วันที่ 23 ส.ค.2567 ที่กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการเสนอรายชื่อ ครม.ของแต่ละพรรคจนเกินโควต้ารัฐมนตรีที่มีอยู่ ว่า ถามตนไม่ได้เพราะในส่วนของตนเสนอไปเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยเราเสนอไป ตั้งแต่สามวันที่แล้ว  

เมื่อถามถึงการดึง สส.จากพรรคอื่นมาเพิ่มจะไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของนายกฯจะไปก้าวก่ายก้าวล่วงไม่ได้  และไม่สามารถที่จะไปสอบถามได้เพราะในส่วนของตน  ที่รับผิดชอบดูแลอยู่  เราได้จัดการทุกอย่างไปเรียบร้อยแล้ว

เมื่อถามว่ามีบุคคลที่ถูกมองว่าอาจมีปัญหาในเรื่องคุณสมบัติ หากมีปัญหาจะมีการติดต่อกลับมาเพื่อดำเนินการอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า  ก็เห็นว่าทางเลขาธิการครม.และเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ก็ได้รับมอบหมายให้ไปตรวจคุณสมบัติ และถ้ามีข้อสงสัยใดๆ ก็คงจะถามไปยังเจ้าตัว  เจ้าตัวก็จะต้องชี้แจง และการชี้แจงดีที่สุดก็คือต้องชี้แจงด้วยเอกสารที่จะพิสูจน์ข้อสงสัยทั้งหลายได้ และก็ควรจะมีขีดจำกัดไม่ใช่ถามไปเรื่อยๆ จนไม่รู้จะไปหาคำตอบที่ไหน เราก็ต้องใช้หลักกฏหมายที่เรียกว่า ถ้าคนมันยังไม่ผิด ก็ต้องปฏิบัติเหมือนกับคนบริสุทธิ์ ไม่สามารถไปปฏิบัติเหมือนเป็นผู้ที่มีความผิดใดๆได้

เมื่อถามย้ำว่าหากผลตรวจออกมาแล้วพรรคร่วมก็ควรจะต้องยอมรับใช่หรือไม่ นายอนุทิน   กล่าวว่า  ถ้าชี้แจงไม่ได้  สมมุติเรามีข้อห้ามเรื่องจริยธรรม  คำว่าจริยธรรม คืออะไร

"ถ้าชัดเจนว่าเคยทุจริต เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกจากทุจริต   จากการค้ายาเสพติด จากคดีที่ไม่ใช่ลหุโทษ ก็ต้องชี้แจง  ถ้าชี้แจงไม่ได้ ผมคิดว่านายกก็คงไม่กล้านำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ มันมีขั้นตอนอยู่แล้ว เขาถึงให้ฝ่ายกฎหมาย   และฝ่ายอำนวยการคือเลขา  ครม. และกฤษฎีกาตรวจสอบอย่างเต็มที่ หากตรวจสอบประวัติเสร็จเร็วก็เป็นเรื่องดีจะได้มีรัฐบาลใหม่ นายกฯ ก็จะได้เข้ามาปฏิบัติราชการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เราต้องไม่ทำให้ช้า

ดังนั้นคำถามหรืออะไรต่างๆ มันจะต้องมีขีดว่า ถามแค่นี้แล้ว  ถ้าแค่นี้เค้าตอบได้ก็ต้องไม่สงสัยแล้ว  เพราะไม่อย่างนั้นสมมุติเกิด ใครมาถามเรื่อยๆ  เกิดเจ้าตัวขอเวลา 5 วัน ถามไปสัก 20 คน  ก็ไม่เรียบร้อยกันพอดี  ผมเชื่อมั่นว่านายกฯคงได้มีการสั่งการไปแล้ว " นายอนุทิน กล่าว