ผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 20.00 น.ร.ต.ท.ศุภชัย เมตตามิตรพงศ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางโทรัด จ.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงคนเสียชีวิตที่บ้านไม่มีเลขที่ ริมทางรถไฟ ม.2 ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร , พ.ต.อ. สุรศักดิ์ สิทธิโชคธรรม ผกก.สภ.บางโทรัด,พ.ต.ท.วุฒิชัย ทวีกาญจนวัฒน์ รอง ผกก.สส.สภ.บางโทรัด,พ.ต.ท.ไชยภูมิ ฉลองภูมิ รอง ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.บางโทรัด เจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐานสมุทรสาคร  แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร

โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านมุงจากลักษณะคล้ายกระต๊อบริมบ่อ ภายในพบร่างไร้วิญญาณ 2 ศพ ทราบต่อมาคือ นางบุปผา  อายุ 62 ปี ที่อยู่ ม.4 ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด ถูกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ยิงเข้าที่บริเวณกลางหน้าอก 1 นัด ไหปลาร้า 1 นัด ราวนมด้านซ้าย 1 นัด และจมูก 1 นัด ส่วนอีกศพเสียชีวิตอยู่ใกล้กันคือ นางสาวอริษรา  อายุ 22 ปี ลักษณะนอนตะแคงคว่ำหน้าอยู่ โดยถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่บริเวณศรีษะด้านหลัง 3 นัด ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน เป็นแม่ลูกกัน นอกจากนี้ยังเด็กเล็กชื่อ เด็กหญิงเอ นามสมมุติ อายุ 2 ปี 2 เดือน ถูกกระสุนถากเข้าที่เอว 1 นัด เจ้าหน้าที่ฯ รีบนำส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ได้จำนวน 3 ปลอก จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามนายบุญมา  อายุ 83 ปี สามีของป้าบุปผา  ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ลุงกับป้า ได้มาเช่าที่ทำบ่อปลาเลี้ยงกุ้งอยู่ที่นี่โดยมีลูกสาวที่ทำงานอยู่ร้านขายกาแฟกับหลานวัย 2 ขวบ ลูกของหญิงสาวที่เสียชีวิต พักอาศัยอยู่ด้วยกันรวม 4 คน ซึ่งลุงมีหน้าที่ทำบ่อ ส่วนป้ามีหน้าที่เลี้ยงหลาน โดยก่อนเกิดเหตุช่วงตอนกลางวัน ขณะที่ลุงไปดายหญ้าอยู่ด้านหลังกระต๊อบตรงบ่อเลี้ยงปลา ก็มีชายวัยรุ่น 2 คน อายุประมาณ 20 ปีกว่าๆ มายิงปืนข้างบ้าน โดยหนึ่งในนั้นเป็นหลานชายของญาติเมียมากับเพื่อนอีก 1 คน อายุไล่เลี่ยกันแต่ลุงไม่รู้จัก พอลุงได้ยินเสียงปืนดังขึ้นกว่า 20 นัด ก็รีบเดินมาดูแล้วก็ตะโกนว่า ทำอะไรกัน พวกเขาก็บอกว่ามายิงนก ลุงจึงบอกว่าไปยิงที่อื่นหลานกูร้อง จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แล้วลุงก็เดินกลับไปดายหญ้าต่อ ทำให้ไม่รู้ว่าภายหลังเกิดอะไรขึ้นก่อนที่พวกนั้นจะออกไป ส่วนป้าได้ออกไปแจ้งความที่โรงพักแล้วก็กลับมาตอนเย็น กระทั่งมาตอนช่วงหัวค่ำ ตนไปเปิดน้ำเข้าบ่อ  แล้วก็ได้ยินเสียงปืนดังปังๆ ตนก็เดินมาเรียกที่บ้านแต่ปรากฏว่าเงียบกันหมด มีแต่หลานบอกว่ายายตาย ตนก็ขึ้นไปดูเห็นเลือดเต็มไปหมดเลยสองคนแม่ลูก จากนั้นตนก็ไปหยิบโทรศัพท์มาโทรไป 191 แจ้งว่ามีคนโดนยิงให้รีบมา

ด้านของนางสาวจุฑามาศ  อายุ 35 ปี ลูกสาวคนโตของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตอนกลางวันแม่ได้โทรมาเล่าให้ฟังว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แล้วแม่ก็ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บางโทรัด ซึ่งตนที่อยู่อีกบ้านหนึ่งก็ไปเป็นเพื่อนแม่ด้วย โดยช่วงที่อยู่โรงพักทางญาติของแม่ที่เป็นครอบครัวของหลานที่เข้ามาก่อเหตุกับเพื่อนนั้น ได้โทรศัพท์มาหาแม่แล้วบอกว่า ให้ช่วยถอนแจ้งความ อย่าเอาเรื่องกับหลานเลย แต่แม่บอกกลับไปว่า จะไม่ให้แจ้งความได้อย่างไร ก็เพื่อนหลานเล่นเอาปืนจ่อกลางหน้าผากแล้วยังลงมาที่กลางหน้าอกอีก เพราะว่าหลังจากที่ลุงเดินออกมาบอกให้ไปยิงที่อื่นหลานร้อง ตนก็บอกว่าถ้าไม่หยุดจะไปแจ้งความ เท่านั้นแหล่ะไอ้เพื่อนหลานที่มีปืนในมือ ก็เดินเข้ามาเอาปืนจ่อกลางหน้าผากแล้วลงมาที่กลางหน้าอกอีก พร้อมกับพูดว่าถ้าไปแจ้งความจะยิงให้ตาย ทำให้แม่กลัวมากแต่ก็มาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน กระทั่งต่อมาตอนเย็นพอหลังจากที่แม่กับตนให้ปากคำเสร็จสิ้นที่โรงพักแล้ว ตนก็ให้แม่กลับบ้านกับน้องสาวที่เลิกงานพอดี จากนั้นพอตอนหัวค่ำก็ปรากฎว่ามีคนร้ายมายิงแม่กับน้องเสียชีวิตในบ้าน และยังมีหลานวัย 2 ขวบซึ่งเป็นลูกของน้องสาว ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ รักษาตัวในห้องไอ.ซี.ยู ทั้งนี้หากจะถามว่าตนสงสัยใครก็คงหนีไม่พ้น 2 คนข้างต้น เพราะที่บ้านไม่เคยมีเรื่องหรือมีปัญหาใดๆกับใครมาก่อน 

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางโทรัด ได้เปิดเผยว่า วันนี้ (17 ส.ค.) ตอนเวลาประมาณ 11.10 น. นางบุปผา อายุ 62 ปี ได้มาที่ สภ.บางโทรัด และแจ้งว่าเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ของวันที่ 17 สิงหาคม 2567 ได้มีชาย 2 คน ได้ใช้อาวุธปืนยิงและข่มขู่ บริเวณริมทางรถไฟ ณ บ้านไม่มีเลขที่ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายเกียร์ และนายปาล์ม ไม่ทราบชื่อจริง และนามสกุล หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไป 

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน.