SVR กางแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง ลุยเปิดอสังหาฯ 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3,812 ล้านบาท เจาะทำเลทองโซนกรุงเทพฯตะวันตก-บางปู พร้อมจ่อทยอยรับรู้รายได้ไตรมาส 4/2567 เป็นต้นไป ตอกย้ำมุ่งเน้นพัฒนาโครงการในทำเลคุณภาพที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยสูง เพื่อสร้างการเติบโตสู่ระดับ High Growth พร้อมตั้งเป้าอัตราการเติบโตในปีนี้เพิ่มขึ้น 35-50%
นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมด 4 โครงการ โดยมุ่งเน้นบนทำเลทองของย่านที่อยู่อาศัย ในโซนกรุงเทพฯ ตะวันตก 2 โครงการได้แก่ 1.สิวารมณ์ ไฮด์ (บางแค-สาทร) มูลค่า 483 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรู ห้องนอนใหญ่ บนที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว. จำนวน 29 หลัง โดยมีราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพเชื่อมต่อทำเลเมือง ผ่านวงแหวนกาญจนาภิเษกและ ถนนเพชรเกษม สะดวกต่อการเดินทางทั้งเข้าเมืองย่าน CBD สาทร หรือย่านธุรกิจชานเมือง โดยโครงการดังกล่าวมีการเปิดพรีเซลไปช่วงกลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับจากผู้สนใจเป็นจำนวนมาก และ 2.สิวารมณ์ ไฮด์ (พุทธมณฑลสาย 3) มูลค่า 438 ล้านบาท รูปแบบบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ บนที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว. จำนวน 31 หลัง บนทำเลที่อยู่อาศัยยอดนิยมของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก เชื่อมต่อย่านปิ่นเกล้า – บรมราชชนนีที่ครอบคลุมทุกการเดินทางที่สะดวกสบาย ใกล้ตัวเมือง ในราคาเริ่มต้น 14.5 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังพัฒนาโครงการอสังหาฯ โซนบางปู อีก 2 โครงการ ได้แก่ 1.แกรนด์ สิวารมณ์ 2 (สุขุมวิท-บางปู) มูลค่า 1,438 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวบนที่ดินเริ่มต้น 50 ตรว. ติดถนนใหญ่ ใกล้สถานีตากอากาศ เชื่อมทำเลถนนสุขุมวิท ใกล้สถานีตากอากาศบางปู ที่สามารถเดินทางเข้าสู่แหล่งงานได้ทั้ง 2 นิคมอุตสาหกรรม ทั้งย่านบางปู และบางพลี โดยมีราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท และ 2.สิวารมณ์ เนเจอร์พลัส (บางปู 104) มูลค่า 1,453 ล้านบาท เป็นรูปแบบบ้านและทาวน์โฮม ทำเลใกล้สถานีตากอากาศบางปู โดยมีราคาเริ่มต้นกว่า 2 ล้านบาท
โดยทั้ง 3 โครงการจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามา ในไตรมาส 4/2567 ส่วนโครงการที่ 4. โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์ พลัส (บางปู 104) จะรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 1/2568 อย่างไรก็ตามยังมีโครงการเดิมที่ยังอยู่ระหว่างรับรู้รายได้อีก 7 โครงการ มูลค่าโครงการคงเหลือ ณ วันที่ 30 มิ.ย.2567 จำนวน 1,917.74 ล้านบาท บวกกับโครงการใหม่ 4 โครงการข้างต้น ซึ่งมีมูลค่า 3,812.08 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าที่รอทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2569 ทั้งสิ้น 5,729.82 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม สำหรับมุมมองภาพรวมอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มองว่ายังคงเป็นสิ่งที่ท้าทาย เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศยังเปราะบาง ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจ บริษัทฯต้องวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบและเหมาะสม มุ่งเน้นพัฒนาโครงการในทำเลคุณภาพ ที่มีดีมานด์ของที่อยู่อาศัยสูง เพื่อสร้างการเติบโตสู่ระดับ High Growth พร้อมตั้งเป้าอัตราการเติบโตในปีนี้เพิ่มขึ้น 35-50%
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 148.70 เทียบจากช่วงไตรมาสแรก (QoQ) ที่มีกำไรสุทธิ 8.83 ล้านบาท และใกล้เคียงกับไตรมาส 2/2566 ที่มีกำไรสุทธิ 23.28 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการพัฒนาโครงการเพื่อขาย 306.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 51.05 เมื่อเทียบจากช่วงไตรมาสที่ผ่านมา (QoQ) เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของการขายโครงการอย่างต่อเนื่อง ทั้งบ้านประเภทบ้านเดี่ยว, บ้านแฝดและทาวน์โฮม ซึ่งมาจากการรับรู้รายได้จาก 7 โครงการ ได้แก่ โครงการสิวารมณ์ ซิตี้ (นิคมพัฒนา - ระยอง), โครงการสิวารมณ์ แกรนด์ (สุขุมวิท - บางปู), โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส (อัสสัมชัญ-ศรีราชา), โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส 2 (สุขุมวิท - บางปู), โครงการ สิวารมณ์ วิลเลจ (สุขุมวิท-บางปู 58), โครงการสิวารมณ์ ปาร์ค(วงแหวน - ประชาอุทิศ 76) และโครงการสิวารมณ์ วิลเลจ (วงแหวน - ชัยพฤกษ์)