"แพทองธาร"มั่นใจตั้งครม.ชุดใหม่เสร็จในสัปดาห์นี้ ชงกฤษฎีกาตรวจสอบคุณสมบัติเข้มข้นกันพลาด ระบุโควตาเพื่อไทยยังไม่ขยับรอหารือก่อน  "ภูมิธรรม"กับชับ"พรรคร่วมฯ" เร่งส่งชื่อรมต.วันนี้ ตรวจประวัติทั้งรมต.เก่าและใหม่ ปัดข่าวอยากนั่ง"มท." บอกอยู่พณ.ดีอยู่แล้ว 
       
     ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) เมื่อวันที่ 19 ส.ค.67 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ ว่า ในช่วงสัปดาห์นี้จะมีการประสานคุยกับพรรครัฐบาล เพื่อดูโควตาในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล และเรื่องของการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี จะพยายามทำให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ แต่ต้องคุยกันหลายฝ่าย


     ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยได้นัดพูดคุยเรื่องของโควตาตำแหน่งบุคคลอะไรบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จะมีการพูดคุยรายละเอียดกับทางทีมในวันที่ 20 ส.ค.นี้ ซึ่งวันนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันเลย วันนี้ขอเรียนมินิ วปอ.ก่อน และช่วงบ่ายจะไปประชุมที่พรรคเพื่อไทย ขอประชุมขอเคลียร์เรื่องพรรคก่อน ส่วนเรื่องคณะรัฐมนตรีจะตามมา ทุกอย่างเรียงกันภายในสัปดาห์นี้ให้เรียบร้อย เมื่อถามว่า สัดส่วนรัฐมนตรีคนเก่าคนใหม่จะคละกันอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันเลย วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปจะเริ่มคุยกันแล้ว ส่วนรายละเอียดก็จะตามมา แต่คาดว่าพรุ่งนี้ยังไม่แล้วเสร็จ น่าจะใช้เวลาภายในสัปดาห์นี้ เพราะต้องคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลให้ครบ
 

 "ยืนยันครั้งนี้ต้องดูเรื่องคุณสมบัติเป็นพิเศษ เพราะไม่อยากให้มีอะไรที่ต้องมาผิดพลาด และไม่อยากให้ต้องใช้เวลานานด้วย เพราะฉะนั้นจะรีบทำเรื่องของคณะรัฐมนตรีให้เสร็จ และส่งไปตรวจสอบคุณสมบัติ เพราะทุกคนก็แนะนำมาว่าตรวจสอบคุณสมบัติรอบนี้จะนานขึ้น เนื่องจากทุกคนเป็นห่วงเรื่องนี้"


     ผู้สื่อข่าวถามว่า ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยมีการเขย่าตำแหน่งกันหนักกว่าพรรคอื่นเลยใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "รู้มาจากไหนเหรอ ทำไมถึงมีข่าวเรื่อยๆ เพราะตัวดิฉันยังไม่รู้เลย" เมื่อถามย้ำว่า มีการปล่อยข่าวเขย่าข่าวออกมา น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่าข่าวออกมาจากไหน เพราะยังไม่ได้เคาะกันเลย และยังไม่ได้ขยับอะไรเลย ทั้งนี้ ทั้งหมดอยากให้ฟังความคืบหน้าจากตน เพื่อป้องกันความสับสน


     เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล หากใครไม่มีคุณสมบัติ ก็เป็นสิทธิ์ของพรรคนั้นในการเปลี่ยนตัวใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราต้องส่งให้ทางกฤษฎีกาด้วยตามระบบและระเบียบ ซึ่งขอไปดูว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง และพรรคร่วมรัฐบาลก็คงจะต้องพิจารณามาในระดับหนึ่ง และสุดท้ายทางกฤษฎีกาจะเป็นคนตอบว่าไฟนอลแล้วเป็นอย่างไร ก็ต้องมีความรับผิดชอบร่วมกันด้วย เมื่อถามว่า เรื่องของตำแหน่งอาจจะมีปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากมีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะขอเก้าอี้กระทรวงมหาดไทยคืน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ได้มีการคุยเรื่องนี้ไว้เลย เมื่อถามย้ำว่า  จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ถ้าพรรคเพื่อไทยขอเก้าอี้กระทรวงมหาดไทยคืน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ต้องตกลงกันอีกที แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้คุยกันแบบนี้ ตามที่เป็นข่าวยังไม่มี เมื่อถามอีกว่า ในส่วนของเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นใคร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "เดี๋ยวบอกพร้อมกันเลยได้ไหม"


     ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ในวันนี้จะแจ้งพรรคร่วมรัฐบาลให้ส่งรายชื่อผู้ที่จะเสนอเป็นรัฐมนตรีมาที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อส่งให้เลขาคณะรัฐมนตรี(ครม.) และเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจสอบคุณสมบัติตั้งแต่เนิ่น ๆ เนื่องจากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้องตรวจสอบเข้มกว่าเดิม จากปกติใช้เวลาไม่กี่วันหรือไม่ถึงสัปดาห์ แต่ครั้งนี้ต้องใช้เวลามากขึ้น เวลานี้สถานการณ์บ้านเมืองไม่ค่อยดีต้องรีบให้เร็วที่สุด คาดว่าวันนี้ทุกพรรคจะเสนอรายชื่อได้


     ผู้สื่อข่าวถามว่า โควตาของพรรคร่วมตกผลึกหมดเรียบร้อยแล้วหรือยัง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยัง ใครอยากส่งใคร จะส่งกี่คนได้หมด แต่ให้ส่งชื่อมาเช็กประวัติก่อน ส่วนโควตารัฐมนตรีของแต่ละพรรคจะเป็นอย่างไร นายกรัฐมนตรีจะเรียกคุย คิดว่าเวลานี้ ก็คงจะเสนอเข้ามา แต่ย้ำว่าต้องมาตรวจสอบคุณสมบัติว่าได้หรือไม่ได้ หลักของการจัดตั้งรัฐบาลเป็นอย่างนี้ อันไหนไม่ได้ก็หยิบออกและหยิบเข้ามาใหม่ โดยขั้นตอนนี้อยากทำให้เร็วที่สุดฉะนั้นจะต้องรอ แล้วอีก 3 อาทิตย์กว่าจะมีข่าว ต้องรอตรวจคุณสมบัติ สื่อก็จะอึดอัดอีก สำหรับเรื่องการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา จะเป็นขั้นตอนสุดท้าย ก่อนจะปฏิบัติหน้าที่ได้โดยสมบูรณ์ เวลานี้คือการตั้งครม.จากนั้นเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ เป็นรัฐบาลเต็มตัว แต่ยังทำหน้าที่ไม่ได้จนกว่าจะแถลงนโยบาย


     เมื่อถามว่า การตรวจคุณสมบัติเข้มขึ้น จะตรวจเข้มอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า หลังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ได้คุยกับเลขาฯครม. และเลขาฯกฤษฎีกา ที่บอกว่าต้องทำงานละเอียดขึ้น มากขึ้นและยากขึ้น ใช้เวลาตรวจนานมากกว่าเดิม เพื่อให้ละเอียดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จากปกติ3-4 วันจะตรวจเสร็จ พอเป็นอย่างนี้รู้สึกลำบากใจเพราะไม่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน เมื่อถามว่า รายชื่อรัฐมนตรีคนเดิมจะตรวจลึกกว่าเดิมหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคจะส่งชื่อเดิมหรือไม่ ได้ทั้งนั้น แต่ขึ้นอยู่กับเลขาฯครม.และเลขาฯกฤษฎีกาพิจารณาตามขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมาย เมื่อถามย้ำถึงข้อกังวลรายชื่อของรัฐมนตรีบางคน อาทิ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ,นายชาดา ไทยเศรษฐ รมช.มหาดไทย รวมถึง นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาฯพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่อาจจะมีเรื่องคดีเก่า จะอยู่ในข่ายที่ต้องตรวจเข้มกว่าเดิมหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อยู่ที่พรรคและเลขาฯ เลือกมา 


     ครม.เลขาฯกฤษฎีกา ตรวจสอบ ถ้าสอบแล้วผ่านก็ยืนยันว่าโอเค ทางดีที่สุดคือรัฐมนตรีคนเก่า คนใหม่ หรือใครก็ต้องตรวจหมด เพราะไม่รู้ว่าแต่ละคนมีเรื่องราวอะไรมา ไม่ใช่มาถึงเวลาส่งจะมีปัญหาได้ เวลานี้ไม่ใช่แค่เรื่องเฉพาะหน้าแต่ดูเยอะแยะไปหมด


     ผู้สื่อข่าวถามว่า เพื่อเป็นการป้องกันสุ่มเสี่ยงต่อข้อกฎหมาย เป็นไปได้หรือไม่ที่ไม่ต้องส่งรายชื่อคนที่เคยมีคดีเข้ามา นายภูมิธรรม กล่าวว่า อยู่ที่แต่ละพรรค หากอารมณ์ไม่สบายใจ จะเปลี่ยนใครเปลี่ยนอะไรได้ทั้งนั้น อย่างที่ไปตบหัวนักข่าวอะไรอย่างนั้น เมื่อถามว่า ที่ระบุตบหัวนักข่าวเป็นการส่งสัญญาณอะไรไปถึงพรรคนั้น จะเอาออกจากรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อยู่ที่เจตนาของแต่ละคน ใครสบายใจหรือไม่สบายน่าจะรู้ตัวกันอยู่แล้ว
     เมื่อถามว่า คุยกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)มีที่กระแสข่าวจะไม่อยู่ร่วมรัฐบาล อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องถามหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่ายังโอเคหรือไม่ เห็นวันนั้นท่านไม่สบายใจเรื่องอะไรผมไม่แน่ใจ อยู่ที่หัวหน้าพรรคที่ต้องเป็นคนเคลียร์กรรมการบริหารพรรคตัวเองว่าจะเอาอย่างไร หากภายในพรรคมีปัญหาก็ต้องเคลียร์ให้จบ
     ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยซีเรียสหรือไม่ ที่หัวหน้าพลังประชารัฐไม่ไปโหวตให้ น.ส.แพทองธาร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องถามใจท่านดู ว่าไม่ไปโหวตเพราะไม่อยากร่วมหรือท่านคิดว่าพอแล้วก็ตัดสินใจได้ เมื่อถามว่า โควตาของพรรคเพื่อไทย ได้เกลี่ยอย่างไรบ้าง นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องกรรมการบริหารต้องดำเนินการ และมีขั้นตอนเหมือนกับพรรคอื่น เพราะเวลาส่งชื่อจะส่งไปพร้อมกัน และตนไม่ทราบจะปรับออกหรือปรับเข้าอย่างไร สำหรับรายชื่อของพรรคร่วมฯ ขึ้นอยู่กับพิจารณาว่าจะส่งใคร หากภายในวันที่20 ส.ค.นี้ พรรคร่วมส่งมาเรียบร้อยก็จะรู้ว่าเหมือนเดิมหรือไม่เหมือนเดิม และรายชื่อทั้งหมดอยู่ที่นายกรัฐมนตรีพิจารณา และตอนนี้ยังไม่มีเรื่องพรรคใหม่เข้ามาเสริมและไม่ใช่ว่าจะตัด แต่ในขั้นตอนนี้เป็นหลักขั้นต้นจะเริ่มจากที่เรามีก่อน ส่วนพรรคร่วมจะมีชื่อหรือไม่ชื่อใคร จะอยู่ที่การคุยกันของพรรคร่วมและพรรคแกนนำอีกครั้ง
     ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวนายภูมิธรรมอยากไปนั่งรมว.มหาดไทย นายภูมิธรรม หัวเราะ พร้อมตอบว่า "โอ้ย จะไปอยากนั่งตรงไหนได้อย่างไร ถ้าเห็นว่าผมมีความเหมาะสมจะให้ทำอะไร ผมก็ทำทั้งนั้น อยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ก็มีความรู้สึกดีอยู่แล้ว กำลังทำงานที่ค้างไว้หลายงาน และยังพร้อมที่จะทำ" เมื่อถามย้ำว่า พอใจที่กระทรวงพาณิชย์ใช่หรือไม่ นายนภูมิธรรม กล่าวว่า พอใจ ถือว่าได้ทำงานเต็มที่ แต่อยู่ที่ไหนไม่ใช่ตนเป็นคนเลือก เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยอยากได้กระทรวงมหาดไทยกลับมาดูแลหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่มีว่าอยากได้กระทรวงไหน อยู่ที่กรรมการบริหารไปตัดสินใจว่าเราควรอยู่ตรงไหน และมีใครบ้างที่เหมาะสมจะนั่งตรงไหน


     นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์กรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อยู่ระหว่างการฟอร์มรัฐบาล แล้วมีข่าวว่าจะไม่มีตระกูลวงษ์สุวรรณอยู่ในคณะรัฐมนตรี ว่า เป็นเรื่องที่ตนและคนเสื้อแดงเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะในการร่วมรัฐบาลครั้งที่ผ่านมา ตอนโหวต นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ไม่มีคนตระกูลวงษ์สุวรรณมาโหวตให้ และการโหวตเลือกน.ส.แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐก็มาร่วมรัฐบาลแต่คนตระกูลวงษ์สุวรรณก็ไม่โหวตให้เช่นเดิม ชัดเจนว่าคนตระกูลนี้ไม่เอาด้วยกับนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคเพื่อไทย


     นายวรชัย กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าการที่ สว. 40 คน ยื่นสอบนายเศรษฐาจนหลุดจากตำแหน่ง ซึ่งสว.กลุ่มนี้ก็ถูกมองว่ามีความเกี่ยวพันกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อันนี้ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายระหว่างพรรคเพื่อไทยกับคนตระกูลวงษ์สุวรรณ เรามองว่าคนตระกูลนี้ทำงานมามากพอแล้ว ก็ถึงเวลาต้องพักผ่อน แล้วเอาคนที่กระฉับกระเฉงมาทำงานแทน


       "พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่วุฒิภาวะบางครั้งไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ อย่างเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้สื่อข่าวเมื่อสองวันก่อน ทำให้ตีความว่าพล.อ.ประวิตรต้องการเป็นนายกฯ เมื่อเป็นไม่ได้จึงมีอารมณ์ฉุนเฉียว ขาดความยั้งคิด ถึงขั้นลงมือลงไม้ ดังนั้นถ้าข่าวที่ออกมาเป็นจริงว่าจะไม่มีคนตระกูลวงษ์สุวรรณ ในคณะรัฐมนตรี จะถือเป็นเรื่องดีอย่างยิ่ง" 


     นายวรชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีมีการออกมาตั้งข้อสังเกตว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะครอบงำน.ส.แพทองธาร คนออกมาพูดเช่นนี้ บ้าไปแล้ว ทั้งสองเป็นพ่อลูกกันจะไม่คุยกันได้อย่างไร การพูดคุยในครอบครัวไม่ใช่การครอบงำทางการเมือง แต่เป็นเรื่องการแนะนำ พูดคุยที่เอาประสบการณ์ที่เคยทำสำเร็จในอดีตมาเป็นแนวคิด แนวการทำงาน ให้น.ส.แพทองธารนำไปพัฒนาต่อยอดในสถานการณ์ปัจจุบันได้ จะเป็นเรื่องดีเสียอีก


     ทั้งนี้ เห็นว่าอย่าเอาความโกรธ อารมณ์ส่วนตัวที่เกลียดมาทำลายความเชื่อถือของรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ขอว่าเรื่องนี้อย่าพูดด้วยความอิจฉาตาร้อน ปล่อยให้เขาทำงานไปก่อน ถ้าไม่ดีไม่มีความสามารถ แก้ปัญหาให้ประชาชนไม่ได้ ต่อไปก็ไม่ต้องเลือกพรรคเพื่อไทย