หมายเหตุ : “เสรี สุวรรณภานนท์” อดีตวุฒิสมาชิก  วิเคราะห์เจาะลึกถึงการเมืองไทย กับรายการ “สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์” ภายหลังจากที่มี “แพทองธาร ชินวัตร” มาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 จากนี้สถานการณ์จะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะที่มีความเชื่อมโยงกับ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯคนที่ 23  ออกอากาศ ผ่านช่องยูทูบ Siamrathonline เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2567

- ทั้งที่เราเพิ่งได้นายกรัฐมนตรี คนใหม่ เมื่อวันที่ 16 ส.ค.67 ที่ผ่านมา แต่เหตุใดจึงมีคำถามตามมาว่ารัฐบาลที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯนั้นจะอยู่ยาวหรือสั้น

ในทางการเมืองนั้น การที่รัฐบาลจะอยู่ได้ยาวหรือสั้น ก็อยู่ที่เสถียรภาพของการตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตั้งรัฐบาลในปัจจุบันนี้นั้น จะเห็นได้ว่าการที่จะตั้งรัฐบาลได้นั้นต้องมีหลายพรรคการเมืองมาร่วมด้วย ดังนั้นการมีหลายพรรคการเมืองมาร่วม ทำให้เสถียรภาพไม่มั่นคงอยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นปัญหาเดิม เพียงแต่ในกรณีของรัฐบาลที่มีคุณแพทองธาร เป็นนายกฯ นั้นก็อาจจะมีคำถามเพิ่มว่า การที่คุณแพทองธาร เข้าสู่การเมือง โดยที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน ดังนั้นเรื่องของประสบการณ์ทางการเมืองเป็นเรื่องที่ต้องสร้างสม

อย่างไรก็ตาม ผมมองว่าประสบการณ์ทางการเมืองก็เป็นปัญหาอยู่ระดับหนึ่ง แต่ปัญหาใหญ่คือการขึ้นอยู่กับตัวรัฐบาลเอง ที่จะสามารถรวมพรรคการเมืองต่างๆได้อย่างมั่นคงหรือไม่ ถ้าพรรคการเมืองให้ความร่วมมือในการจัดตั้งรัฐบาล แล้วผลประโยชน์ลงตัว ไม่ขัดแย้งกัน หรือหากขัดแย้งกัน ก็ตกลงกันได้ รัฐบาลก็จะอยู่ได้

- มีการตั้งข้อสังเกตว่าตัวคุณแพทองธาร นั้นได้ติดตามการเมืองมาตั้งแต่สมัยที่พ่อเล่นการเมือง เป็นนายกรัฐมนตรี ตรงนี้จะช่วยได้บ้างหรือไม่

ก็อาจจะได้บ้าง เพราะการมีประสบการณ์ ก็จะสามารถนำมาใช้ในการตัดสินใจ ในการทำงาน เพียงแต่ในกรณีของคุณแพทองธาร อาจจะมีตัวช่วยเยอะ ไม่ได้เข้ามาด้วยตัวเอง แต่เป็นเพราะมีคุณพ่อเป็นเจ้าของพรรคการเมือง เป็นที่ยอมรับในมวลหมู่ของพรรคเพื่อไทย  แต่ขณะเดียวกันประสบการณ์ทางการเมืองของคุณทักษิณ เองก็มีจุดอ่อนเยอะ ถูกโจมตี ถูกดำเนินคดี แต่อย่างไรก็ตาม การมีประสบการณ์นั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณแพทองธาร เอง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะทำได้

เพราะอย่างน้อยที่ไม่มีเรื่องการทุจริต คอร์รัปชั่น ไม่มีการใช้อำนาจเกินกว่าที่ควรจะเป็น ไม่ลุแก่อำนาจ มีความรู้ความเข้าใจในการที่จะอยู่ร่วมกันของพรรคการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าผลประโยชน์ลงตัว อย่างไรก็อยู่ได้ 

แต่สิ่งที่จะทำให้อยู่ไม่ได้ อยู่ที่ปัจจัยข้างนอก จะสามารถทำให้ประชาชนพึงพอใจหรือไม่  แก้ปัญหาปากท้องให้ชาวบ้านได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาก็มีแต่นโยบาย แต่ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง จุดนี้คือสิ่งที่ต้องแสดงฝีมือ แสดงผลงาน  นอกจากนี้ยังต้องมีคนที่มีความรู้ทางการเมือง ฉะนั้นถ้ามีกุนซือที่ดี มีการตัดสินใจที่ดีในการแก้ปัญหา ก็คงจะอยู่ได้

- การที่มีคุณทักษิณ เป็นกุนซือ ขณะเดียวกัน ตัวคุณทักษิณ เองก็ได้พ้นโทษ สิ่งเหล่านี้จะเป็นจุดอ่อนหรือจุดแข็งอย่างไร

สำหรับตัวคุณทักษิณ แม้จะมีจุดแข็งในตัวเองแต่ขณะเดียวกัน ก็มีจุดอ่อนมาก ถูกพูดถึงหลายเรื่อง ถูกโจมตีหลายๆเรื่อง ดังนั้นโดยรวมก็จะขึ้นอยู่กับเสียงข้างมากในสภาฯ  ในปัจจุบันนี้ไม่ว่าใครจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งอะไรก็จะถูกขุดคุ้ยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้การต่อสู้ทางการเมือง ไม่ได้ต่อสู้กันที่เสียงข้างมากอีกแล้ว  เพราะในสภาฯ หากใครแพ้ ก็เอาไปฟ้องศาล โดยเฉพาะศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ นี่คือปัญหาของประเทศอย่างหนึ่ง

ลงมติในสภาฯจบแล้ว แต่เรื่องยังไม่จบ นำออกไปฟ้องศาล ซึ่งตามกติการัฐธรรมนูญ ว่าไว้อย่างนั้น ทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองกันตลอดเวลา แทนที่จะเอาเวลาไปบริหารประเทศ กลับกลายเป็นว่าต้องเอาเวลาไปแก้ตัว ไปสู้คดี ไปๆมาๆแล้วประชาชนเดือดร้อน เพราะนักการเมือง ที่ควรจะเป็นตัวแทนประชาชน กลับไม่ได้เอาเวลามาบริหารประเทศ ไม่ได้เอาเวลามาดูแลประชาชน

- จากการที่คุณแพทองธาร ขึ้นมาเป็นนายกฯคนที่31 อีกด้านหนึ่ง คุณทักษิณ ก็ถูกมองว่าโดนล้อมกรอบ และเป็นหมากบังคับ ที่ต้องใช้ลูกสาวตัวเอง ซึ่งเป็นเหมือนไพ่ใบสุดท้ายแล้ว

จริงๆแล้วปัญหาไม่ใช่แค่คุณทักษิณ เพราะเขาก็เป็นส่วนหนึ่ง โดยมาจากเรื่องที่ผ่านมาของตัวเองมากมาย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา เนื่องจากแต่ละพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงมา มันกลายเป็นเสถียรภาพรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้น จะยุติหรือไม่นั้น ผมว่าคงเป็นเรื่องยาก ก็คงต้องให้สถานการณ์เดินไป เพราะปัญหาเหล่านี้มันเกิดขึ้นแบบวันต่อวัน เกิดขึ้นแต่ละช่วงเวลา ถ้าพูดกันตามตรงคงหาความสงบได้ยาก

-มีความกังวลกันว่าการที่มีชื่อของคุณแพทองธาร เป็นนายกฯคนที่ 31 และบวกกับไทม์ไลน์ที่คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเดินทางกลับประเทศไทย สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวเร่งที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย และความปั่นป่วน จนเกิดม็อบ และนำไปสู่การรัฐประหารอีกหรือไม่ จนทำให้พรรคเพื่อไทยเอง เสนอร่างกฎหมายสกัดรัฐประหาร ซึ่งวันนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภากลาโหมไปแล้ว แสดงว่าความกังวล

การจะมีรัฐประหารอีกหรือไม่ ผมตอบไม่ได้ แต่สิ่งที่มันจะเกิดขึ้นคือโอกาสที่บ้านเมืองจะไปสู่ความขัดแย้งขึ้นมาอีกสูง เพราะในทางการเมืองเอง แม้พรรคการเมืองเองจะรวมตัวกันได้ แต่การลุแก่อำนาจ การใช้นิติสงคราม เอากฎหมายมาสู้กัน ซึ่งนี่คือกระบวนการที่มันเกิดขึ้น ส่วนประโยชน์ส่วนตัวเองนั้น จะสร้างปัญหาตามมาแน่นอน เพราะต้องเข้าใจว่าการเมืองในบ้านเรานั้นพร้อมที่จะเกิดปัญหาได้ตลอด และในทางการเมืองก็มีโอกาสเกิดปัญหาขึ้น เพราะมีคนรอจังหวะ จากสถานการณ์ที่มันสุกงอมขึ้นมา

อย่างกรณที่หากมีการหยิบประเด็นเรื่องคุณยิ่งลักษณ์ จะกลับบ้าน ก็มีคนรอจ้องอยู่แล้ว ดังนั้นแม้จะมองว่ามีสส.ในสภาฯสนับสนุน มีเสียงข้างมากในสภาฯแล้ว แต่หากมีการลุแก่อำนาจ มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ให้กับคดีความผิดม.112 หรือจะออกกฎหมายคาสิโน หรือคิดจะออกกฎหมายอื่น แล้วหวังว่าจะได้สว.กลุ่มใหญ่สายสีน้ำเงินสนับสนุน ซึ่งจุดนี้คนก็อาจจะมองว่าเป็นพวกเดียวกันแล้ว ทุกอย่างราบรื่นแล้ว

แต่อย่าลืมว่าการใช้อำนาจโดยไม่มีการถ่วงดุล หรือคานอำนาจ ก็จะกลายเป็นการลุแก่อำนาจไป ในบ้านเมืองก็จะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เขาไม่ยอม ในที่สุดภาคประชาชนก็จะทนไม่ได้และออกมาตรวจสอบเอง ก็จะเกิดการชุมนุม มีการขับไล่กัน จากนั้นก็จะย้อนยุคกลับไปที่เดิม บ้านเมืองไม่สงบ ซึ่งอย่าไปคิดว่ามีพรรคการเมืองแล้ว มีสว.เสียงส่วนใหญ่แล้ว เป็นพวกเดียวกันหมด แต่ถ้ายังปล่อยให้ใช้อำนาจไปในทางที่ประชาชนไม่เห็นด้วย โอกาสที่จะเกิดความขัดแย้งในบ้านเมือง ก็จะสูงขึ้นกว่าเดิม เมื่อบ้านเมืองควบคุมกันไม่ได้ ก็ไปเข้าทาง กลับสู่ทางเดิมอีก ซึ่งไม่ควรให้มันเกิดขึ้น

-หมายความว่าถ้ารู้อยู่แล้ว ถึงแม้จะมีกฎหมายสกัดรัฐประหาร ก็ไม่น่าที่จะป้องกันได้

ถ้าพูดกันตรงๆ ก็ต้องบอกว่า การที่ไปออกกฎหมายป้องกันรัฐประหารนั้น ในความเป็นจริง ไม่มีทางสำเร็จหรอก ไม่ว่าจะออกกฎหมายอะไรมา แล้วยิ่งมีความเข้มข้นกับการไปสกัดกั้น ถ้าหากเขาใช้อำนาจ ใช้อาวุธ ใช้ปืนยึดอำนาจในประเทศ แล้วกฎหมายฉบับไหน ที่ขัดขวาง เขาก็ฉีกหมดอยู่ดี ฉะนั้นการออกกฎหมายแบบนี้ไม่ใช่การแก้ปัญหาหรอก เพียงแค่เป็นการสร้างภาพ ป้องกันการปฏิวัติรัฐประหาร

แต่สิ่งที่จะป้องกันการทำรัฐประหารดีที่สุด คือการทำงานทำหน้าที่ การบริหารบ้านเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่สร้างปัจจัยความขัดแย้งให้แก่กองทัพ อย่าไปลิดรอน อย่าไปใช้อำนาจเหนือกว่าเขา ปล่อยให้เป็นไปตามครรลอง สิ่งที่ควรจะเป็น ก็จะอยู่ได้

ถ้าคุณไม่ทุจริต คอร์รัปชั่น ก็ไม่มีใครเอาเหตุมาอ้างได้ และคุณจะต้องไม่กระทบสถาบัน ถ้าคุณจะปกป้อง คุณก็ต้องคุ้มครอง รักษาให้มั่นคง ถ้าคุณไม่คอร์รัปชั่น รักษาบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อย ทหารก็จะไม่มีโอกาสออกมาปฏิวัติรัฐประหารหรอก แต่ที่ผ่านมามีการไปสร้างเงื่อนไขให้เกิดขึ้น แล้วไปโทษคนอื่น แต่คุณต้องทำให้เป็นประชาธิปไตยจริงๆ อย่าเป็นนักการเมืองที่ฉ้อฉล ไม่แสวงประโยชน์ให้พวกพ้อง บ้านเมืองก็อยู่ได้ มันอยู่ที่นักการเมืองจะเป็นคนทำ