"แพทองธาร" ยืนกรานจำต้องเข้มงวดเรื่องคุณสมบัติรายชื่อครม.ใหม่ เช็กแล้วต้องเช็กอีก ยันยังไม่ได้คุย"ลุงป้อม ให้เคลียร์ปัญหาในพรรคกันเอง แต่ได้ส่งดอกไม้แสดงความยินดี ขณะที่ทักษิณ ร่วมสังเกตการณ์ประชุมพรรคเพื่อไทย ด้านเลขาฯครม.-เลขาฯกฤษฎีกา ปิดปากปมตรวจคุณสมบัติ ครม. ส่วนธรรมนัสฉุนขาด หลังชื่อหลุดโผรมต. ประกาศตัวเป็นอิสระ ลั่น ไม่คุย ประวิตร  แต่ไม่แตกหัก ปล่อย 18 รายชื่อ สส.ร่วมก๊วน  

     เมื่อวันที่ 20 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวที่อาคารชินวัตร3 ซึ่งเป็นที่ประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ว่า  เมื่อเวลา 09.10 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส โดยนายทักษิณ ได้เดินเข้ามาทักทายผู้สื่อข่าว และสอบถามความเป็นอยู่ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนอาคารทันที
     
ส่วนความเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีรายงานว่าจะเดินทางมาที่อาคารชินวัตร 3 ช่วงเวลา 12.00 น. เพื่อร่วมประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยมีเรื่องสำคัญการปรับคณะรัฐมนตรี

 ขณะที่ คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เริ่มทยอยเดินทางเข้าอาคารชินวัตร 3 เพื่อเตรียมเข้าประชุม โดยคาดว่าจะมีการประชุมในช่วงเวลา 12.00 น. อาทิ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และนายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช นายทะเบียนพรรค เป็นต้น
     
จากนั้น เวลา 12.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงพร้อมให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย เรียบร้อยแล้วหรือไม่ ว่า ยังไม่ได้คุยกัน เดี๋ยวจะมีการคุยกันในวันนี้หรือพรุ่งนี้ (21 ส.ค.) ซึ่งจะต้องมีการเริ่มพูดคุยกันเยอะขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะจบทั้งหมด แต่จะเป็นการเริ่มทยอยคุยกันเยอะขึ้น
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการเรียกคุยรัฐมนตรีในรัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่คุยเรื่องของตำแหน่ง มีการคุยกันแค่เรื่องงานว่านายเศรษฐาทำอะไรถึงตรงไหนแล้วบ้าง รวมถึงมีการพูดคุยกันเรื่องบุคคลที่จะต่องาน ยังไม่ได้มีการคุยกันเรื่องคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่ถึงขั้นที่จะเรียบร้อยเลย แต่คงได้ความคืบหน้าแน่นอน
    
 เมื่อถามว่า เบื้องต้นในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะมีการปรับเปลี่ยนมากน้อยแค่ไหน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า กำลังหารือ ขอให้ตกผลึกก่อนแล้วจะมาบอกอีกครั้ง เมื่อถามถึงกรณีที่จะมีการพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาร่วมด้วย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวคุยกันอีกครั้งว่าจะอย่างไร เมื่อถามถึงกรณีที่มีการตรวจคุณสมบัติที่ต้องเข้มขึ้น จนอาจทำให้หลายคนไม่ได้ไปต่อ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลต้องให้ ต้องให้แต่ละพรรคไปคุยกันก่อน รวมถึงให้สกรีนคุณสมบัติของแต่ละคนด้วย ถามย้ำว่า นายกฯ เองก็ดูเหมือนจะเป็นกังวลและเข้มในเรื่องนี้มาก น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "ก็จำเป็นค่ะ"
    
 เมื่อถามถึงพรรคร่วมรัฐบาลมีชื่อของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.), ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.), นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข เข้ามา ซึ่งอาจเข้าข่ายมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ต้องมีการสอบถามด้วยว่าหากมีชื่อของคนที่เป็นกังวลและสงสัย แล้วส่งไปทางทำเนียบฯด้วยว่าอย่างไร ซึ่งต้องช่วยกันเช็กหลายฝ่าย เพราะเราก็ไม่ใช่เป็นคนฝ่ายกฎหมาย อาจจะต้องมีทีมดูก่อน แล้วค่อยส่งอีกครั้ง เอาเป็นว่าเช็กแล้วต้องเช็กอีกรอบ
   
  ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐที่ตอนนี้ดูเหมือนจะมีปัญหา มีการส่งรายชื่อมาถึงพรรคเพื่อไทยแล้วหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่ได้ไฟนอล ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐก็ให้พรรคไปเคลียร์ ให้เป็นเรื่องของเขาไปเคลียร์กันเองดีกว่า เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ. ได้ติดต่อมาพูดคุยบ้างหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ได้คุยเลย เมื่อถามต่อว่า พล.อ.ประวิตรได้การแสดงความยินดีอะไรหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "ท่านได้ส่งดอกไม้มา"
    
 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ว่า ไม่มีการพูดคุยถึงการเสนอชื่อรัฐมนตรีของพรรคในที่ประชุม เนื่องจาก เป็นการประชุมทั่วไป โดยเป็นการหารือร่างกฎหมายที่จะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎร และยังไม่ได้มีการตัดสินใจใด ๆ เนื่องจาก ไม่ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคฯ ที่มีหน้าที่คัดเลือกบุคคลเข้ามา ส่วนจะได้ข้อสรุป อยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณา ซึ่งได้แจ้งให้พรรคร่วมรัฐบาลทราบแล้ว เพื่อส่งต่อรายชื่อให้ นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกฯ  เนื่องจากมีขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ คาดว่าภายในวันนี้ทุกพรรคน่าจะส่งรายชื่อครบ 
    
 ยืนยันว่าจะต้องตรวจสอบคุณสมบัติให้ถูกต้อง และอย่างน้อยที่สุดฝ่ายบริหารจะต้องปกป้องหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่ไม่ได้ระบุหากใครมีชนักติดหลังแล้วจะไม่รับพิจารณา ขอให้พรรคนั้น ๆ ไปตรวจสอบมาตามกฎหมาย เพราะไม่สามารถแต่งตั้ง หรือจัดการใด ๆ นอกกฎหมายได้
    
 นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ส่วนความชัดเจนของพรรคพลังประชารัฐ หลังชื่อของ รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่อาจมีปัญหาคุณสมบัตินั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่เห็นรายชื่อ แต่ให้พรรคพลังประชารัฐ ไปพูดคุยกันให้เสร็จสิ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีคนของพรรคพลังประชารัฐ โทรมาประสานถึง 3 คน จึงขอให้พรรคพลังประชารัฐไปจัดการให้ชัดเจน แต่เบื้องต้น ยังไม่เห็นรายชื่อว่ามีใครบ้าง ทราบแต่เพียงจากข่าวเท่านั้น จึงไม่ขอก้าวล่วง เนื่องจาก เป็นเรื่องภายในของพรรคพลังประชารัฐ แต่ที่สำคัญ รัฐบาล จะต้องเป็นเอกภาพ ร่วมมือกันทำงาน และทำนโยบายไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะแบบเดิม
    
 สำหรับพรรคเพื่อไทยยังเป็นห่วงคุณสมบัติของ รอ.ธรรมนัส หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้ จะต้องทำให้ดีที่สุด และเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปตรวจสอบคุณสมบัติให้เข้มข้น จึงขึ้นอยู่กับกระบวนการตรวจสอบนี้ให้เกิดความชัดเจน เพื่อตัดสินใจดำเนินการอย่างไรต่อไป และเป็นการคัดกรองในชั้นแรก จากนั้น นายกฯ จะเป็นผู้ตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจและปลอดภัยที่สุด พร้อมชี้แจงว่า การตรวจคุณสมบัติ จะแล้วเสร็จเมื่อใดนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตนเอง แต่ขึ้นอยู่กับเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าจะตรวจสอบเสร็จเมื่อใด เนื่องจาก มีความยากลำบาก แต่จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นด้วยความรอบคอบ โดยเร็วที่สุด 
    
 ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยไม่ต้องการรอ.ธรรมนัสให้เข้าร่วมรัฐบาลนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ระบุต้องการใคร หรือไม่ต้องการใคร แต่ให้ทุกคนส่งชื่อมา เพื่อไปตรวจสอบประวัติ โดยไม่ได้ระบุไปที่ตัวบุคคล เพราะจะเกิดความสับสน และเท่าที่เห็นขณะนี้ หลายพรรคการเมือง ได้ส่งชื่อมาชัดเจนแล้ว เว้นเพียงพรรคพลังประชารัฐ ที่ยังมีหลายความเห็น เพราะมีผู้โทรประสานตนมาถึง 3 คน จึงขอให้ไปพูดคุยกันในพรรคฯ ให้เสร็จสิ้น
    
 นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีของ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มีข้อสงสัยเรื่องคุณสมบัติเกี่ยวกับวุฒิการศึกษา ว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบ เพราะทุกพรรค สามารถส่งชื่อมาได้ แต่เมื่อจะตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว จะต้องมีการเห็นชอบร่วมกัน ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนปกติ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ได้ส่งชื่อมาหรือไม่นั้น ขณะนี้ ยังไม่ได้ติดตามว่าพรรคอื่นมีการส่งรายชื่อมาหรือไม่ เพราะได้มอบหมายให้ นพ.พรหมินทร์ เป็นผู้รวบรวม และย้ำอีกว่า ขณะนี้ ยังเป็นเพียงการพูดคุยภายในพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น
    
 นายภูมิธรรม กล่าวปฏิเสธที่จะกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประรัฐ ต่อสายถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ  ส่วนจะมีการพูดคุยกับคนในพรรคเพื่อไทยระดับใด ก็ขึ้นอยู่กับพูดคุยถูกช่องทางหรือไม่ หากไปพูดคุยกับผู้ที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ ก็จะไม่มีความชัดเจน และขึ้นอยู่กับว่านายกฯ  ตั้งใครเป็นผู้ประสานงาน ก็จะต้องประสานกับผู้นั้น พร้อมยืนยันว่าจากการที่ตนเองให้สัมภาษณ์ว่าให้ไปสอบถามพล.อ.ประวิตรเรื่องความเจนถึงการร่วมรัฐบาลนั้น ไม่ใช่เป็นการบีบให้พล.อ.ประวิตรมามอบตัว ตนจะไปกล้าพูดเช่นนั้นหรือ แต่การจะร่วมรัฐบาลต้องมีความชัดเจน และยังมีสื่อมวลชนมาถามอีกว่าคณะรัฐมนตรีจะไม่มีวงษ์สุวรรณ ซึ่งตนไม่ได้กล่าวถึงขนาดนั้น และให้ไปสอบถาม พล.อ.ประวิตรเองว่าคิดอย่างไร รวมถึงไม่ได้เป็นการแสดงความรังเกียจใด ๆ เพียงแค่อยากให้มีความชัดเจนเท่านั้น

 ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลังการประชุมครม. นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้เดินลงออกมาจากห้องประชุม ทางตึกบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาล มาพร้อมกัน โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงการตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยนางณัฐฏ์จารี ได้ชี้ให้สื่อมวลชนไปถามทางเลขาคณะกรรมการกฤษฎีกา
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า การตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีจะมีความเข้มข้นขึ้นใช่หรือไม่ นางณัฐฏ์จารี ได้ยิ้มปฏิเสธที่จะตอบคำถาม แต่พยักหน้ารับ พร้อมกับนำมือมาปิดที่ปาก เมื่อถามย้ำว่า มีการส่งรายชื่อ ครม.ชุดใหม่เข้ามาให้ตรวจสอบบ้างหรือยัง ก็ปฏิเสธตอบคำถามนี้เช่นเดิม พร้อมกับโบกมือให้สื่อ และไม่ตอบเกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เกี่ยวกับกรณีมีคดีที่ต่างประเทศ
   
  จากนั้นเมื่อสื่อมวลชนหันไปถามทางนายปกรณ์ ว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาจะต้องมีการตรวจสอบประวัติผู้ที่มาเป็นรัฐมนตรีเข้มข้นใช่หรือไม่ นายปกรณ์ โบกมือปฏิเสธพร้อมกับนำมือปิดไปที่ปาก เช่นเดียวกับนางณัฐฏ์จารี เมื่อถามถึงกรณีของร.อ.ธรรมนัสที่เคยมีคดีอยู่ที่ต่างประเทศ ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ เลขาคณะกรรมการกฤษฎีกา และทำท่า จุ๊ๆ ก่อนปิดประตูรถและเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลทันที
    
 ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกระแสข่าวการเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเป็นบุคคลเดิมและตำแหน่งเดิมใช่หรือไม่ ว่า เพิ่งให้ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย ในฐานะนายทะเบียนสมาชิกพรรคนำรายชื่อไปส่งแก่ผู้บริหารพรรคเพื่อไทย
    
 เมื่อถามว่า กรณี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ต้องตรวจคุณสมบัติอะไรพิเศษหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า นายชาดาเป็นรัฐมนตรีมา 1 ปีแล้ว และเป็น ส.ส.มากี่สมัยแล้ว ฉะนั้นเราต้องใช้เอกสารหลักฐานข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ หากจะไปใช้ความรู้สึกก็ไม่ควร และเท่าที่ทราบเลขาธิการคณะมนตรีมีหน้าที่ต้องตรวจสอบประวัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ถ้าท่านมีข้อสงสัย หรือมีหน่วยงานใดสอบถามก็จะต้องสอบถามไปที่เจ้าตัวทุกคน และบุคคลเหล่านั้นก็ต้องชี้แจง ซึ่งการชี้แจงใดไม่มีอะไรดีเท่าเอกสาร ซึ่งก็ถือว่าจบ แต่ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยตรวจสอบบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี ไม่ใช่ส่งใครสุ่มสี่สุ่มห้า และทุกคนก็รับรองว่าตัวเองเป็นสำคัญแล้ว
    
 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ให้ตอบข้อสักถามผู้สื่อข่าวถึงเรื่องคุณสมบัติของรัฐมนตรี ว่า คุณสมบัติของตนไม่พร้อมตรงไหน ตนไม่ได้มีคดีหรือมีอะไร มีคดีก็ชนะคดีหมด ตรวจสอบไปแล้วครั้งหนึ่ง หน้าตาตนคุณสมบัติไม่ดีหรือ ทุกอย่างเป็นไปตามการเมือง มาแล้วก็ต้องไป ไม่ได้กังวลอะไรเลยที่พรรคใช้งาน หัวหน้าจะใช้งานหรือไม่ และอยู่ที่นายกฯจะเป็นผู้พิจารณาทั้งหมด
    
 ด้าน พล.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการส่งรายชื่อรัฐมนตรีในส่วนโควตาพรรคพลังประชารัฐ ว่า ทางพรรคได้ส่งรายชื่อให้กับพรรคเพื่อไทยแล้ว แต่นิ่งแล้วหรือยัง ตนไม่ทราบ เนื่องจากปร