วันที่ 20 สิงหาคม 2567 นายพรเทพ เจริญสืบสกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง เปิดเผยว่า อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้เข้มงวดกวดขันการลักลอบค้าไม้ประดู่และไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ และการลักลอบขนไม้ออกนอกเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอนจึงได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่ให้ตรวจสอบและติดตามพฤติกรรมกลุ่มลักลอบตัดไม้และลำเลียงไม้ผิดกฎหมายออกนอกพื้นที่
ล่าสุด นายนิกร แก้วโมรา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย รายงานมาว่า เเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย , ร่วมกับหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.7 , เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย.ร.712 ด่านจุดตรวจผามอน , เจ้าหน้าที่ ร้อย.อส.ที่ 8 อำเภอปางมะผ้า , เจ้าหน้าที่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.16 (สบป่อง) ได้ร่วมกันตรวจสอบรถยนต์บรรทุกต้องสงสัยมีผ้าใบคุมอยู่ ยี่ห้อ อีซูซุ สีน้ำเงิน ทะเบียน ยจ 3985 เชียงใหม่ บริเวณจุดตรวจร่วมด่านผามอน หมู่ 8 ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า จึงขอทำการตรวจค้น พบเป็นไม้แปรรูป จำนวน 72 แผ่น โดยมีนายสถาพร อายุ 34 ปี ที่อยู่ หมู่ที่ 6 ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นผู้ขับรถยนต์บรรทุกดังกล่าว
โดยมีเอกสารหนังสือสัญญาจ้างบรรทุกไม้แปรรูป ลงชื่อนายสถาพร ผู้รับจ้าง มีบริษัท อยู่หมู่ที่ 2 ต.สันผักหวาน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เป็นผู้ว่าจ้าง ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเอกสารใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้แรงคน ที่นายสถาพร กิติพลอยงาม นำมาให้กับเจ้าหน้าที่ไม่ตรงกับเอกสารตัวจริงที่เจ้าหน้าที่ได้ขอไปที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบ ชนิด จำนวน ขนาด พบเป็นไม้สักแปรรูป ซึ่งเป็นไม้หวงห้าม ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2530 (ประเภท ก) ลำดับที่ 159 (สัก) ปริมาตรไม้หวงห้ามทั้งหมดรวมปริมาตรรวม 2.99 ม.3 จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันควบคุมตัวและแจ้งให้ นายสถาพร กิติพลอยงาม ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 48 ฐาน“มีไม้สักแปรรูปซึ่งเป็นไม้หวงห้ามไว้ในครอบครอง ปริมาตรเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร ตามมติคณะรัฐมนตรีกำหนด โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” และ มาตรา 70 บัญญัติว่า ผู้ใดรับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้นจำหน่ายหรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้ที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ มีความผิดเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น
ทั้งนี้คณะเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.7 (ปางมะผ้า) ได้จัดทำบันทึกตรวจยึดจับกุม ส่งตัวผู้กระทำผิด พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิดส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ปางมะผ้า