วันที่ 19 ส.ค.67 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ  นายราเชน ตระกูลเวียง   หัวหน้าพรรคทางเลือกใหม่  เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.)ให้ตรวจสอบข้อสงสัยเนื่องจากพรรคประชาชนออกมาแถลงว่า  มีการบริจาคเงินผ่านบัญชีคนกลาง  ซึ่งโดยทั่วไปแล้วพรรคการเมืองจะมีบัญชี 3 บัญชีคือ บัญชีพรรคการเมือง บัญชีที่รับบริจาค บัญชีขอเงินอุดหนุน 

โดยนายราเชนทร์ กล่าวว่า ตามปกติหากประชาชนประสงค์ที่จะบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองสามารถบริจาคเข้าโดยตรงกับบัญชีของพรรคการเมืองที่เปิดกับธนาคารพาณิชย์โดยทั่วไป   เมื่อเปิดบัญชีกับธนาคารพาณิชย์แล้วภายใน 7 วันพรรคการเมืองจะต้องส่งบัญชีให้กับกกต.เป็นหลักฐาน  ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติโดยทั่วไปของพรรคการเมืองอย่างถูกต้อง 

แต่ล่าสุดกรรมการบริหารพรรคประชาชนออกมาแถลงว่า  การบริจาคเงินของพรรคประชาชนต้องผ่านบริษัทกลางก่อน หรือบัญชีกลางก่อน  แล้วถึงจะบริจาคเงินให้กับบัญชีของพรรค  ตนจึงตั้งข้อสังเกตและข้อสงสัยว่าทำไมจึงต้องบริจาคผ่านบัญชีกลางก่อน  มีบริษัทกลาง แล้วค่อยนำส่งเงินให้กับบัญชีของพรรคประชาชน ดังนั้นบัญชีที่เป็นบัญชีกลางจะตรวจสอบการโอนเงินได้อย่างไร   และตรวจสอบได้หรือไม่ จึงขอให้  กกต.ดำเนินการ  อีกทั้งในการตรวจสอบบัญชีสามารถตรวจสอบลงลึกว่ามีบุคคลต้องห้ามในการบริจาคให้กับพรรคการเมืองหรือไม่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 24  ที่ระบุว่า บุคคลต่างด้าวที่ไม่ใช่สัญชาติไทยถือว่าเป็นข้อห้ามในการที่จะบริจาคให้กับพรรคการเมือง  เพื่อความโปร่งใสในการดำเนินการของพรรคการเมือง

นายราเชน  กล่าวว่า  พรรคประชาชนได้ทำหนังสือสอบถามถึง กกต. และกกต.อนุญาต  ตนจึงตั้งประเด็นนี้เพื่อสอบถาม กกต. ว่าถ้าบัญชีแบบนี้สามารถทำได้หรือไม่  และกกต. อนุญาตได้อย่างไร แล้ววิธีการตรวจสอบ  กกต.จะตรวจสอบกับธนาคารพาณิชย์ที่เปิดบัญชีได้อย่างไร  หากมีบุคคลต้องห้ามในการบริจาคเงินให้กับพรรคการเมือง   แต่เป็นบัญชีที่ถูกกลั่นกรองมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงอยากให้ กกต.ทำความกระจ่างให้กับสาธารณชน  โดยการตรวจสอบว่ามีบุคคลต้องห้ามได้บริจาคให้กับพรรคการเมืองหรือไม่  ถ้ามีการบริจาคก็ถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายดังนั้น กกต.ต้องเร่งดำเนินการให้กระจ่าง

"ตามที่เขาแถลงบอกว่า ได้ทำเรื่องขออนุญาต กกต.แล้ว  แต่วิธีปฏิบัติทั่วๆไป ผมเชื่อได้ว่าไม่มีพรรคการเมืองไหนเขาถาม เพราะปกติแล้วจะโอนให้กับพรรคการเมืองโดยตรงเลย   เพราะบัญชีที่เปิดมาทุกบัญชี ไม่ว่าจะเป็นบัญชีอุดหนุน  บัญชีเงินบริจาค บัญชีสมาชิก  เขาจะต้องระบุชัดเจนเลยว่าเปิดบัญชีเพื่ออะไร  แล้วทุกเดือนจะต้องไปอัพเดท และทุกปีต้องทำงบดุล แล้วต้องส่งให้ กกต. ตรวจสอบทุกเดือน และการที่มีบัญชีกลางแบบนี้ผมก็เพิ่งทราบว่ามีบัญชีกลางในการรับบริจาคก่อนกรรมการบริหารพรรคประชาชนได้แถลง    

จึงตั้งข้อสังเกตเพื่อให้ กกต.ดำเนินการอย่างถูกต้องและตรงไปตรงมา เพราะเกรงว่าจะมีบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติในการบริจาคให้กับพรรคการเมืองปะปนอยู่ด้วย  เพราะก่อนหน้านี้ ก็มีบุคคลที่มีอายุแค่ 16 ปี เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล  ทั้งที่ตามกฎหมายกำหนดจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ดังนั้นก็อาจมีประเด็นเหล่านี้หลุดเข้าไปได้เหมือนกัน   ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่   จึงจำเป็นต้องยื่น กกต.ตรวจสอบโดยด่วน" นายราเชน กล่าว

นายราเชน  กล่าวอีกว่า ตนอยากให้กกต.ชี้แจงว่าพรรคการเมืองมีอำนาจทำได้หรือไม่  ตามที่ได้กล่าวอ้าง  ถ้าทำได้จริงประเด็นต่อมาคือการจะตรวจสอบบัญชีเหล่านั้นสามารถทำได้หรือไม่  เพราะตอนนี้มีข้อกำหนดว่าจะต้องส่งบัญชีให้กกต.ตรวจสอบ  และ กกต.มีอำนาจทางกฎหมายที่จะเรียกตรวจสอบบัญชีบุคคลภายนอกหรือไม่ และบัญชีกลางสามารถตรวจสอบได้หรือไม่ว่ามีบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะสนับสนุนบริจาคให้กับพรรคการเมือง ซึ่งมองว่าทั้ง 2 ประเด็นเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะประเด็นที่มีบุคคลต้องห้ามบริจาคเข้ามาหรือไม่ จึงต้องเร่งตรวจสอบโดยด่วน

เมื่อถามว่าบุคคลที่มีอายุ 16 ปีสามารถบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้หรือไม่ นายราเชน กล่าวว่า จะต้องไปตรวจสอบและจะต้องไปดูข้อกฎหมาย   ว่าอายุ 16 ปีสามารถบริจาคเงินได้หรือไม่   โดยบริจาคในลักษณะไหนอย่างไร  โดยกฎหมายวางกรอบไว้ค่อนข้างชัดเจนว่าทุกอย่างต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้   จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบลงลึกในรายละเอียด กกต.มีกฎหมายว่าจะลงโทษสั่งปรับ โดยมีมาตรการจากเบาไปหาหนักอยู่แล้ว  ปรับตั้งแต่ 50,000 บาท หรือวันละ 1,000 บาท จนกว่าจะปรับปรุงให้แล้วเสร็จ   แล้วแต่ประเด็น 

ส่วนจะยุบพรรคหรือไม่อยู่ที่กฎหมายของ กกต. เรื่องนี้ กกต.จะต้องดำเนินการทันที  แล้วต้องตอบคำถามให้กับสังคมภายใน 3 วันถึง 7 วันด้วยซ้ำ เพราะเป็นเรื่องไม่ยาก จึงขอให้ กกต.ใช้อำนาจเรียกเอกสารแล้วตรวจสอบว่ามีบุคคลต้องห้ามหรือไม่ ถ้ามีบุคคลต้องห้ามต้องดำเนินการทันที