ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับการสนับสนุนจากกองทัพอากาศ นำเครื่องบินทำการทดลองปฏิบัติการ ทางวิ่งเส้นที่ 3 เน้นย้ำความพร้อมก่อนการเปิดให้บริการปลายปีนี้ เพิ่มประสิทธิภาพรองรับการขยายตัวของการจราจรทางอากาศในอนาคต
วันที่ 21 สิงหาคม 2567 พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) พล.อ.อ.มนัท ชวนะประยูร กรรมการ ทอท. / ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. / นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ / และ น.ส.ปวีณา จริยฐิติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง) ร่วมเดินทางมากับอากาศยานแบบ A320 ของกองทัพอากาศ ทำการบินจากท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 ท่าอากาศยานดอนเมือง สู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เพื่อทดลองปฏิบัติการทางวิ่งเส้นที่ 3 (3rd Runway Trial Operations) เต็มรูปแบบ
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า การทดลองปฏิบัติการฯแบ่งการทดลองออกเป็น 2 รอบ โดยรอบแรกในเวลาประมาณ 08.00 น. เป็นการนำอากาศยานบินลง (Landing) บนทางวิ่งเส้นที่ 3 (20R) รวมทั้งทดลองขับเคลื่อนบนทางขับ F และนำเครื่องเข้าจอดที่หลุมจอดอากาศยาน 305 และรอบที่ 2 ในเวลาประมาณ 18.30 น. เป็นการนำอากาศยานลำเดิมออกจากหลุมจอดอากาศยาน 305 และขับเคลื่อนบนทางขับ F ก่อนที่จะทำการวิ่งขึ้นจากทางวิ่งเส้นที่ 3 ซึ่งการทดลองปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้ เป็นการทดสอบการใช้งานด้านกายภาพของทางวิ่ง ทางขับ รวมถึงระบบไฟ ป้ายสัญลักษณ์ ระบบติดตามอากาศยานและการให้บริการจราจรทางอากาศ ตลอดจนผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มั่นใจในด้านมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน ทสภ. ได้ดำเนินการทดลองปฏิบัติการฯ ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 โดยก่อนหน้านี้ กองทัพอากาศได้นำอากาศยานแบบ ATR-72 มาทำการบินขึ้น - ลง เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งการทดลองฯ ทั้ง 2 ครั้ง ประสบความสำเร็จและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ นอกจากได้รับการสนับสนุนทั้งกำลังพลและอุปกรณ์จากกองทัพอากาศแล้ว ทสภ. ยังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟลท์เซอร์วิส จำกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าร่วมการปฏิบัติการฯ ภายหลังการทดลองฯ ทสภ. ได้ประชุมสรุปผลการทดลองปฏิบัติการฯ ร่วมกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อขัดข้องต่างๆ มาปรับปรุงเพื่อให้เกิดความพร้อมในทุกด้านรวมถึงสร้างความมั่นใจด้านมาตรฐานความปลอดภัยก่อนเปิดใช้งานจริงอย่างเป็นทางการในปลายปีนี้
นายกิตติพงศ์ กล่าวปิดท้ายว่า สำหรับทางวิ่งเส้นที่ 3 เป็นทางวิ่งที่มีความยาว 4,000 เมตร กว้าง 60 เมตร ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของท่าอากาศยานขนานกับทางวิ่งเส้นที่ 1 โดยเมื่อเปิดใช้งานจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับเที่ยวบินของ ทสภ. จากเดิมที่ 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับท่าอากาศยานชั้นนำระดับโลก ทสภ. พร้อมที่จะเป็นกลไกลสำคัญในการส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคและระดับโลก (Aviation Hub) ตามนโยบายของรัฐบาล ในการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศในระยะยาวต่อไป