วันที่ 19 สิงหาคม 2567 ที่ กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร.) มอบนโยบายพร้อมขับเคลื่อนและกำชับการปฏิบัติงาน ความมั่นคงและกิจการพิเศษ แก่หน่วยกองบัญชาการตำรวจนครบล (บช.น.) ตรวจเยี่ยมและมอบของบำรุงขวัญแก่กำลังพล กก.อารักขา 1 และ 2, กก.ควบคุมฝูงชน 1 และ 2, กองร้อยน้ำหวาน, ชุดตอบโต้, ชุดช่างสนาม และชุดพยาบาลสนาม พร้อมเยี่ยมชมและตรวจความพร้อมของยานพาหนะและยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติภารกิจของ บก.อคฝ. โดยมี ผู้แทน บช.น., บก.อคฝ., รอง ผบก.ที่รับผิดชอบงาน มค และ กศ, ผบ.ร้อย คฝ. ในสังกัด บช.น. พร้อมข้าราชการตำรวจ บก.อคฝ. ร่วมให้การต้อนรับและรับฟังนโยบาย เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ ที่มุ่งให้ความสำคัญในการเทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนรักษาความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย และแก้ไขปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคงในทุกรูปแบบ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้บรรลุผลสำเร็จอย่างสูงสุด โดยมุ่งหวังให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน รักษาความมั่นคงของประเทศ และสร้างความสงบเรียบร้อยแก่สังคมอย่างมีประสิทธิภาพ
พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า งานความมั่นคงและกิจการพิเศษ มีความสำคัญยิ่งกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องรับผิดชอบและถือปฏิบัติให้เรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะภารกิจการถวายความปลอดภัยจะเกิดความผิดพลาดไม่ได้ บช.น. ถือเป็นหน่วยงานที่สำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นหน่วยที่รับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร อันเป็นเมืองหลวง และมีที่ตั้งของสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น เขตพระราชฐาน สถานที่ราชการ สถานที่สำคัญ ตลอดจนเป็นพื้นที่ที่มีบุคคคลสำคัญพำนัก พักอาศัยอยู่จำนวนมาก และเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศ ถือเป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของประเทศ การปฏิบัติภารกิจในงานความมั่นคงและกิจการพิเศษของ บช.น. จึงถือเป็นสิ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญ
ในโอกาสนี้ พล.ต.ท.ประจวบฯ ได้มอบนโยบายด้านงานถวายความปลอดภัย โดยต้องถือหลัก "ปลอดภัยสูงสุด สมพระเกียรติ เป็นไปตามพระประสงค์ และส่งผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด" ต้องติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการสร้างความเสียหายให้กับสถาบัน และส่งมอบข่าวให้กับหน่วยที่มีหน้าที่ ดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ แผน ในการปฏิบัติภารกิจถวายความปลอดภัย ทั้งในส่วนของเขตพระราชฐานที่ประทับ หรือในการเสด็จพระราชดำเนิน และต้องมีการประชุมหารือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและนอกสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่เสมอ รวมทั้งให้มีการซักซ้อมและทบทวนการปฏิบัติตามแผน กำลังพลต้องมีความพร้อมทั้งสภาพร่างกาย จิตใจ การแต่งกาย บุคลิกภาพ และทัศนคติที่ดีต่อสถาบัน ตลอดจนอุปกรณ์และยานพาหนะต้องมีสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานและเพียงพอกับภารกิจ
ในส่วนด้านงานความมั่นคงและกิจการพิเศษ เช่น งานรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ และสถานที่สำคัญ งานจราจร งานบรรเทาสาธารณภัย งานดูแลการชุมนุมสาธารณะ งานกำกับดูแลนักท่องเที่ยว งานอาชญากรรมข้ามชาติ งานต่อต้านการก่อการร้าย งานตรวจคนเข้าเมือง ต้องศึกษาทำความเข้าใจเนื้องานในความรับผิดชอบ มีการสำรวจข้อมูลพื้นฐานของพื้นที่ (IPB) จัดเก็บสารบบบุคคลกลุ่มเสี่ยง และปรับปรุงฐานข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ในส่วนของคนไทยต้องทราบข้อมูลทั้งในส่วนบุคคลท้องถิ่นและผู้ย้ายถิ่น ส่วนคนต่างชาติ หากเป็นกรณีนักท่องเที่ยวต้องมีการประสานงานกับผู้ให้บริการที่พักและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ส่วนคนต่างชาติที่เข้ามาทำงานก็ต้องมีการประสานงานกับเจ้าของแรงงานนั้นและกระทรวงแรงงาน มีการวิเคราะห์ภัยคุกคามและแสวงหาข้อมูลด้านการข่าว และต้องพร้อมปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายในทุกสถานการณ์
พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ที่ได้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจด้านงานความมั่นคงและกิจการพิเศษ อย่างเสียสละและเต็มกำลังความสามารถมาโดยตลอด ขอเป็นกำลังใจและพร้อมให้การสนับสนุนการปฏิบัติอย่างเต็มที่ และมีความมุ่งหวังว่าการระดมสรรพกำลังของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและทุกภาคส่วน ในการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย จะประสบผลสำเร็จ ตอบสนองนโยบายรัฐบาล ประชาชนและสังคมมีความสงบเรียบร้อย มั่นคงอย่างยั่งยืนสืบไป