บริษัท สตาร์ มันนี่ จำกัด (มหาชน) (SM) ผู้นำในการจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถประกัน (Auto Title loan) ทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์ รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รถเพื่อใช้ในการเกษตร สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ สินเชื่อบ้านและที่ดิน เพื่อลูกค้าทุกกลุ่มอาชีพ รวมไปถึงนายหน้าประกันภัยวินาศภัยทุกประเภท ภายใต้การบริหารงานของ “ชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม” ที่มีการวางกลยุทธ์เด็ดมัดใจลูกค้าแถบภาคตะวันออกได้อย่างเหนียวแน่น ล่าสุดวางแผนขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อโทรศัพท์มือถือ ขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม E-Commerce และลุยเทคโนโลยีล็อกโฟน พร้อมตั้งเป้าหมายปี 2567 จะมีรายได้รวมเติบโตเกิน 20% สร้างสถิติสูงสุดใหม่

สำหรับสตาร์ มันนี่ ได้รับฉายาว่าเป็น “ราชาสินเชื่อเงินผ่อนภาคตะวันออก” เนื่องจากมีสาขารวมมากกว่า 90 สาขา และเกือบทั้งหมดอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ถือได้ว่า ครอบคลุมเกือบทั้งหมด  โดยพื้นที่เขต EEC มีสถานประกอบการขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก รวมประมาณ 55,000 แห่ง มีกลุ่มลูกจ้างในสถานประกอบการราว 2 ล้านคน ซึ่งพื้นที่แห่งนี้มีเม็ดเงินสะพัดมากกว่าแสนล้านบาท จึงถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพมากที่สุดในภูมิภาคเลยก็ว่าได้

ปัจจุบันทางภาครัฐมีเป้าหมายดึงการลงทุนของ EEC เพิ่มขึ้นในปี 2567 – 2571 คาดการณ์ 5 ปี 5 แสนล้านบาท (ไม่รวมโครงสร้างพื้นฐาน) ซึ่งพื้นที่เขต EEC รวม 7 จังหวัดภาคตะวันออก มีมูลค่าการตลาดซื้อขายต่อปี  ซึ่งเป็นเหตุปัจจัยให้สตาร์ มันนี่ เจาะกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มลูกจ้างเป็นพิเศษ 

สำหรับมูลค่าตลาดสินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและโทรศัพท์มือถือใน EEC ประเมินว่าน่าจะอยู่ที่ 55,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โทรศัพท์มือถือมูลค่า 18,000 ล้านบาท, เครื่องใช้ไฟฟ้า 25,000 ล้านบาท, คอมพิวเตอร์ / โน๊ตบุ๊ค 12,000 ล้านบาท เรียกได้ว่ายังมีแนวโน้มให้เติบโตอีกมาก ทั้งนี้จึงมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มเติม เพื่อรองรับกลุ่มแรงงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และเพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างทั่วถึง ถือเป็นการสร้างและขยายอาณาจักรบนพื้นที่ภาคตะวันออกอย่างแท้จริง

ขณะเดียวกัน ตั้งแต่ช่วงกลางไตรมาส 4/2566 สตาร์ มันนี่ ได้มีการนำเทคโนโลยีล็อกโฟนซึ่งเป็นระบบล็อกโทรศัพท์เข้ามาควบคุมความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อโทรศัพท์มือถือ ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการเก็บรวบรวมสถิติการชำระหนี้ก่อนและหลังการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ พบว่า ลูกค้ามีการชำระเงินที่ดีขึ้นต่อเนื่อง จากเดิมที่มีอัตราการเก็บเงินสดที่ 88% ในช่วงเริ่มต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 ล่าสุด ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 อยู่ที่ 96% สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเทคโนโลยีล็อกโฟนมีประสิทธิภาพและสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ เพื่อให้ความสำคัญกับ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA ( Personal Data Protection Act ) อย่างเคร่งครัด รวมถึงได้มีการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการล็อกมือถือ  ทางสตาร์ มันนี่ ได้มีการแจ้งให้ลูกค้าได้รับทราบ และเซ็นยินยอมเมื่อมีการทำสัญญาเงินผ่อน

โดยโทรศัพท์มือถือเป็นสินค้าที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน มีตลาดที่ใหญ่ ความต้องการสูง เติบโตเร็ว และที่สำคัญคือ High Margin ทำให้สตาร์ มันนี่ มุ่งขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อโทรศัพท์มือถือ  และตั้งเป้าให้เป็นสินค้า Flagship และเป็น Product Highlight ของปีนี้ โดยมีแผนเปิด Shop มือถือเพิ่มเติมในทำเลพื้นที่ที่มีศักยภาพ และเปิด Shop มือถือเพิ่มเติมในรูปแบบ Shop In Shop ในสาขาย่อยอีกกว่า 60 สาขา เพื่อให้สาขาทั้งหมดที่มีกว่า 90 สาขา สามารถขายมือถือได้ครอบคลุมพื้นที่และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากนั้นแล้วยังอยู่ในช่วงของการวางระบบและแผนงาน ในการรุกตลาดการขายมือถือผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะ Platform TikTok ให้ครอบคลุมพื้นที่ภูมิภาคอื่นๆ ให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ซึ่งการขยายและรุกตลาดในรูปแบบออนไลน์นี้ ทำให้สตาร์ มันนี่ มีการปรับเป้าเพิ่มยอดเช่าซื้อโทรศัพท์มือถือมาที่ระดับ 500 ล้านบาท จากเดิมตอนต้นปีตั้งไว้ที่ 360 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 815.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116.93 ล้านบาท หรือ 16.73% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 698.85 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 46.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.26 ล้านบาท หรือ 7.53% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 43.29 ล้านบาท  

ทั้งหมดนี้ ถือเป็นงานท้าทายของสตาร์ มันนี่ ในการวางกลยุทธ์เพื่อให้เกิดความแข็งแกร่งทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีล็อกโฟนที่นำเข้ามาช่วยจัดเก็บหนี้ ขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อโทรศัพท์มือถือ จากแนวโน้มตลาดที่ยังคงเติบโตดี ขยายสาขาเพื่อรองรับการบริการให้ทั่วถึง รวมถึงตามเทรนด์วางแผนขยายฐานลูกค้าผ่าน Platform TikTok ที่มีบัญชีผู้ใช้ไทยราว 45 ล้านคน เป็นที่น่าจับตามองว่าเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่ “ชูศักดิ์” ตั้งไว้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ทำสถิติใหม่คาดจะประสบผลสำเร็จแน่นอน