"บิ๊กต่าย" ยันถูกนายก "อุ๊งอิ๊ง" เรียกเข้าพบไม่มีการทาบทาม ชี้เป็นเรื่องแนวทางป้องกันยาเสพติด ไม่คาดหวังตำแหน่ง ผบ.ตร. อยู่ที่ นายกฯเลือก ลั่น "มีความสุขกับการทำงานพอแล้ว"
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 22 ส.ค.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยกรณีกระแสข่าวว่า มีการเดินทางเข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ว่า ตนถูกเรียกไป ขับเคลื่อนเรื่องยาเสพติดเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ซึ่งตนคิดว่ารัฐบาลจะมีนโยบายเน้นหนักเข้มข้นเรื่องการปราบปรามยาเสพติด และรูปแบบปัจจุบัน ที่เรามุ่งไปที่ ผู้เสพ ซึ่งเรียกว่า demand ที่จะต้องนำตัวไปบำบัดรักษา และเรื่องของการคุ้มค่าอาละวาดทำร้ายร่างกายกันคือเป้าหมายที่ต้องหาตัวนำไปดำเนินการตามขั้นตอน และจำคุก แต่สิ่งเหล่านี้มาจากพ่อค้ายา ตนจึงมุ่งเป้าไปที่พวกรายย่อยถือเป็นนโยบาย
นอกจากนี้จะต้องรอฟังการแถลงนโยบายของรัฐบาล จะมีเรื่องใดบ้างที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องดำเนินการขับเคลื่อน ในระหว่างนี้ไม่มีสูญญากาศตำรวจยังคงเดินหน้าทำงานต่อไป ตามที่อดีตนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ได้วางนโยบายและแนวทางปฎิบัติเอาไว้ ตนเองก็มีหน้าที่ปราบปรามเรื่องการพนัน พนันออนไลน์ พวกเงินกู้ผิดกฎหมาย แก๊งทวงหนี้ และยาเสพติด เป็นสิ่งที่ตนต้องเดินหน้าซึ่งเป็นหน้าที่ของตน ส่วนรอง ผบ.ตร.คนอื่นก็ดูเรื่องบริหารเกี่ยวกับหางบประมาณการบริหารบุคคลต่างๆ ส่วนรอง ผบ.ตร.ที่ดูงานมั่นคง ก็ต้องปฎิบัติตามหน้าที่อยู่แล้ว
เมื่อถามว่าที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯมีผลการปราบปรามยาเสพติดชัดเจนจะมีการเข้าไปขอคำปรึกษาหรือไม่ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ตนเชื่อว่าผู้บริหารของบ้านเมือง มั่นใจว่าทุกคนเห็นความสำคัญและมุ่งมั่นจะปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง
เมื่อถามว่ามั่นใจว่าจะทำงานกับรัฐบาลใหม่ได้ ใช่หรือไม่ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า สำหรับตนเองทำได้อยู่แล้ว เพราะมีความสุขกับการทำงาน หน้าที่ใดที่ได้รับมอบหมายก็ทำให้สุดความสามารถ และไม่คาดหวังอะไรในตำแหน่ง ยืนยันว่าการเข้าพบนายกรัฐมนตรี ไม่มีการทาบทามใดๆ ร้อยเปอร์เซ็น มีเพียงเรื่องยาเสพติด เพราะมีทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และ ป.ป.ส. รวมถึงสาธารณสุขด้วย เพื่อรับฟังการขับเคลื่อนและสิ่งที่ต้องทำในอนาคตเรื่องมาตรการและแนวทางปฎิบัติ
เมื่อถามเรื่องการแถลงข่าวช่วงนี้มีการทำผลงานอะไรหรือ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่มีการเร่งทำผลงาน เนื่องจากตนรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่อง การป้องกันปราบปรามและ ผอ.ศูนย์อำนายการป้องกันปราบปรามอำนวยการเรื่องยาเสพติดด้วย เรื่องยาเสพติดถือว่าเป็นภัยคุกคาม ต่อประชาชนและเป็นผลกระทบทำให้เกิดบุคคลคุ้มคลั่งด้วย และมีการระบาดแพร่หลาย จึงเป็นหน้าที่ของตนที่ต้องเดินหน้าปราบปราม ไม่ได้คิดถึงเรื่องการสร้างผลงานใดๆ
เมื่อถามว่ามีการตั้งเป้าในการพิจารณาเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่หรือไม่ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า "อย่าถามเรื่องว่าเคยตั้งเป้าเลย เพราะแค่คาดคิดก็ยังไม่คาดคิด เพราะคิดว่าเราเติบโตมา ถึงตรงนี้ได้ ได้ทำงานดูแลตำรวจ และลูกน้องมาจนถึงทุกวันนี้ คิดว่ามีความสุขแล้ว และมีความสุขกับการทำงานก็พอแล้ว แต่เมื่อได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่อะไร แต่เมื่อได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่อะไรก็ทำเต็มสุดความสามารถ
ไม่ได้หมายความว่าตั้งความหวังหรือตั้งเป้า หรือความ ทะเยอทะยาน ใดๆทั้งสิ้น"
ส่วนการพิจารณาตำแหน่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สื่อต้องไปถาม กับผู้ที่มีหน้าที่ตามกฎหมายตำรวจ ในการเสนอรายชื่อต่อที่ประชุม คือท่านนายกรัฐมนตรี จนมั่นใจว่ารองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทุกคนทำงานหนักหนาไม่แพ้กัน ทุกคนต่างมีหน้าที่ และต่างคนต่างทำหน้าที่กันไป การพิจารณาก็อยู่ที่นายกรัฐมนตรีและคณะก.ตร. ว่ามีความคิดเห็นหรือมีมติอย่างไรนั้นเป็นเรื่องของอนาคต รอง ผบ.ตร.กล่าว.