เมื่อเวลา 09.19 น. วันที่ 16 ส.ค. 67 ที่อาคารรัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี โดยพรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มองเกมนี้อย่างไรว่า ตนคิดว่าการโหวตหรือการรวบรวมคะแนนเสียงเพื่อเห็นชอบบุคคลที่สมควรดำรงตำแหน่งนายกฯ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของพรรคร่วมรัฐบาล และจากที่ได้ติดตามข่าวสารทราบว่า ตอนนี้พรรคร่วมรัฐบาล มีความพร้อมแล้วที่จะเสนอชื่อน.ส.แพทองธาร และวันนี้ในการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน เราจะใช้เวทีสภาผู้แทนราษฎร ในการอภิปรายสอบถามเรื่องความเหมาะสม และแนวทางว่าเราจะขับเคลื่อนประเทศต่อจากนี้กันอย่างไรบ้าง
เมื่อถามว่า แนวทางพรรคประชาชนจะงดออกเสียง หรือลงคะแนนเห็นชอบ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สาระหลักต่อจากนี้คือการทำงานร่วมกันใน 3 ปีต่อจากนี้จะเห็นได้ชัดว่ากฎกติกาหลายอย่างในบ้านเรา ทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญ คดียุบพรรคและการถอดถอน นายกฯออกจากตำแหน่ง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ สมัยนายสมัคร สุนทรเวช ก็เคยโยนถอดถอนออกจากตำแหน่ง รวมถึงข้อกฎหมายเกี่ยวกับจริยธรรมทางการเมืองที่มีการประหารชีวิตทางการเมือง ซึ่งเรื่องเหล่านี้ถือว่าเป็นโจทย์ร่วมกัน ขณะที่ในส่วนของการโหวตนายกฯนั้นเราจะโหวตอย่างไรมติที่ประชุมสส. พรรคประชาชน เมื่อวันที่ 15 ส.ค.เรายืนยันในจุดเดิม ในการแสวงหาจุดร่วมและสงวนจุดต่าง
เมื่อถามต่อว่า น.ส.แพทองธาร ควรจะมาแสดงวิสัยทัศน์ด้วยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เนื่องจากมีข้อจำกัดที่น.ส.แพทองธาร ไม่ได้เป็นสส. ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งตนเชื่อว่าน่าจะมีเพื่อนสมาชิกที่เป็นตัวแทนเสนอชื่อ ให้เหตุและผลในที่ประชุมได้ดีเพียงพอ และเชื่อว่าทางพรรคร่วมรัฐบาลน่าจะกลั่นกรองมาเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามถือเป็นโอกาสดีที่จะต้องมีการให้เหตุและผลอย่างดีเพียงพอ โดยตนจะอภิปรายสอบถามเรื่องนี้ ที่ไม่ใช่เรื่องของคุณสมบัติอย่างเดียวแต่วาระ 3 ปีต่อจากนี้การทำงานร่วมกัน เพื่อกอบกู้อำนาจนิติบัญญัติ
“อยากถามตรงๆเหมือนกันว่าพรรคร่วมรัฐบาลขนาดนี้ เราเห็นด้วยว่าอยากให้มีนายกฯคนใหม่ มาทำงานอย่างไร้รอยต่อ เราอยากสอบถามว่าท่านเห็นด้วยหรือไม่ หากเราจะเชิญชวนมาทำงานร่วมกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกฎหมายต่างๆ ให้มีการจัดวางตำแหน่งให้อำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระมีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น และผมในฐานะหัวหน้าพรรคจะเป็นผู้อภิปรายด้วย ส่วนคนอื่นๆจะไปดูหน้างานอีกที“ นายณัฐพงษ์ กล่าว
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า วาระวันนี้เรื่องหลักไม่ใช่การอภิปรายในเรื่องนโยบาย แต่ถ้าวันนี้ผ่านพ้นไปและได้นายกฯแล้ว อีกหลายเวทีเราก็จะมีการอภิปรายทุกรูปแบบในฐานะฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ตรวจสอบ
เมื่อถามย้ำว่า มองอย่างไรที่พรรคร่วมรัฐบาลย้ำจุดยืนว่าจะไม่ร่วมกับพรรคที่เสนอแก้ไขมาตรา 112 นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก็เป็นเงื่อนไขเดิมตนเคารพในความเห็น ย้ำว่าเราแสวงหาจุดเด่นและสงวนจุดต่าง
เมื่อถามอีกว่า มองบทบาทน.ส.แพทองธารที่จะมาเป็นนายกฯ อย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก็ขอให้กำลังใจ หากวันนี้สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบก็หวังว่าจะทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่
เมื่อถามย้ำว่า ที่ถูกมองว่าน.ส.แพทองธาร เป็นลูกของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจะมีข้อหาเรื่องนายกฯตัวจริงหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถให้ความเห็นได้ แต่เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาล น่าจะกลั่นกรองมาอย่างดี ส่วนเรื่องอายุที่จะเป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุด และใกล้เคียงกับตนนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มองว่าเรื่องอายุไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ สิ่งสำคัญคือคุณสมบัติ ซึ่งหวังว่าสามปีต่อจากนี้จะเป็นตัวพิสูจน์ว่า มีคุณสมบัติเหมาะกับการบริหารราชการแผ่นดินหรือไม่ วันนี้อาจจะเร็วไปที่จะวิพากษ์วิจารณ์
เมื่อถามว่า มองว่าสถานการณ์การเมืองไทยจะครบวาระ 3 ปีหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คิดว่าเป็นไปได้สูงที่จะอยู่ครบ3 ปี ในขณะที่พรรคประชาชนเองก็จะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเต็มที่ตลอด 3 ปี
ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่างๆก็เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะต้องหารือกัน แต่ปัจจัยเสี่ยงที่น่ากลัว คือ ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารถูกกินขอบเขตอำนาจตุลาการ และองค์กรอิสระ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องหาทางออกร่วมกัน ทัั้งนี้ ยืนยันว่าพรรคประชาชนไม่ห่วงเรื่องงูเห่า เพราะ 143 สส. ของพรรคก้าวไกลก็ย้ายมาพรรคประชาชนครบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายภายหลังให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน มีประชาชนจำนวนหนึ่ง นำดอกกุหลาบสีส้มมามอบให้กับหัวหน้าพรรคประชาชนถึงหน้าโถง อาคารรัฐสภา เพื่อให้กำลังใจในการโหวตนายกฯในวันนี้ด้วย