วันที่ 22 ส.ค.2567 เวลา 09.45 น. ที่รัฐสภา ว่าที่ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์การตรวจรับอาคารรัฐสภา ว่า การตรวจรับครั้งสุดท้าย ตนได้สอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องในประเด็นที่มีความเห็นแย้งกันของทั้งสองฝ่าย ทั้งผู้ควบคุมงาน ที่ปรึกษา รวมทั้งขอความเห็นจากสำนักกฎหมาย และกรรมการ กพรส. และปรึกษาพนักงานอัยการให้ความเห็นว่าเป็นกรณีของหัวหน้าส่วนจะต้องใช้ดุลยพินิจในการวินิจฉัยชั่งน้ำหนักว่าจะเลือกความเห็นกรรมการตรวจการจ้างเสียงข้างมากหรือเสียงข้างน้อย ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆที่มีความเห็นแย้งกัน ตนจึงเลือกกรรมการตรวจการจ้างเสียงข้างมากได้วินิจฉัยเมื่อวันที่ 4 ก.ค.67 เป็นการรับมอบงาน 100 % จากผู้รับจ้าง และได้มีแจ้งหนังสือไปยังผู้รับจ้างในการรับมอบงาน และได้มีหนังสือรับรองผลงานในการดำเนินการเมื่อวันที่ 15 ก.ค.67
เมื่อถามว่า หากมีการรับมอบกังวลหรือไม่ หากนำไปสู่การร้องถึงปัญหาการก่อสร้างต่างๆ ว่าที่ร.ต.ต.อาพัทธ์ กล่าวว่า เราต้องยอมรับข้อเท็จจริงประการหนึ่งว่าการส่งมอบงานแต่ละอย่าง พอรับมอบแล้วก็ต้องมีการใช้งาน แม้จะไม่ได้เข้ามาใช้งาน 100% แต่ก็มีการทยอยส่งมอบงาน ทยอยใช้ในแต่ละส่วน ซึ่งอาจมีข้อบกพร่อง แต่ต้องไปดูว่าเกิดจากการใช้งานหรือการก่อสร้าง ส่วนประเด็นที่เมื่อมีการรับมอบงาน แล้ว ระหว่างสำนักงานและผู้รับจ้างเรามีสัญญาข้อผูกพันระยะเวลา 2 ปี ที่จะดำเนินการแก้ไขชำรุดในส่วนที่เป็นข้อบกพร่อง
เมื่อถามถึงกรณีที่บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ฟ้องศาลปกครอง ตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากสำนักเลขาธิการสภารับมอบล่าช้า ทำให้เกิดความสูญเสีย เลขาธิการสภาฯ กล่าวว่า ศาลปกครองมีการเรียกพยานที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งมีการกำหนดพิจารณาคดีนัดแรกในเดือนส.ค.นี้ ส่วนมีความกังวลในคดีนี้หรือไม่นั้น เราได้ปรึกษากับพนักงานอัยการ เราก็มีข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริงที่จะใช้ต่อสู้ในเรื่องที่ผู้รับจ้างฟ้องมา