วันที่ 16 สิงหาคม 2567 เวลา 14.08 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนครั้งแรกภายหลังสภาผู้แทนราษฎร 319 เสียง ลงมติเห็นชอบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 

นางสาวแพทองธาร กล่าวขอบคุณทุกคะแนนเสียงโหวตจากตัวแทนประชาชนทุกท่าน ตนเองและทีม จะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ใดก็ตามที่ได้รับมอบหมาย ขอขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี  ที่ทำงานมาอย่างหนักมาโดยตลอดเกือบ 1 ปีเต็ม เราทุกคนพร้อมจะทำงานหนักเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ความตั้งใจแรกที่จะทำคืออะไร นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ขอให้มีการเสนอรายชื่อและโปรดเกล้าฯก่อนที่จะมีการพูดถึงรายละเอียดในการบริหารต่อไป วันนี้ตั้งใจเพื่อขอบคุณคะแนนโหวตมากกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า คนแรกที่แสดงความยินดีคือใคร  นางสาวแพทองธาร ตอบว่า สามี พี่ชาย และพี่สาว  ซึ่งอยู่ด้วยกันในขณะติดตามการโหวต  และได้โทรคุยกับคุณพ่อคุณแม่  โดยคุณพ่อโดย Facetime บอกว่า เมื่อได้รับการนำเสนอชื่อทูลเกล้าฯและโปรดเกล้าฯ แล้ว ขอให้ทำเต็มที่ ดีใจที่หวังว่าจะได้เห็นลูกสาวได้รับตำแหน่ง (นายกรัฐมนตรี) ก่อนที่ท่านจะเป็นอัลไซเมอร์ เป็นอะไรไป ท่านบอกแบบนี้ เพราะท่านอายุมากแล้ว  (หัวเราะ) พูดกันเล่นๆ ก็เป็นกำลังใจให้กันเสมอ คุณแม่ เป็นห่วงเสมอ บอกคุณแม่ว่าจะดูแลตัวเองให้ดี 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีแรงกดดันหรือไม่ นางสาวแพทองธารตอบว่า ความกดดัน เราสามารถจัดการกับมันได้ การทำงาน ใน mindset ที่เข้ามาทำงานตั้งแต่ก้าวเข้ามาทำงานการเมือง ไม่เคยบอกว่าตัวเองเป็นคนที่ดีที่สุด เก่งที่สุดในห้อง แต่คิดเสมอว่าเรามีแรงผลักดันที่ชัดเจน เรามีทีมที่ดี ทีมของเราเข้มแข็ง มีประสบการณ์ มีความตั้งใจและคิดไปในแนวทางเดียวกับเรา คือสิ่งที่ตนเองให้คุณค่า (Value) ตรงนี้มากๆ ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งตรงไหนก็ตาม  เมื่อเรามีทีมที่ดี เราจะประสบความสำเร็จได้ 

ทั้งนี้ นางสาวแพทองธาร ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวต่างประเทศว่า ตนมีความคาดหวังว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนว่า เราพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลจะร่วมกันสร้างโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างพลังให้กับคนไทยทุกคน 

ผู้สื่อข่าวต่างประเทศถามว่า คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อได้รับการยืนยันว่านายเศรษฐา ต้องออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า  มีความรู้สึกสับสน และในขณะนั้นยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรหลังจากผลของคำนิจฉัยของศาลออกมา เมื่อผลเป็นเช่นนั้น ตนรู้สึกเสียใจ เพราะไม่ได้คาดหวังว่าผล ของคำวินิจฉัย จะเป็นอย่างนั้น 

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ได้รู้ผลคำวินิจฉัยหลังจากที่เดินทางกลับจากจีน และรู้ผลหลังจากเปิดโทรศัพท์มือถือและอ่านข่าว ตอนนั้นเกิดความรู้สึกว่า ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงเป็นอย่างนี้ ตนรู้สึกเสียใจมาก และได้คุยกับคุณเศรษฐา พูดคุยกับครอบครัว และพูดคุยกับคนในพรรคหลายคน จนตัดสินใจได้ว่า ถึงเวลาแล้วที่จะทำอะไรสักอย่าง เพื่อประเทศ และเพื่อพรรคเพื่อไทยด้วย ตนจะทำเต็มที่เพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า 

ตอนนี้ วันนี้ รู้สึกเป็นเกียรติและมีความสุขมาก ยืนยันว่าทำดีที่สุดในทุกๆ วันและในทุกโอกาสที่มี  แม้มีหลายอย่างเกิดขึ้น หากตนทำดีที่สุดเสมอ และนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้เสมอ เชื่อว่าทุกอย่างจะลุล่วงไปได้ด้วยดี