เจ้าของสถานดูแลผู้สูงอายุ ร้องกองปราบฯ ถูกเนิสซิ่งแคร์อีกแห่งข่มขู่ฆ่า ใส่ร้าย ซ้ำยังขู่ว่าจะให้วัยรุ่นมารุมโทรมลูกสาว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ส.ค.67 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ.พร้อมด้วย ทนายเจส นายณัฐปกรณ์ สุดชา พาผู้เสียหายเจ้าของสถานดูแลผู้สูงอายุร้อง ถูกคู่กรณี ข่มขู่ฆ่า ใส่ร้ายซ้ำยังขู่ว่าจะให้วัยรุ่นแถวบ้านมารุมโทรมลูกสาว
นางเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหายเล่าว่า กรณีนี้เกิดขึ้นจากที่ คู่กรณีตนมา ขอดิวงาน ที่สถานดูแลผู้สูงอายุของตน แต่ตนได้ปฏิเสธไป เพราะดูแลผู้สูงอายุตนไม่สามารถดิวงานกับใครได้ เลยทำให้เขาไม่พอใจ เขาไปโพสต์ในเพจ เฟสบุ๊ค ในกลุ่มหางาน ว่า ดูแลผู้สูงอายุ ตน ไม่มีประสิทธิภาพ และดูแลผู้สูงอายุไม่ดี และเปิดดูแลผู้สูงอายุแบบผิดกฎหมาย และเขายังส่งข้อความมาในเพจ สถานดูแลผู้สูงอายุตน ข่มขู่ ว่าจะฆ่า และ จะจ้างวัยรุ่นแถวบ้านเขา ให้มารุมโทรม ขมขื่นลูกสาวตน ซึ่งตนมีลูกสาวอยู่ 3 คนคนเล็กอายุ 9 ปี คนกลาง อายุ 15 ปี คนโต 22 ปี คนโต ทำงาน อยู่ เวรรับจ้างที่สถานดูแลผู้สูงอายุตนห่วงความปลอดภัยของลูกตนเพราะ ลูกสาวตนต้องเข้าเวรทำงานกะดึก กลัวว่าจะได้รับอันตราย จึงอยากขอความเป็นธรรม
ตนได้แจ้งความไว้ที่ สถานีตำรวจนครบาลบุคคโล และ สถานีตำรวจนครบาลบางเขน ตำรวจเรียก เขา มารับทราบข้อกล่าวหา และได้ส่งข้อความมาให้ตนไปถอนแจ้งความ แต่ตนก็ไม่ได้ไปถอนแจ้งความ จึงทำให้เขาไม่พอใจ เขาก็ไปโพสต์ ในเพจต่างๆ ว่าสถานดูแลผู้สูงอายุ ของตน ทำผิดกฏหมาย เปิดแบบผิดกฎหมาย และมีการรับต่างด้าวเข้ามาทำงานในสถานดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งทุกอย่างที่เขาไปโพสต์ไม่เป็นความจริง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้จนมีลูกค้า ได้โทรมายกเลิก ว่าจ้างสัญญาทุกอย่างที่ได้ตกลงกัน ทำให้ตนเสียหาย ตนยอมรับว่าไม่ได้มีปัญหากันตั้งแต่แรก ถึงแม้ เขาจะมาเปิดสถานดูแลผู้สูงอายุก่อนเรา แต่ตนยืนยันว่าไม่เคยไปแย่งลูกค้าเขา จนวันที่เขามาขอดิวงานจึงเป็นเหตุให้จุดชนวน แบบนี้ขึ้น และพยายามก่อกวน จนทนไม่ไหวจึงต้องมาอยู่กับสามีที่เขตเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร แต่เค้าก็ยังไม่หยุด พยายามไปก่อกวนที่สถานดูแลผู้สูงอายุตน จึงอยากวอนให้ตำรวจสอบสวนกลางช่วยเหลือตนในเรื่องนี้
ทนายเจส กล่าวต่อว่า ในกรณีนี้ เป็นการกระทำ ที่ไม่เหมาะสม และสร้างความหวาดกลัว และหวาดระแวงให้บุคคลอื่น และหมิ่นประมาท ข่มขู่ฆ่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางจะประสานไปที่ สถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อคุ้มครองพยาน ต่อไป
เบืัองต้นพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.สอบปากคำผู้เสียตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ก่อนประสานไปยังสน. บุคโลและบางเขนท้องที่ที่ผู้เสียหายไปแจ้งความไว้ให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายตามกฎหมายต่อไป