"แพทองธาร"ไหว้ศาลหลักเมือง-พระแก้วมรกต เป็นสิริมงคลคล้ายวัน 38 ปี "ภูมิธรรม" บอกอ้วนอยู่แล้วไม่ต้องเรียก”บิ๊กอ้วน” หลังมีข่าวได้คุมกลาโหมแทน"สุทิน" ด้าน"สุทิน" ลั่นพร้อมสลับเก้าอี้รมต.ตามมติพรรค "หมอมิ้งค์" เผยได้รายชื่อรมต.ครบ เกินจำนวนเก้าอี้ในครม. แย้ม“ปชป.”เสนอโผด้วย คาดเสร็จเร็วสุดใน1สัปดาห์
เมื่อวันที่ 22 ส.ค.67 เวลา 09.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม และนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เดินทางสักการะศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร และพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 38 ปี
น.ส.แพทองธารสวมชุดผ้าไทยสีฟ้าคราม โดยทันทีที่ลงจากรถ ได้ทักทายและแซวรัฐมนตรีที่มารอต้อนรับว่าใส่ชุดสีเหมือนกัน ทั้งนายภูมิธรรม นายสุริยะ และนายสรวงศ์ เว้นแต่นายสุทินที่มาในชุดสูทเนกไทเหลือง
จากนั้น นายสุทิน ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ได้นำน.ส.แพทองธารสักการะพระหอพระพุทธรูปพระบรมสารีริกธาตุ และใส่บาตรพระประจำวันเกิด และหลังจากเดินลงมาจากหอพระ ได้มีประชาชนสวมเสื้อแดงมาตะโกนให้กำลังใจ และขอถ่ายรูป โดยน.ส.แพทองธารได้เดินเข้าไปทักทายและถ่ายภาพร่วมกัน โดยมีนายสุทินเดินประกบ จากนั้น น.ส.แพทองธารและคณะได้ใช้ผ้า 3 สีผูกหลักเมืองจำลอง ก่อนที่จะเดินเข้าไปสักการะองค์พระเมืององค์จริง ยังบริเวณด้านในและสักการะศาลเทพารักษ์ และเติมตะเกียงน้ำมัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่เสร็จสิ้นการสักการะบริเวณศาลหลักเมือง เจ้าหน้าที่ได้ส่งมอบหลักเมืองจำลองเพื่อเป็นของขวัญวันคล้ายวันเกิด พร้อมกล่าวว่า Happy Birthday ก่อนที่จะเดินข้ามถนนเพื่อไปสักการะพระแก้วมรกตพร้อมถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก
ผู้สื่อข่าวได้ถามน.ส.แพทองธารว่า รู้สึกอย่างไรที่เดินอยู่ท่ามกลางรมว.กลาโหม 2 ตามกระแสข่าว น.ส.แพทองธาร ถึงกับหัวเราะชอบใจ แต่ไม่ได้กล่าวตอบอะไร
ผู้สื่อข่าวได้แซว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาถึงก่อนล่วงหน้า ถึงกระแสข่าวที่จะนั่งรองนายกรัฐมนตรีควบรมว.กลาโหม ต่อไปนี้ต้องเรียกบิ๊กอ้วนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ถึงกับหัวเราะ ก่อนจะบอกว่า เมื่อคืนมีคนถามว่าจะมากระทรวงกลาโหมหรือเปล่า ตนก็บอกไปว่าจะมาเช้าวันนี้ มานั่งกินกาแฟที่กรมสวัสดิการฯ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กระทรวงฯ สวยหรือไม่ นายภูมิธรรม ยอมรับว่า กระทรวงสวยดี เมื่อถามย้ำว่า จะต้องเรียกว่า "บิ๊กอ้วน" ใช่หรือไม่ เนื่องจากเตรียมที่จะนั่งกระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม หัวเราะ ก่อนจะตอบว่า “ผมอ้วนอยู่แล้วไม่ต้องเรียกว่าบิ๊กหรอก” ก่อนเดินเข้าไปยังห้องพักรับรอง
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว ที่อาคารชินวัตร 3 เมื่อเวลา 10.00 น.นายเศรษฐาทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้ามายังอาคารชินวัตร 3 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ทั้งนี้ไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ มีเพียงแฟนคลับส่งเสียงให้กำลังใจ จากนั้นเวลา 10.04 น. น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามาถึงอาคารชินวัตร 3 หลังจากที่ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งศาลหลักเมืองและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยขอให้รอสื่อมวลชนอยู่พร้อมๆกัน โดยมีแฟนคลับเข้าไปแสดงความยินดี
นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนของโผ ครม. ในตำแหน่ง รมว.กลาโหม ในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังปรากฎชื่อนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการรองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ โยกมาในตำแหน่ง รมว.กลาโหม ว่า ยังไม่มีใครทราบอะไรเลย ต่างคนทำงานกันอยู่ ตนเห็นว่ามีหลายชื่อไม่แน่ใจว่าเป็นชื่อใด ในส่วนของตนนั้น ยังไม่ทราบ และหากต้องสลับเก้าอี้ไปกระทรวงอื่น หากเป็นมติของพรรคก็ทำได้ ยอมรับว่ายังไม่ได้คุยเรื่องงานในกองทัพกับนายภูมิธรรม หากมานั่ง รมว.กลาโหม แทนตน เพราะตัวท่านก็ยังขำอยู่ และไม่รู้ตัวว่าจะมาเป็น รมว.กลาโหม ยืนยันว่า วันนี้ตนยังยิ้มได้ ไม่มีปัญหา
“ผมไม่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องการจัดทำโผ ครม.ในพรรคเพื่อไทย จึงไม่ทราบว่านิ่งหรือไม่ แต่ยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยจัดได้ง่ายกว่า”
นายสุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าการจัดทำโผทหาร ต้องรอให้ได้รมว.กลาโหมที่ชัดเจนก่อนหรือไม่นั้น หากดูไทม์ไลน์โผทหารต้องเสร็จภายใน 15 ก.ย.67 ดูน่าจะมีปัญหา เพราะกว่าจะจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อย ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไหร่ เพราะต้องรอตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีใหม่ จากนั้นถวายสัตย์ฯ และแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ดังนั้นการทำโผทหารจะรอตรงนั้นไม่ได้ ต้องให้เกิดความต่อเนื่องและนำทูลเกล้าฯ ให้ทันเวลา ขณะนี้ยังหารือกันอยู่เรื่อยๆ ยังมีหลายจุดต้องพูดคุย แต่ยืนยันว่าเสร็จตามไทม์ไลน์ เมื่อถามว่า การจัดทำโผทหาร ต้องคำนึงถึงการรองรับการทำงานนายกรัฐมนตรีคนใหม่ด้วยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ทำไปตามระบบ กองทัพมีขั้นตอนอยู่แล้ว
นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการส่งรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาล ว่า รายชื่อที่ส่งมา ได้ส่งมาเรียบร้อย กำลังอยู่ในขั้นตอนการส่งตรวจ แต่เป็นรายชื่อที่เกินจำนวนรัฐมนตรี ฉะนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติทุกคน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกินจำนวนนั้นหมายถึงการส่งรายชื่อสำรองในกรณีที่บางคนคุณสมบัติไม่ผ่านใช่หรือไม่นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า ไม่เชิงสำรอง แต่ทั้งหมดอยู่ในหมวดที่ต้องพิจารณา เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐได้ส่งเกินจำนวนหรือไม่ นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า ขออนุญาตไม่ตอบ เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ส่งรายชื่อมาด้วยหรือไม่ นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า "ไม่ทราบ เขาใส่ซองมาผมไม่ได้ดู"
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ถือว่าปิดรายชื่อจบแล้วใช่หรือไม่ และเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวยอมรับว่า ใช่ กำลังตรวจคุณสมบัติอยู่ เมื่อถามว่า เช่นเดียวกับของพรรคเพื่อไทย ใช่หรือไม่ นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า เหมือนกันครับ ส่งหมดแล้ว เมื่อถามว่า คาดว่าจะส่งตรวจสอบคุณสมบัติได้ในวันไหน นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาเยอะนิดหนึ่ง จากที่เป็นปกติ แต่กระบวนการต่างๆ ทางฝ่ายของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกำลังประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว และเชื่อว่าจะทำให้ได้ รอบคอบที่สุด ในเวลาที่เหมาะสม
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวได้ขอความร่วมมือองค์กรอิสระต่างๆ ที่เป็นหน่วยตรวจสอบเข้ามาร่วมตรวจสอบคุณสมบัติตรงนี้ด้วยใช่หรือไม่ นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า คือข้อมูลมันต้องไปอย่างนั้นอยู่แล้ว และปกติก็ต้องทำอย่างนั้น คือจำเป็นจะต้องเช็กหลายๆทาง เพื่อตรวจสอบให้เกิดความรอบคอบ และคงไม่ได้ใช้เวลาถึง 2 เดือนอย่างที่เป็นข่าว เมื่อถามว่า ภายใน 2 สัปดาห์จะเสร็จหรือไม่ นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า "ผมคิดว่าไม่น่าจะเกิน เผลอๆสัปดาห์เดียวก็ได้"
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ตอบข้อสักถามผู้สื่อข่าวที่ว่าส่งรายชื่อโควตารัฐมนตรีเรียบร้อย แล้วใช่หรือไม่ ว่า ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จบหมดแล้ว เมื่อถามต่อว่า เคลียร์ทุกอย่างจบหมดแล้วใช่หรือไม่ แต่เหตุใด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะผู้จัดการรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ที่กระทรวงพาณิชย์ ว่าในส่วนของพรรคพลังประชารัฐยังไม่เรียบร้อย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อันนั้นของพลังประชารัฐ ตนไม่ได้ยุ่ง พร้อมยิ้มและมองขึ้นไปบนฟ้า
เมื่อถามย้ำว่า ในกลุ่มของร.อ.ธรรมนัสส่งรายชื่อเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส มองขึ้นไปบนฟ้า และกล่าวว่า หลังฝนตก ฟ้าก็สว่าง เมื่อถามต่อว่า หมายความว่าตอนนี้สว่างแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส หัวเราะ ก่อนจะกล่าวต่อว่า ตนพูดถึงเรื่องฝน ก่อนที่จะหัวเราะลั่นกันทั้งวงที่มีปลัดกระทรวงยืนอยู่ด้วย เมื่อถามว่า เห็นร.อ.ธรรมนัสพูดว่าน้ำชอบนายกฯหญิงเหมือนปี 54 ห่วงหรือไม่ว่าจะซ้ำรอย ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า ไม่หรอกครับ มันเป็นน้ำหลาก
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เชิญไปชี้แจงเรื่องการยื่นเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 25 มี.ค.64 โดยทาง ป.ป.ช. ได้ไต่สวนในส่วนที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวข้องว่า สำนักงานฯ มีการดำเนินการพิจารณาบรรจุระเบียบวาระร่างกฎหมายดังกล่าวอย่างไร ซึ่งทางสำนักงานฯได้ชี้แจงและแสดงหลักฐานถึงกระบวนการต่างๆ ตั้งแต่การยื่นเรื่องครั้งแรก และมีความเห็นจากการวินิจฉัยว่าร่างกฎหมายดังกล่าวนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะว่าเป็นการย้ายหมวด ย้ายจากหมวดความมั่นคง หมวดที่ร่างหมายกำหนดไว้ในหมวดหมวดใหม่
"ทางป.ป.ช.ถามมาว่ามีความเห็นอย่างไร เราตอบไปว่าอาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ และทางพรรคฯ ที่ยื่นร่างกฎหมายไม่ได้มีการแก้ไข แต่มีการเสนอเข้ามาใหม่ และได้นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานเพื่อเสนอความเห็น ซึ่งคณะกรรมการฯก็มีความเห็นเหมือนกัน แต่เพิ่มเป็น 4 ประเด็น นอกจากการย้ายหมวด ยังมีอีก 3 ประเด็นที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งแจ้งให้ทางพรรคก้าวไกลแก้ แต่ไม่ได้มีการแก้ไข ซึ่งต่างก็เป็นความเห็นทางวิชาการไม่ได้ผิดอะไร แต่ผู้ที่จะชี้ขาดว่าการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวนั้นจะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ก็คือศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งสำนักงานฯไม่ได้มีอำนาจวินิจฉัย และท้ายที่สุดก็ไม่ได้มีการรับบรรจุระเบียบวาระเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ "
ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ป.ป.ช. ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องในสำนักเลขาฯ ทยอยเข้าชี้แจงให้ข้อเท็จจริง รวมถึง นายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ซึ่งในขณะนั้นทำหน้าที่พิจารณาบรรจุวาระการประชุม รวมทั้ง 44 ส.ส.ของพรรคก้าวไกลในขณะนั้นที่ลงชื่อเสนอร่างกฎหมาย ก็ต้องเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง