CPW” ครึ่งปีแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 35.67 ลบ. โต 23.47% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โกยรายได้รวมอยู่ที่ 4,294.53 ลบ. เพิ่มขึ้น 22.36% จากงวดเดียวกันของปีก่อน รับดีมานด์สินค้ากลุ่มโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และแท็บเล็ต “ปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข” แม่ทัพใหญ่ ส่งซิกทิศทางครึ่งปีหลังเติบโตดีกว่าปีก่อนแน่นอน โดยสินค้าเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยหนุนยอดขาย และในช่วงไตรมาส 4 โค้งสุดท้ายของปีจะมี iPhone เป็นสินค้าเรือธง
เมื่อวันที่ 23 ส.ค.67 นายปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 35.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.78 ล้านบาท หรือ 23.47% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 28.89 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 4,294.53 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 3,509.75 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.36% เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายโทรศัพท์มือถือ ขณะที่รายได้จากการขายสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ คอมพิวเตอร์ และแท็บเล็ตลดลง
โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทฯ มีร้านค้าปลีกภายใต้การบริหารงานจำนวน 102 สาขา ประกอบด้วย ร้าน dotlife (ดอทไลฟ์) จำนวน 23 สาขา ร้าน Apple Brand Shop จำนวน 26 สาขา (แบ่งเป็น iStudio by copperwired จำนวน 17 สาขา U.Store by copperwired จำนวน 9 สาขา ศูนย์บริการ iServe จำนวน 2 สาขา ร้าน AIS จำนวน 26 สาขา Samsung จำนวน 20 สาขา และ ร้าน Xiaomi จำนวน 5 สาขา
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด สำหรับผลประกอบการในงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท โดยวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 28 สิงหาคม 2567 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 29 สิงหาคม 2567 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 11 กันยายน 2567
นายปรเมศร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 2567 คาดว่าจะทำได้ดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยได้รับอานิสงส์ของการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีเข้าสู่ระบบ AI ที่ปัจจุบันได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ในหลากหลายองค์กรธุรกิจ ทำให้ผู้บริโภคหรือผู้ประกอบการต้องอัปเดตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของตนเองทั้งมือถือ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต เพื่อให้ทันต่อโลกในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วงผลักดันการเติบโตให้แก่บริษัทได้เป็นอย่างดี ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาบริษัทยังได้เริ่มแผนขยายช่องทางการจำหน่ายร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ ซึ่งเป็นระดับบิ๊กเนมชั้นนำเพื่อจำหน่ายสินค้าไปยังผู้บริโภคได้มากขึ้น ประกอบกับได้หาสินค้าแบรนด์ไลฟ์สไตล์ รวมถึง IoT เข้ามาเสริมพอร์ตตอบโจทย์ความต้องการหรือเทรนด์ผู้บริโภคมากขึ้น
ทั้งนี้แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุด เพราะเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจสินค้าไอทีและสมาร์ทโฟน เนื่องจากจะมีสินค้าใหม่เปิดตัววางจำหน่าย โดยเฉพาะสินค้าเรือธงอย่าง iPhone และสินค้ายี่ห้ออื่นที่ทยอยเปิดตัวในช่วงโค้งสุดท้ายของปี อาทิ Samsung, Xiaomi, Nothing เป็นต้น รวมถึงสินค้ากลุ่ม Gadget & Accessory และสินค้ากลุ่มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่จะทยอยออกมาเพิ่มมากขึ้น
สำหรับ iPhone บริษัทฯ ได้ขึ้นเป็นประเทศ Tier-1 ของการจำหน่ายมือถือไอโฟนแล้วอย่างเป็นทางการ ทำให้ขายสินค้าได้เร็วขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 3 จากเดิมที่จะเริ่มขายได้ในไตรมาส 4 อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการดำเนินงานโดยรวมของปี 2567 บริษัทยังมั่นใจรายได้จะดีกว่าปีที่ผ่านมา