วันที่ 16 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคอสภากาแฟยามเช้าในพื้นที่ร้านน้ำชา หมู่ที่ 7 ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ยังนั่งดื่มน้ำชากาแฟ และพูดคุยทิศทางการเมืองของประเทศไทย และผู้นำประเทศคนใหม่ ในเรื่องมติพรรคร่วม หนุน “แพทองธาร” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี  หลังจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 5 ต่อ 4 วินิจฉัยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้รัฐสภาต้องสรรหาโดยการโหวตเลือก นายกฯ กันใหม่ตามรัฐธรรมนูญ 2560 

โดยพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลมีมติส่ง “แพทองธาร ชินวัตร” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย  และเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต  10,000 บาท ต่างมีความคิดเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ใครเป็น ก็ขอให้พัฒนาประเทศไทยไปทางดีขึ้น


  
เพราะพึ่งผ่านพ้นวิกฤติสถานการณ์โควิด-19 ไป เศษฐกิจกำลังดีขึ้น และทางรัฐบาลโปรยยาหอมเรื่องเงินเงินดิจิทัลวอลเล็ต  10,000 บาท  กับต้องมีความกังวล เพราะชาวบ้านที่ลงทะเบียนรอลุ้นว่าได้หรือไม่  

ทั้งนี้ทีมข่าวได้ลงสุ่มสำรวจความคิดเห็นของภาคประชาชน เข้าพูดคุยกับนายอภิรักษ์  ชำนิธุรการ อายุ 66 ปี ทำงานธุรกิจส่วนตัว และ นายคมสัน มาแระโสม อายุ 37 ปี พนักงานรัฐ  กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า  ใครเป็นนายกฯ ก็ขอให้ช่วยพัฒนาประเทศไทยไปในทางที่ดีขึ้น เศษฐกิจปากท้อง  ค่าแรงให้เหมาะสมกันราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น  


 นายอภิรักษ์  ชำนิธุรการ อายุ 66 ปี ทำงานธุรกิจส่วนตัว  กล่าวว่า  ไม่ได้คาดหวังกับรัฐบาลชุดนี้เพราะคนทำอะไรได้ไม่มาก เพราะนบายที่หาเสียงหนักๆทั้งนั้น  ทั้งค่าแรง 600 บาท  เงินดิจิตอล  ซึ่งเงินดิจิตอลนั้นหากได้ก็ดี  ไม่ได้ก็ดี  อยากให้เอาไปพัฒนาอย่างอื่นมากกว่า  เช่นทำสาธารณูปโภคให้บ้านเมืองน่าจะดีกว่า  แต่ถ้าแจกได้จริงน่าจะเป็นเงินสด


 
ด้านนายคมสัน มาแระโสม อายุ 37 ปี พนักงานรัฐ  กล่าวว่า ว่าที่นายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือจะเป็นคุณ “แพทองธาร ชินวัตร”  แม้อายุจะ 38 ปี ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ก็สามารถนั่งบริหารประเทศไทยได้ เพราะเขาอาจจะมีความคิดที่ดี เข้าใจคนหลายๆรุ่น มากกว่าคนรุ่นเก่าๆที่ผ่านมา ส่วนกรณีเงินดิจิทัลวอลเล็ต นั้นมองว่า  ไม่อยากให้ทำรูปแบบนี้ หากทำเงินคนละครึ่ง และให้แบบโครงการเที่ยวด้วยกันจะมองว่าดีกว่า ง่ายต่อการใช้จ่าย แต่อย่างไร ทิศทางต่อไปอยากฝากนายกรัฐมนตรีช่วยปากท้องให้ดีขึ้นก็พอ ทั้งค่าครองชีพ ค่าแรง ที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตของคนไทย