ผู้เสียชีวิตบนเที่ยวบินมรณะ อาจกลายเป็นผู้สูญหายไปอย่างชั่วนิรันดร์ หลังภารกิจการค้นหาได้ยุติลงแล้ว ทั้งส่วนราชการและหน่วยกู้ภัยยอมถอย เหตุเลนลึกดูดจมยิ่งขุดยิ่งสไลด์ไหลลง ทำได้เพียงนำบางชิ้นส่วนที่แหลกเหลวไปตรวจดีเอ็นเอยืนยันชิ้นเนื้อ เพื่อแบ่งแยกให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีให้ครบทั้ง 9 รายก่อน เพื่อจบสิ้นภาระกิจปิดการค้นหาไปอย่างถาวร

วันที่ 23 ส.ค.67 เวลา 19.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายพิสิษธ์ ประเสริฐศรี นายก อบต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ภารกิจการค้นหาซากเครื่องบินเล็กที่ตกในพื้นที่ และคนที่มาบนเครื่องรวม 9 ชีวิตได้ยุติลงแล้วเมื่อเวลา 15.30 น. หลังจากการใช้รถแบ็คโฮขนาดใหญ่บูมยาวถึง 14 เมตรล้วงควานค้นหาที่บริเวณบ่อโคลนใต้ซากจุดที่เครื่องบินตกจนสุดแขนบูมแล้วไม่พบอะไรเพิ่มเติมอีก ซึ่งหากจะทำการค้นหาต่อไปจะต้องใช้เครื่องจักรกลที่มีก้านแขนบูมยาวกว่านี้อีกและยังต้องปักชีทไพล์ป้องกันดินสไลน์ เนื่องจากหลังจากขุดล้วงลงไปแล้ว ดินด้านบนก็ยิ่งไหลสไลด์ลงไปยังด้านล่าง ภายในบ่อที่ขุดขึ้นมา

ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายกับรถแบ็คโฮที่มีโอกาสลื่นไหลลงไปภายในบ่อเลน จนอาจถูกฝังกลบเสียเองได้ ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงได้ขอนำชิ้นส่วนร่างกายที่เก็บได้ทั้งหมดไปทำการตรวจอัตลักษณ์แบ่งแยกดีเอ็นเอทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ได้ชิ้นส่วนของร่างผู้เสียชีวิตครบทั้ง 9 ราย ให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ก็จะยุติการค้นหาอย่างถาวร

โดยนายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ผู้บัญชาการเหตุการณ์จึงได้สั่งให้ยุติการค้นหาลง ส่วนทางฝ่ายของบริษัทผู้เป็นเจ้าของเครื่องบินนั้น หากต้องการจะค้นหาเพิ่มเติมเพื่อนำซากของเครื่องไปพิสูจน์หาสาเหตุการตกของตัวเครื่องบินนั้น ให้ทางฝ่ายของทางบริษัทเป็นผู้มาดำเนินการค้นหาต่อได้ ซึ่งการค้นหาในลำดับต่อไปนั้น หากมีการดำเนินการจะต้องเปิดพื้นที่การค้นหาเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ หรืออาจจะต้องย้ายดินเพื่อค้นหา จึงจะสามารถค้นหาได้อย่างทั่วถึงทั้งพื้นที่ โดยจะต้องมีการประสานกับทางเจ้าของที่ดินแปลง 21 ไร่นี้ด้วย ในการดำเนินการว่าจะยินยอมอย่างไรหรือไม่