เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือน-หุ้นไทยสัปดาห์หน้า 1,280-1,330 จับตาประชุม กนง.-นโยบาย ศก.รัฐบาลใหม่
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาทรอบสัปดาห์ เงินบาทแข็งค่าผ่านแนว 35.00 ไปแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือนที่ 34.84 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์ท่ามกลางแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์ฯ จากกระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมากกว่า 25 basis points ในการประชุม FOMC เดือนก.ย. หลังตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกก็เพิ่มแรงหนุนให้เงินบาทแข็งค่าด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี เงินบาทอ่อนค่ากลับมาช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ตามแรงขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับตลาดยังคงรอติดตามประเด็นทางการเมืองในประเทศ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ทยอยฟื้นตัวแข็งค่ากลับมาสอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนก.ค. ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งทำให้ตลาดลดทอนโอกาสความเป็นไปได้ที่จะเห็นเฟดปรับลดดอกเบี้ยมากกว่า 25 basis points ในการประชุม FOMC เดือนก.ย.นี้
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 19-23 ส.ค. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.85-35.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2567 ของไทย ผลการประชุมกนง. ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ประเด็นทางการเมืองและนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ สัญญาณเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยจากประธานเฟดจากงานสัมมนาประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 30-31 ก.ค. การประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน ตลอดจนดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ (เบื้องต้น) เดือนส.ค. ของญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ และสหรัฐฯ
ด้านความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย หุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบในช่วงแรก แต่ร่วงลงช่วงกลางสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายของกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติถอดถอนนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศ และเทขายหุ้นในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกจากความกังวลว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศอาจมีการเปลี่ยนแปลงและล่าช้าออกไป อย่างไรก็ดีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้ช่วงปลายสัปดาห์ตามทิศทางหุ้นภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลบางส่วนต่อประเด็นเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด ประกอบกับมีแรงหนุนจากประเด็นการเมืองในประเทศเพิ่มเติม หลังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น ส่งผลให้ช่วงท้ายสัปดาห์มีแรงซื้อคืนหุ้นทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์และไฟแนนซ์
สัปดาห์ที่ 19-23 ส.ค. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,290 และ 1,280 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,310 และ 1,330 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2567 ของไทย การประชุมกนง. สุนทรพจน์ของประธานเฟดในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รวมถึงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ประเด็นการเมืองในประเทศ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ บันทึกการประชุมเฟด การกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนส.ค. ของจีน ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ค. ของยูโรโซนและญี่ปุ่น ตลอดจนดัชนี PMI เดือนส.ค.ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ
#หุ้นไทย #เงินบาท #นายกรัฐมนตรี #ข่าววันนี้ #กนง #ศูนย์วิจัยกสิกรไทย