สยามพารากอน ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการรังสรรค์สุดยอดประสบการณ์เหนือระดับ ร่วมกับ  Bonsai Hunter (บอนไซ ฮันเตอร์) สุดยอดผู้เชี่ยวชาญด้านบอนไซ จัดนิทรรศการแสดงบอนไซญี่ปุ่น อันทรงคุณค่า “Siam Paragon the Living Art of Elegance: Japan Bonsai Exhibition by Bonsai Hunter”  ครั้งแรกของการจัดแสดงบอนไซญี่ปุ่นหาชมยาก ที่มีอายุรวมกันกว่า 2,000 ปี ในใจกลางกรุงเทพ  ณ  สยามพารากอน ให้ศิลปะบอนไซเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถสัมผัสและเข้าถึงได้ ภายในงานยังมีเวิร์คชอปบอนไซสุดพิเศษ โดย Bonsai Hunter ให้เรียนรู้ถึงศาสตร์และศิลป์ในการรังสรรค์และดูแลบอนไซ พร้อมจำหน่ายต้นบอนไซอันงดงาม รวมถึงอุปกรณ์การดูแลและตกแต่งบอนไซระดับมือโปรอีกด้วย โดยนิทรรศการจัดให้ชมฟรี ระหว่างวันที่ 15 - 25 สิงหาคม 2567 ณ Living Hall ชั้น 3 สยามพารากอน

กรกช ไทยศิริ แห่ง Bonsai Gallery  และโสภิดา กิติโกมล_

สยามพารากอน ที่สุดแห่งโกลบอลเดสติเนชั่นของไทย ที่ครองใจนักช้อปทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ยึดมั่นในการนำเสนอประสบการณ์เหนือระดับ ที่แปลกใหม่ และไม่เคยมีมาก่อน ในครั้งนี้ สยามพารากอน ชวนร่วมสัมผัสสุนทรียแห่ง “บอนไซ” ศิลปะร่วมสร้างระหว่างธรรมชาติและมนุษย์ ที่สืบทอดกันมายาวนานนับ        พันปี ตัวแทนแห่งปรัชญาตะวันออกอันลุ่มลึก ดื่มด่ำกับความสงบงามของบอนไซญี่ปุ่นหลากหลายสายพันธุ์ กว่า100 ต้น ในรูปทรงอันงดงามลึกซึ้งบนพื้นฐานของปรัชญาความไม่สมบูรณ์แบบ ผ่านฝีมือและกาลเวลาอันยาวนาน ที่สร้างเอกลักษณ์เฉพาะให้บอนไซแต่ละต้นเป็นผลงานศิลป์ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ทั้งหมดคือผลงานการสร้างสรรค์ของ Bonsai Hunter นำโดย กรกช ไทยศิริ  Gallery Master ผู้เชี่ยวชาญด้านบอนไซระดับแนวหน้าที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี และยังเปี่ยมประสบการณ์จากประกวดบอนไซระดับนานาชาติทั้งในเมืองไทยและที่ญี่ปุ่นมาแล้วมากมาย 

บอนไซสไตล์ Kishu Yamadori ที่คว้ารางวัล Taikanten Prized

สำหรับไฮไลท์ของบอนไซญี่ปุ่นที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้ ได้แก่ สายพันธุ์  “Itoigawa Shimpaku” งดงามด้วยรูปทรง cascading หรือ ทรงตกกระถาง ซึ่งจัดว่าเป็นทรงหายาก ที่ต้องอาศัยฝีมือและความเชี่ยวชาญขั้นสูงในการสร้างล้อรูปทรงของต้นไม้ที่เติบโตตามธรรมชาติบนหน้าผา มีเพียงไม่กี่ต้นเท่านั้น ในประเทศไทยและจัดว่ามีรูปทรงที่สวยเป็นอันดับต้นๆของประเทศ อีกต้นในสายพันธุ์  “Itoigawa Shimpaku”  เช่นกัน มีอายุยาวนานกว่า 100 ปี โดดเด่นด้วยรูปทรง semi-cascading หรือกึ่งตกกระถาง ล้อไปกับกระถางทรงพระจันทร์เสี้ยวจากญี่ปุ่น จุดเด่นคือ ผ่านการสร้างให้มีขนาดกะทัดรัด ถือเป็นบอนไซระดับ top quality ที่ทั้งงดงาม มีอัตราส่วนรูปทรงสวยงามสมดุล มีอายุเก่าแก่ และสุขภาพสมบูรณ์  ต่อด้วยสายพันธุ์ “Kishu Shimpaku – Yamadoti” บอนไซทรง “บัณฑิต” ซึ่งถือเป็นรูปทรงมงคล ที่มีอายุยาวนานถึง 100 - 120 ปี Yama ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงภูเขา ส่วน Dori หมายถึง การเก็บ เมื่อรวมกันจึงหมายถึงการเก็บต้นไม้ที่เติบโตตามธรรมชาติบนภูเขา

_สายพันธุ์ Japanese Black Pine อายุ 100 ปี ราคา 220,000 บาท_

โดยปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นได้มีการสั่งห้ามเก็บต้นไม้ลักษณะนี้จากแหล่งกำเนิดธรรมชาติแล้ว  จึงจัดว่าหาได้ ยากมาก รูปทรงบัณฑิต มีการวิ่งขึ้นของซากในแนวดิ่ง สื่อถึงการเติบโตของผู้เป็นบัณฑิตที่ต้องผ่านการต่อสู้เพื่อให้พ้นจากร่มเงาของผู้อื่น และสร้างโอกาสที่ดีได้ด้วยตนเอง

นอกจากนี้ ยังมีสายพันธุ์ “Japanese Black Pine” (Kuromatsu) มีอายุกว่า 100 ปี สนดำญี่ปุ่นเป็นต้นไม้ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์และดูราวกับมีมนต์ขลัง สื่อเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นซึ่งมักจะพบเห็นต้นสนดำสูงสง่าได้ทั้งจากภาพวาด และในสถานที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม สวนญี่ปุ่น หรือแม้แต่ในพระราชวัง ซึ่งตามธรรมชาติจะสูงได้กว่า 10 เมตร  การจะเลี้ยงให้กระชับทรงในกระถาง และเลี้ยงให้ได้รูปทรงตามธรรมชาตินั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่าย  และบอนไซสไตล์ “Kishu Yamadori” ที่ได้คว้ารางวัล Taikanten Prized จากการประกวดบอนไซระดับนานาชาติจากเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เติบโตบนซากธรรมชาติเก่าแก่เป็นลักษณะไม้เกลียวคลื่น ลำต้นกิ่งตั้งตรงมีความสมดุลในการสร้างสรรค์ทั้งการเจิรญเติบโตออกด้านข้างทั้งซ้ายและขวาอย่างสมดุลงดงาม

สายพันธุ์ Kishu Shimpaku - Yamadoti อายุ 100 -120 ปี ราคา 350,000 บาท

กรกช ไทยศิริ  Gallery Master แห่ง Bonsai Hunter ผู้เชี่ยวชาญด้านบอนไซระดับแนวหน้าที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี กล่าวว่า “นิทรรศการ Siam Paragon the Living Art of Elegance: Japan Bonsai Exhibition by Bonsai Hunter”  ถือเป็นนิทรรศการบอนไซครั้งแรก ที่จะเปิดให้ทุกคนสามารถเข้ามาสัมผัสและชื่นชมมิติความงามแห่งศิลปะแห่งบอนไซได้อย่างใกล้ชิด บอนไซ แท้จริงไม่ใช่ชื่อต้นไม้ แต่หมายถึงการปลูกต้นไม้ในกระถางขนาดเล็ก โดย 盆 (Bon)  หมายถึง กระถาง และ 栽 (Sai) หมายถึง การเพาะปลูก บอนไซเป็นการศิลปะร่วมสร้างสรรค์ระหว่างธรรมชาติและมนุษย์ เป็นจำลองธรรมชาติในรูปแบบย่อส่วน โดยเลียนแบบรูปทรงของต้นไม้ใหญ่ตามธรรมชาติ  บอนไซสื่อถึงแนวคิดปรัชญาญี่ปุ่นแบบ Wabi-Sabi นั่นคือ ความไม่สมบูรณ์คือความสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง สำหรับศิลปะบอนไซแล้ว ไม่มีใครเป็นผู้สร้างอย่างแท้จริง ไม่มีใครเป็นเจ้าของที่แน่นอน บอนไซหนึ่งต้นคือมรดกที่สามารถส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น ผู้เลี้ยงแต่ละคนจะฝากซิกเนเจอร์เฉพาะตัวที่แอบแฝงอยู่ลึกๆในแต่ละต้น แสดงถึงการที่ธรรมชาตินั้นอยู่เหนือสิ่งอื่นใด”

สายพันธุ์ Itoigawa Shimpaku ทรงกึ่งตกกระถาง ในกระถาง

สำหรับเวิร์คชอปบอนไซ จะจัดขึ้นภายในบริเวณนิทรรศการ ในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 17, 18,  24 และ 25 สิงหาคม นี้ วันละ 1 รอบ ระหว่างเวลา  13.00 – 15.00 น. ในราคาท่านละ 3,000 บาท  ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าและติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Bonsaihuntergallery  โดยจะได้เรียนรู้เชิงลึกถึงศิลปะบอนไซขั้นพื้นฐานทั้งทฤษฎีและการลงมือปฏิบัติจริง ตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของบอนไซ ความรู้ความเข้าใจในการเลี้ยงดู การฝึกทักษะการจัดทรง การตรวจสุขภาพ และการดูแลเพื่อการป้องกันและรักษาโรคได้อย่างถูกต้องและถูกวิธี การเลือกต้นบอนไซ การวางแผนวิเคราะห์รูปทรงเพื่อสร้างรูปทรงให้สวยงามตามธรรมชาติและพลังงานธาตุที่สำคัญ เรื่องดิน น้ำ ลม ไฟ  ปุ๋ย  รวมถึงฝึกการคัดกิ่งและการเข้าลวด

เวิร์คชอปบอนไซ_

ร่วมชมศิลปะบอนไซ ผลงานร่วมสร้างของธรรมชาติและมนุษย์ สัมผัสความสงบงามของธรรมชาติและปรัชญาตะวันออกอันลุ่มลึก ได้ที่ นิทรรศการ Siam Paragon the Living Art of Elegance: Japan Bonsai Exhibition by Bonsai Hunter” ร่วมชมฟรี พร้อมสมัครร่วมเวิร์คชอป ได้ตั้งแต่ 15 – 25 สิงหาคม นี้ ที่ Living Hall ชั้น 3 สยามพารากอน ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: SiamParagon หรือ Facebook: Bonsaihuntergallery

 

#SiamParagon #BonsaiHunter #Bonsai