เมื่อเวลา 09.05 น. วันที่ 16 ส.ค. ที่รัฐสภา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว. การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีว่า สส.ของพรรคทั้ง 10 คน มีทิศทางการลงคะแนนในทางเดียวกัน หลังจากเมื่อวันที่ 15 ส.ค. พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคได้แสดงเจตจำนงในการเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนา ยืนยันแนวทางดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลง

   

เมื่อถามถึง ความเหมาะสมของ น.ส.แพทองธาร ต่อตำแหน่งนายกฯ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนคิดว่าขออย่าดูที่วัยวุฒิ วันนี้เราเห็นแล้วว่าคนรุ่นใหม่ล้วนมีศักยภาพ มีความสามารถ อีกทั้งนายกฯ ไม่ได้ทำงานคนเดียว แต่มีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทีมที่ปรึกษา และมีคุณพ่อเป็นอดีตนายกฯ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นผู้ให้คำปรึกษาอย่างดีในทุกเรื่อง

 

เมื่อถามว่า พรรคชาติไทยพัฒนาจะมีการปรับเปลี่ยนในส่วนของกระทรวงที่จะดูแลหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า คงมีการพูดคุยกันภายหลัง ขณะนี้ขอให้ได้นายกฯก่อน แต่พรรคชาติไทยพัฒนาอยู่ตรงไหนก็ทำงานเต็มที่มาตลอด ตั้งแต่นายกฯเศรษฐาก็ทำงานกันมาด้วยดี อย่างไรก็ดี หากเปลี่ยนกระทรวง คงต้องพูดคุยกันถึงความเหมาะสม เพราะนายกฯแต่ละคนก็มีแนวทางทำงานแตกต่างกันไป 

 

เมื่อถามว่า ส่วนตัวพอใจกระทรวงพม.หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า วันนี้ตนรักษาการรมว.พม. ก็คงทำงานเต็มที่ ตนทำงานได้ทุกที่ขอให้มีงานเข้ามา เพียงแต่วันนี่สวมหมวกรมว.พม. วันหน้าในอนาคตค่อยว่ากันไป

 

เมื่อถามถึง ปัจจัยเสี่ยงของรัฐบาลใหม่ นายวราวุธ กล่าวว่า มีทั้งปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาระดับนานาชาติ ซึ่งที่ผ่านมานายกฯเศรษฐาทำงานในทุกมิติ ก็เชื่อว่ารัฐนาวาลำต่อไปจะประสานงานต่อ ตนคงไม่มีอะไรแนะนำ เพราะเชื่อว่ามีคนแนะนำเยอะแล้ว เพียงแต่ได้ทำงานร่วมกันก็ดีใจ

 

เมื่อถามถึง จุดเด่นของน.ส.แพทองธาร นายวราวุธ กล่าวว่า วันนี้อย่ามองแบบคนรุ่นใหม่ หรือคนรุ่นใหญ่ แต่ให้มองเรื่องประสบการณ์การทำงานและหางเสือที่ชัดเจน ประเทศมีขึ้นมีลงบ้าง การทำงานจึงจำเป็นต้องฟังเสียงทุกฝ่าย และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

 

เมื่อถามถึง นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตจะต้องเดินหน้าหรือยกเลิกหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า รอให้มีนายกฯ และร่างนโยบายรัฐบาลชุดต่อไปก่อน และคงต้องให้เกียรติพรรคใหญ่ด้วย ส่วนความเห็นของกฤษฎีกาก็ถือเป็นความเห็นของท่าน แต่ต้องดูนายกฯ และครม.ว่ามีแนวทางอย่างไร