ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ทางกรมควบคุมโรคได้แถลงข่าวโดยระบุว่า พบผู้ต้องสงสัยป่วยฝีดาษลิงรายแรกของไทย คือ เป็นชาวยุโรป (เพศชาย) อายุ 66 ปี เดินทางมาจากประเทศในแถบแอฟริกา สถานที่พบการระบาดของฝีดาษลิงสายพันธุ์ Clade 1B ซึ่งมีในแถบประเทศแถบตะวันออกกลาง ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 แต่ผลการตรวจยืนยันยังไม่ชัดเจน ซึ่งคาดว่า วันที่ 23 สิงหาคม นี้ จะสามารถยืนยันผลได้ โดยในการนี้ได้มีการค้นหาตัวผู้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ประมาณ 43 ราย และขอให้ผู้ที่เดินทางมาจากทวีปแอฟริกา สังเกตอาการภายใน 21 วัน และหากมีอาการไข้ มีผื่น ต่อมน้ำเหลืองโต ให้รีบไปพบแพทย์ ทัน

ผู้สื่อข่าวรายงาน ล่าสุดด้านนายแพทย์ สุรวิทย์ ศักดานุภาพ สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดสมุทรสาคร ยังไม่พบผู้ที่มีความเกี่ยวข้องหรือใกล้ชิดกับผู้ต้องสงสัยป่วยฝีดาษลิงรายล่าสุด โดยและได้มีการติดตามเรื่องนี้เพื่อเฝ้าระวังแล้วทั้งในกลุ่มคนไทยและต่างชาติ แต่ในสมุทรสาครเคยพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงแล้วเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา จำนวน 2 ราย โดยรักษาตัวในสมุทรสาคร 1 ราย และอีก 1 ราย ขอกลับไปรักษาตัวที่ จ.ราชบุรี โดยมีการควบคุมโรคเผ้าระวังผู้สัมผัสอยางงใกล้ชิด และคนในครอบครัวของทั้ง 2 รายในขณะนั้น ซึ่งไม่มีการได้รับเชื้อต่อ และผู้ป่วย 2 รายดังกล่าวก็ได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติแล้ว

สำหรับการสำรวจพบผู้ต้องสงสัยที่เป็นฝีดาษลิงราย ล่าสุดมีระบบการเฝ้าระวังโรคดังกล่าวของส่วนกลาง ทั้งนี้ในส่วนของ จ.สมุทรสาคร ก็ดำเนินการตามขั้นตอน อย่างไรก็ตามหากพบว่า มีการระบาดจากผู้สัมผัสและผู้ติดเชื่อของโรค จะต้องเข้าสู่ระบบการรักษาดูแลเพื่อป้องกันมิให้เกิดมีการระบาดเป็นวงกว้าง ทั้งนี้ในส่วนการติดต่อโรคติดต่อนั้น เป็นการติดต่อกันแบบใกล้ชิด หรือ การมีเพศสัมพันธ์ ส่วนการติดต่อกันได้นั้น เช่น ลักษณะทางไอ-จาม ทั้งนี้ส่วนการจะที่จะติดต่อไปสู่คนในบ้านยังมีน้อยมาก

ซึ่งผลเมื่อเทียบดูจากผลระบาดที่ผ่านมาเมื่อประมาณ 2 ปี พบว่าเรื่องการติดเชื้อใน ประเทศไทยประมาณ 800 คน ปรากฏว่า เป็นคนไทยประมาณ 700 คน แลชาวต่างชาติ 100 คน ในขณะที่ชาวสมุทรสาครว่ามีเพียง 2 รายจากอดีต