ่ง หมายเลขทะเบียน กษ 2248 พระนครศรีอยุธยา อีก 1 คันฝั่งตรงข้าม มุ่งหน้าปทุมธานี สภาพ เสียหายทั้งคัน ทราบชื่อ นายเฉลิมพล อายุ 36 ปี ชาว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับบาดเจ็บ กู้ชีพบางเตยนำส่งโรงพยาบาลปทุมธานี  

จากการสอบถามนายเฉลิมพล  คนขับรถ Isuzu d-max กล่าวว่า ตนเองจะขับรถกลับบ้านย่านบางไทรอยุธยา ขณะนั้นได้แวะเติมน้ำมันจำนวน 200 บาท และขับต่อมา และว่าจะแวะซื้อขนมไทยริมถนน ขณะนั้นได้มีรถ Isuzu d-max 4 ประตู ขับมาเหมือนเบิ้ลเครื่องใส่ตน ตนจึงไม่แวะซื้อขนมและตนจึงเร่งเครื่องแข่งกันมา ขณะจะข้ามสะพานคลองเกาะใหม่ตนเองได้ ยกคันเร่งทำให้รถสะบัดไปโดนรถที่แข่งมาด้วยกัน รถตนจึงข้ามเกาะกลางถนนไปอีกฝั่ง ได้รับบาดเจ็บ

จากการสอบถาม นางสาว ณรรฐวรรณ์ อายุ 53 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิตขับรถกระบะ Mitsubishi  กล่าวว่า ตนเองกับสามี จะไปงานแต่งที่อ่างทองขณะนั้นได้แวะข้างทางเพื่อทิ้งขยะ ซึ่งสามีได้ลงไปทิ้งขยะ ส่วนตนเองได้นั่งรออยู่บนรถขณะนั้นได้รู้สึกว่ามี รถมาชนด้านท้ายอย่างแรงจนรถตัวเอง หมุนเคว้งเลื่อนออกไปอยู่กลางถนนจากนั้นตนเองก็ เปิดประตูออกมาดูก็พบว่า ถังขยะกระจัดกระจายใกล้กันพบสามีเสียชีวิต  

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สามโคก พร้อมแพทย์นิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบถาม ผู้บาดเจ็บ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และให้อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายส่งนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตและจะประสานญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป