วันที่ 20 ส.ค. 2567 พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุม สส. ประจำสัปดาห์เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธและพฤหัสที่จะถึงนี้ โดยไม่ได้มีวาระอะไรพิเศษ และจากการสังเกตพบว่าวันนี้ มี สส. เข้าประชุมบางตา แม้กระทั่งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค และนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วยเช่นกัน แต่ทั้ง 2 คนได้เดินทางมาที่ทำการพรรค ตั้งแต่ช่วงสาย และได้เดินทางออกไปจากที่ทำการพรรค ในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยไม่ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ไว้ว่าจะกลับมาร่วมประชุมกับสส.หรือไม่
ขณะที่นายบัญญัติบรรทัดฐาน สส. บัญชีรายชื่อเดินทางเข้ามาประชุม ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ ถึง กระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย
ด้านนายชวน หลักภัย สส.บัญชีรายชื่อ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์จะร่วมรัฐบาล ว่า ขณะนี้ยังไม่มติของพรรค และท้ายที่สุดไม่ว่าจะเป็นอย่างไรประชาธิปัตย์จะต้องเคารพมติพรรค พร้อมยกตัวอย่างการร่วมรัฐบาลที่ผ่าน กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่ามี 2 เงื่อนไข คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และผลักดันนโยบายประกันรายได้
โดยนายชวน ยังกล่าวตัดพ้อ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีมติว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ แต่กลับมีการนำเสนอข่าวว่าเป็นเหมือนพรรคอะไหล่ รอจะเสียบ ทำให้ผู้ที่สนับสนุนพรรคเสียใจ จึงอยากให้แยกแยะ ระหว่างพฤติกรรมของพรรค กับพฤติกรรมของคนบางคน ซึ่งส่วนตัวไม่ขออกความเห็นว่า หากประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลจริงควรจะมีเงื่อนไขอะไรเนื่องจากตนไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค เพียงแค่มีจุดยืนส่วนตัวว่าไม่ร่วมตั้งแต่ต้น เพราะไม่อยากถูกประนามว่าทรยศชาวบ้าน เพราะเคยหาเสียง ทำให้แม้พรรคเพื่อไทยได้คะแนนท่วมท้น แต่ในภาคใต้ไม่มีสส.แม้แต่คนเดียว ซึ่งส่วนตัวมองว่าหากเป็นฝ่ายค้านก็ต้องทำหน้าที่ของฝ่ายค้านจริงๆ แต่ถ้าหากเป็นฝ่ายค้านแล้วลังเลใจ เวลามีมติอะไรก็ไม่กล้าตัดสินใจ เพราะกลัวเขาจะโกรธและไม่ให้ร่วมรัฐบาล เพราะการเป็นฝ่ายค้านแม้สส.น้อย แต่สามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้
ทั้งนี้นายชวน ยังกล่าวอีกว่า ในฐานะที่เป็นสส. ทำหน้าที่นิติบัญญัติ อะไรที่ดีก็พร้อมสนับสนุน เพราะหากทำผิดก็จะเถียงยาก ทางออกที่ไม่ให้ถูกยุบพรรค คือไม่กระทำผิดหรือไปแก้กฎหมายในอนาคต ไม่ใช่ให้ยุบทั้งพรรคแต่ให้มีโทษกับผู้ที่กระทำความผิดเป็นรายบุคคล
นายชวน ยังกล่าวย้ำว่าระบบพรรคการเมืองเป็นแบบนี้ ตนอยู่มา 50 ปีไม่เคยขัดมติพรรค ระบบพรรคมีของดีอยู่แบบนี้ ถึงอยู่มาได้ยาวนาน หากไม่มีของดีอยู่บ้างพรรคก็อยู่ไม่ได้ พรรคประชาธิปัตย์เคยถูกฟ้องยุบพรรคมาแล้ว 2-3 ครั้ง โดยพรรคไทยรักไทยเป็นผู้ร้อง แต่ประชาธิปัตย์ไม่ถูกยุบกลับมีมติเอกฉันท์ ให้ยุบพรรคไทยรักไทย มีคนนำเงินไปยื่นให้ธุรการศาลรัฐธรรมนูญ 30 ล้าน เมื่อมีคนด่าตุลาศาลรัฐธรรมนูญ ตนเป็นคนหนึ่งที่มองว่าซื่อตรง เรื่องยื่นเงิน 30 ล้านแดงขึ้นมา คนวิ่งเต้นเป็นรุ่นน้องที่ธรรมศาสตร์ ครั้งแรกให้ไป 15 ล้าน ถูกปฏิเสธ จึงตามไปถึงที่บ้านและเสนอเงิน 30 ล้าน ตนไม่อยากจะเอ่ย เพราะมันจะกระทบถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และยังมีตัวตนอยู่ในทุกวันนี้ และเป็นกลุ่มธุรกิจการเมือง