วันที่ 22 ส.ค.2567 เวลา 12.50 น. ที่รัฐสภา นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยประสานให้เข้าร่วมรัฐบาลว่า เบื้องต้นถ้ามีการพูดคุยเกี่ยวกับการร่วมรัฐบาล นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนเดียวที่จะถูกติดต่อได้ เพราะฉะนั้นหากติดต่อมาก็ต้องติดต่อที่นายเฉลิมชัย โดยในช่วงเย็นวันนี้(22ส.ค.) ตนจะได้เจอกับนายเฉลิมชัย
เมื่อถามว่าค่อนข้างชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาล นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังเหมือนเดิม คือถ้าพูดคุยเบื้องต้น หัวหน้ารับเทียบเชิญมาแล้ว ก็ต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค และสส. ประชุมร่วมกัน หากที่ประชุมบอกว่าไม่เข้าร่วมรัฐบาล ก็ต้องไม่ร่วมรัฐบาล แต่ถ้าที่ประชุมส่วนใหญ่บอกให้ร่วมรัฐบาล แล้วเราจะมีเงื่อนไขอะไรบ้าง เหมือนกับสมัยที่แล้วที่ถกเถียงกันถึง 1 วัน 1 คืน ฝ่ายที่เห็นว่าควรร่วมรัฐบาล 61 คะแนน ฝ่ายที่ไม่เห็นชอบ นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค 16 คะแนน พอผลลงมติออกมา 16 นั้น มาอยู่กับฝ่ายที่เห็นชอบ 15 คะแนน ส่วนนายอภิสิทธิ์ ลาออกจากหัวหน้าพรรค จึงเป็นมติร่วมรัฐบาล วันนี้ก็ยังเหมือนเดิม ส่วนใหญ่จะว่าอย่างไร เราก็ว่าตามนั้น พรรคประชาธิปัตย์อยู่ได้เพราะมติพรรค
เมื่อถามว่าจะมีการเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคและสส.พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อใด นายเดชอิศม์ กล่าวว่า เดี๋ยววันนี้ตนจะเจอกับนายเฉลิมชัย หัวหน้าพรรค ก็จะถามว่าประชุมเมื่อใดเทียบเชิญร่วมรัฐบาลมาแล้วหรือยัง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์ได้โควตารัฐมนตรี 2 ตำแหน่ง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ตนก็ได้แต่ข่าวเหมือนกัน ส่วนรายละเอียดต้องถามหัวหน้าพรรค
เมื่อถามว่า ตามกระแสข่าวมีรายชื่อนายเดชอิศม์ และนายเฉลิมชัย เป็นรัฐมนตรีด้วย หากพรรคประชาธิปัตย์มีการเข้าร่วมรัฐบาลจริง และมีการเสนอชื่อตามนั้น พร้อมจะทำหน้าที่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า สส.ในสภาฯ ส่วนใหญ่แบ่งเป็น2กลุ่มใหญ่ คือกลุ่ม ก. สส.ที่พูดเก่ง ตำหนิเก่ง วิจารณ์เก่ง พวกนี้เขาจะทำงานไม่ค่อยเก่ง พวกนี้ก็จะมีความคิดไม่อยากร่วมรัฐบาล ส่วนกลุ่ม ข. พูดอาจไม่เก่ง ตำหนิไม่เก่ง แต่เขาทำงานเก่ง เขาจึงถือว่ารอโอกาสเข้าร่วมรัฐบาล เพราะจะได้มีโอกาสสร้างผลงานให้กับประเทศชาติ และประชาชน เท่ากับสร้างผลงานให้กับพรรคตัวเองได้ด้วย ดังนั้นกลุ่มไหนมากกว่ากลุ่มนั้นก็ชนะ
เมื่อถามว่ากลุ่มของนายเดชอิศม์ ถือเป็นกลุ่มข.ไข่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า เป็นธรรมชาติของการเมือง เข้ามาเป็นสส. อยากช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว เรามองข้ามพรรคไปแล้ว แต่เรามองไปถึงชาติ และประชาชน ถ้ามีโอกาสช่วยเหลือประเทศ และประชาชนต้องไม่ทิ้งโอกาส
เมื่อถามว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคหรือไม่ เพราะกลุ่มอาวุโสในพรรคไม่เห็นด้วย นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ท่านอาจจะพูดก่อนที่จะลงมติ แต่พอลงมติแล้วเชื่อว่าทุกคนเคารพมติพรรค เมื่อถามว่า จะไม่ทำให้พรรคแตกใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ไม่ทำให้พรรคแตก เพราะรอบที่ผ่านมา ทุกคนคิดว่าพรรคแตก แต่ก็ออกไปแค่คนเดียว คือนายอภิสิทธิ์ ที่บอกว่าไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี อดีตนายกฯ แล้วลาออกไป
เมื่อถามว่าหากมีการเข้าร่วมรัฐบาลจริงถือว่าจะไม่เสียอุดมการณ์ของพรรคที่เคยอภิปรายพรรคเพื่อไทยรัฐบาล นายเดชอิศม์ กล่าวว่า วันนี้ต้องรีเซ็ตประเทศไทย ไม่ใช่รุ่นปู่ ตนทะเลาะกับปู่ของสื่อมวลชน แล้วมารุ่นตนต้องโกรธกันด้วย ตนว่าไม่ใช่ ขอให้มองที่ประเทศชาติและประชาชน เพราะวันนี้เราเสียโอกาสไปเยอะมาก ถ้ามีโอกาสเราก็อยากช่วยเหลือ
เมื่อถามว่ามีการพูดถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรี ในส่วนของนายเฉลิมชัยและนายเดชอิศม์กลัวว่าจะมีปัญหาหรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ตนไม่มีประวัติหรือคดีใดๆเลย ไม่เคยเป็นผู้ต้องหาใดๆ ดังนั้นคุณสมบัติของตนพร้อมที่จะเป็นรัฐมนตรี แต่อยู่ที่ประชุมพรรคและพรรคแกนนำด้วยว่าจะเชิญหรือไม่เชิญ
เมื่อถามว่าเมื่อวันที่ 20 ส.ค. มีข่าวการพูดคุยกันที่บ้านดาวล้อมเดือนของนายเฉลิมชัย มีการเสนอเงื่อนไขอะไรหรือไม่ นายเดอิศม์ กล่าวว่าไม่ และขอปฏิเสธว่าร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ มาพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์นั้นไม่จริง ไม่เจอทั้งนายเฉลิมชัย และตน และยังไม่เคยพูดคุยเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีด้วย เพราะถ้าจะร่วมรัฐบาลก็เป็นเรื่องระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย ไม่เกี่ยวกับพรรคอื่นใดๆเลย หลายคนไปมองว่าพลังประชารัฐออกไป ประชาธิปัตย์ เข้าที่จริงไม่เกี่ยวกันเลย เขาจะอยู่ จะไป ก็ไม่ใช่เรื่องของเรา เป็นเรื่องของพรรคแกนนำ
เมื่อถามอีกว่าเบื้องต้นมีการพูดคุยกันไว้บ้างหรือไม่ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างนายเดชอิศม์กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน นายเดชอิศม์ กล่าวว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ตนเคารพนับถือนายทักษิณ แต่เรื่องการร่วมรัฐบาลเราได้มอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนพูด
เมื่อถามว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาลอาจถูกมองว่าโดดเดี่ยวพรรคประชาชนให้เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียว นายเดชอิศม์ กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง ถ้ามองในเชิงฝ่ายค้านก็อาจจะมองได้ แต่ถ้ามองว่าเราอยากสร้างผลงานให้กับประเทศชาติ และสร้างผลงานให้กับพรรคเรา โดยแนวคิด อุดมการณ์ที่เรามีเพื่อช่วยเหลือประชาชนก็มองในมุมนั้นได้
เมื่อถามว่าหากไปร่วมรัฐบาลในระยะยาวพรรคประชาธิปัตย์อาจถูกปิดสวิทช์ได้ เพราะเสียฐานเสียงคนภาคใต้ นายเดชอิศม์ กล่าวว่าไม่มี ถ้าเราไปสร้างผลงานให้โดดเด่นระดับประเทศ เราสามารถกู้ศรัทธาได้ แต่ถ้าเราไปทำงานไม่ได้เลย ทุกพรรคก็โดนประชาชนลงโทษหมด
เมื่อถามย้ำว่าแฟนคลับบอกว่า หากเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ประชาธิปัตย์อาจสูญพันธุ์ นายเดชอิศม์ ย้อนถามว่า “แฟนคลับที่ไหนไม่ทราบ แต่บ้านผมที่จังหวัดสงขลาเชียร์ทุกวัน ถ้ามีโอกาสต้องร่วมรัฐบาลเพื่อมาแก้ปัญหา มาแก้ทุกข์ให้กับประชาชนให้ได้ และผมถามสส.เกือบทุกเขตพูดอย่างนั้น”
เมื่อถามว่าเป็นการแก้แค้นทางการเมืองหรือไม่ หลังจากที่นายทักษิณไปอยู่ต่างประเทศนานถึง 17 ปี แล้วกลับมาเชิญพรรคประชาธิปัตย์ให้ร่วมรัฐบาล นายเดชอิศม์กล่าวว่า ไม่หรอก ถ้านายทักษิณคิดแบบนั้นคงเอาเราเข้าร่วมรัฐบาลตั้งแต่รอบแรกแล้ว แต่ครั้งนี้นายทักษิณคงมาเห็นปัญหา อาจมีบางส่วนที่คิดว่าน่าจะเสริมให้กับประเทศ มาช่วยกันแก้ปัญหาประเทศมั้ง ซึ่งตนคิดว่าอย่างนั้น