“ทักษิณ” ประกาศเลือกตั้งครั้งหน้า “เพื่อไทย” มาอันดับ 1 รับ 17 ปี เห็นนรก-สวรรค์ มั่นใจ “รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง” มีเสถียรภาพ ไม่ถูกรัฐประหาร
เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2567 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้พูดเปิดใจถึง 17 ปี ที่ผ่านมาว่า มีไม่กี่คนบนโลกนี้ ที่ชีวิตเดียวเห็นทั้งนรกและสวรรค์ ถ้าจิตไม่ปรุง แต่ถือว่าไม่มีทั้งสวรรค์และนรก ตอนที่กราบแผ่นดิน 17 ปีที่แล้ว คิดว่าอยากอยู่ต่อ ไม่อยากไปอีกแล้ว วันถูกปฏิวัติไปลอนดอน มีคนบอกให้ทำใจ 3 ปี ตนบอก 6 เดือนก็ไม่เอา ตอนนั้นยอมว่าอาจประมาท พอมีกลิ่น แต่ไม่คิดว่าเขาจะกล้า หลังจากนั้นจึงเป็นที่มา 17 ปี
เมื่อถามว่ามองเศรษฐกิจไทยตอนนี้อย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทย ยังไม่ถึงจุดต่ำสุด แต่ไม่น่าลงลึกกว่านี้ คิดว่ารัฐบาลเอาอยู่ เพราะต่ำกว่านี้มันไม่ไหวแล้ว ต้องหยุดมันไว้แค่นี้ แล้วรีบดึงขึ้น การออกแรงต้องเริ่มจากรัฐบาล แต่ภาคเอกชนต้องช่วย โดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคาร ทั้งเรื่องดอกเบี้ย ซอฟต์โลน มาช่วยแก้กับดักหนี้ แต่ต้องให้เขายังมีความเป็นอิสระอยู่ และเมื่อเทียบเศรษฐกิจปี 2540 กับตอนนี้ มองว่าต่างกัน เพราะปี 2540 เงินสำรองของประเทศไม่เหลือเลย แต่วันนี้แบงก์แข็งแรง เพราะมีประสบการณ์จากปี 2540 แล้ว
เมื่อถามว่า ประเทศจะเดินหน้าไปสู่กาสิโนบนดินได้หรือไม่ และจะทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า เรามีการทำเซอร์เวย์ คนเห็นด้วยเป็นส่วนใหญ่ วันนี้เด็กอายุต่ำกว่า 20 เล่นพนันออนไลน์ sms เข้ามือถือผมทุกวัน ชักชวนให้ไปเล่นพนัน ไม่ว่าจะเป็นพนันออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์ เราสามารถใช้เทคนิคจับได้หมด แต่ไม่ทำกันเอง ยกตัวอย่างแบงก์ ถ้าบัญชีเปิดเอทีเอ็มอย่างเดียว รู้ทันทีเป็นม้าสแกม ส่วนบริษัทมือถือ โทรออกอย่างเดียว ไม่โทรเข้า รู้เลยคอลเซ็นเตอร์ แต่ไม่มีใครแก้ปัญหาจริงจัง เพราะเป็นเรื่องธุรกิจ
"วันนี้การสู้รบในเมียนมา ถูกอุดหนุนโดยไทยแบบไม่รู้ด้วย ยาเสพติด คอลเซ็นเตอร์ ซื้อปืนสวัสดิการ ออก ป.3 ไม่ออก ป.4 ซื้อเสร็จออกเมียนมาหมด ส่วนปืน M16 ซื้อจากทหาร ทหารอาจจะไม่รู้ก็ได้ แต่เด็กๆ แอบขายกัน มีทั้งกากี และเขียว"
เมื่อถามถามว่าแนวคิดการเวนคืนรถไฟฟ้ามีความหมายอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า ความหมายคือ รถไฟฟ้าในเมือง บางทีเราฆ่าควายเสร็จ ไม่ยอมซื้อเกลือ ให้เอกชนมาลงทุนต่อยอด เราเวนคืนที่ให้แล้ว ให้เอกชนมาลงทุน แน่นอนเขามุ่งกำไร เพราะอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ปัญหาคือคนขึ้นรถเมล์ ใช้เวลาเยอะ คุณภาพชีวิตตก เพราะฉะนั้นชั่วโมงเดินทางต้องลดลง และลดมลภาวะได้ด้วย ซึ่ง ตนหวังว่าสิ่งที่พูดไป จะนำความเชื่อมั่นกลับมาในหมู่คนไทย และต่างประเทศ ให้เห็นว่าประเทศไทย กำลังจะลงทุนครั้งใหญ่ ถ้าเขาเชื่อมั่น เม็ดเงินลงทุนจะเข้ามาเอง ตนเป็นนายกฯ สมัยแรก มีเงินสำรองนิดเดียว ฝรั่งถามว่ามีกลยุทธ์อะไร ตนตอบว่าช่วยเหลือตัวเองก่อน ภายใต้การนำของผม ไม่กู้เงินต่างประเทศเด็ดขาด จากนั้นมีแต่คนเอามาให้กู้
เมื่อถามว่า การเมืองไทยเปลี่ยนไปเยอะหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เพิ่งมาพ่ายแพ้เลือกตั้งครั้งล่าสุด การเมืองไทยเปลี่ยนไปเยอะ หลังปฏิวัติ การร่างรัฐธรรมนูญ จงใจให้การเมืองอ่อนแอ เพราะกลัวการเมืองแข็งแรง สมัยตนเป็นนายกฯ เพราะไม่มีประวัติศาสตร์ ว่าเลือกตั้งชนะรอบ 2 ได้คะแนน 377 เสียง แม้เขามองว่าเป็นรัฐบาลเผด็จการ แต่ประชาชนเลือกมา และทหารเผด็จการน่ากลัวกว่า
"ตอนนี้รัฐธรรมนูญ ยังมีปัญหามาก ต้องแก้เยอะ วันนี้ฝ่ายประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งแข็งแรง และสามัคคีมากพอสมควร ถึงเวลาที่ต้องแก้เพื่อให้รัฐธรรมนูญกลับคืนสู่คนไทยได้แล้ว รวมถึงต้องแก้ประชาธิปไตยไทย เพราะรัฐบาลมาจากสภา ต้องไปด้วยสภา จริงๆ หลักการของประชาธิปไตย คือ 3 เสาหลัก บริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ ควรจะเป็นแค่นี้ ตอนนี้มีอะไรก็ไม่รู้เพิ่มมา รวมไปถึงพวกนักร้องอาชีพด้วย ไม่ต้องมีแผ่นเสียงทองคำ" นายทักษิณ กล่าว พิธีกรถามว่า สมัยเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลครั้งแรก ก็มาจากรัฐธรรมนูญปี 2540 แต่ผ่านมา 20 กว่าปี เจตจำนงตรงนี้ต้องแก้ใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ต้องทบทวนการออกกฎหมายขององค์กรอิสระ ไปออกกฎหมายให้เขาเขียนระเบียบเอง คือการใช้อำนาจตุลาการ ลึกมากเกินไป "ผมโดนมาเยอะ ผมจบ Ph.D. แต่เป็นคนไม่ได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด มีคนจากก้าวไกลเคยถามผม พรรคผมจะโดนยุบไหม ผมบอกว่า ผมแค่อยู่เมืองนอก แค่โดนหมั่นไส้ โดนยุบไป 3 พรรค แล้วของคุณจะไปเหลือเหรอ" นายทักษิณ กล่าว
เมื่อถามว่ารัฐบาลปัจจุบัน เป็นรัฐบาลข้ามขั้ว จะมีเสถียรภาพแค่ไหน นายทักษิณ ตอบว่า ไม่มีปัญหา บ้านเราชอบบัญญัติศัพท์ จริงๆ แล้วบ้านเราเป็นระบบรัฐสภา ใครรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง ตั้งรัฐบาล ตามมารยาทให้อันดับ 1 รวมเสียงตั้งก่อน เขาตั้งไม่ได้เพราะไม่ยกเลิกแก้ 112 พรรคอื่นเขาบอกไม่เอาด้วย ถามว่าถ้าย้อนไปเพื่อไทย กับ ก้าวไกล จะตั้งรัฐบาลด้วยกันหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาไม่แก้ 112 มั่นใจรัฐบาลอุ๊งอิ๊งมีเสถียรภาพ มี 300 กว่าเสียง ไม่มีอะไรที่เสี่ยง งานที่หัวหน้าพรรค ตั้งใจทำ และทีมงาน น่าจะผลักดันงานได้ดี
เมื่อถามว่า มีเคล็ดลับอย่างไรการเลือกตั้งครั้งหน้า นายทักษิณ กล่าวว่า มีโอกาสสูงพรรคเพื่อไทยจะมาอันดับ 1 ครั้งที่แล้วถ้าหัวหน้าพรรคไม่ลาคลอด ถ้าหาเสียงจนจบ ตนว่าไม่แพ้ เราทำโพลตลอด พอหยุดปุ๊บ ตกทันที "มั่นใจเพื่อไทยชนะพรรคประชาชน ของมันเคยชนะมาอยู่แล้ว หลักของพรรคประชาชน เน้นสถานะ ต้องการให้ทุกคนต้องเท่าเทียม เขาอยู่ในบริบทการเมือง ส่วนพรรคเพื่อไทย เราอยู่ในระบบการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ เราเน้นโอกาส ตอนเราชนะ 377 เสียง ชนะด้วยคำเดียว โอกาส
เมื่อถามว่า หากไม่พูด 112 แล้ว การเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อไทย กับพรรคประชาชน จะจับมือกันได้หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรค เรามีพันธมิตรทำงานในรัฐบาลร่วมกัน เขาต้องมีสิทธิ์ก่อน และครั้งนี้มีประชาธิปัตย์มาร่วมงานด้วย
"ผมว่าวันนี้ประเทศไทยต้องสามัคคีกัน เราแบ่งหน้าที่กันทำ ไม่ได้เป็นศัตรูกัน เป็นทำไม เราคนไทยด้วยกัน ก่อนมาโทรคุยกับลุงป้อม ผ่านคนอื่น ตอนนั้นเรื่องจะร่วมรัฐบาล หลังจากนั้นไม่ได้คุย ไม่ได้เจอเลย"
เมื่อถามว่าอะไรทำให้มีระยะห่างกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายทักษิณ กล่าวย้อนไปสมัยเขาเกษียณ อยากไปเป็นประธาน ป.ป.ช. ตนไม่ได้คุยกับเขาเลย บ่นว่าทหารจะไป ป.ป.ช. รู้เรื่องกฎหมายเหรอ เพื่อนเขา "สุชน ชาลีเครือ" ไปบอก ตั้งแต่นั้นเขาก็โกรธผม และโทนแทงเรื่อยมา พร้อมยืนยันว่า พลังประชารัฐไม่ใช่ตัวแปร หรืออุปสรรคในการตั้งรัฐบาล เพราะเรามีเสียงมากพอ นายทักษิณ ยังฝากถึงลุงป้อม ว่า "เราอายุมากแล้ว ฟังธรรมะซักหน่อย จิตใจจะได้สงบ ผมอยู่เมืองนอก 17 ปี ยัดคดีให้ผมเต็มไปหมด ตอนแรกโกรธ หลังๆ ขำ"
เมื่อถามว่า ผ่านประสบการณ์การเมืองมามาก การเมืองไทยหลังจากนี้จะมีโอกาสรัฐประหารหรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า "การเมืองไทยหลังจากนี้เชื่อว่าไม่น่ามีรัฐประหาร ทุกอย่างมีกลไกเยอะ นายกฯ อุ๊งอิ๊ง จะปลอดภัยจากรัฐประหารแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์" นายทักษิณ ยังเล่าย้อนไปสมัยนายกฯ อุ๊งอิ๊ง อายุ 12 ว่า สมัยตนตั้งพรรคไทยรักไทยใหม่ๆ ไปบางกระทุ่ม เขาทำกล้วยตากไปกอง เอาน้ำยา EM ราด กลิ่นมันเหม็นมาก แต่ลูกไม่ทำท่าเหม็น พอถามเขาบอกว่า เดี๋ยวพ่อเสียคะแนน พอลูกเป็นนายกฯ แล้ว ภูมิใจมาก แต่รู้ว่างานมันหนัก ผมกล้าบอกว่า หนักกว่าวันที่ผมเป็นนายกฯ ดีเป็นบางอย่าง หนักเป็นบางอย่าง ระบบราชการแข็ง เราต้องใช้กลไกราชการขับเคลื่อน ผมเชื่อว่าเขาเป็นคนมีภาวะผู้นำ อ่อนน้อมถ่อนตน ยกมือไหว้ทุกคน เพราะเขาอายุน้อยกว่า เขาก็หวังความร่วมมือในการทำงาน เขาเห็นผมเยอะ เขาไปหาผมแทบทุกเดือน ผู้นำหลายคนเขาเคยจับมือมาหมด เราเป็นพ่อลูกกัน มีแต่จะเสริมกัน ผมมีหน้าที่สนับสนุนเกื้อกูลกัน
#siamrath #เพื่อไทย #รัฐประหาร #ดิจิทัลวอลเล็ต #ข่าววันนี้ #ทักษิณ #โชว์วิสัยทัศน์ #อุ๊งอิ๊ง