วันที่ 15 ส.ค.67 เวลา 13.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหล จตุจักร กทม. นายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล ภูมิลำเนาอยู่ จ.ภูเก็ต อาชีพทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.พอช นพลัส รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคม. แจ้งความว่าหลังจากวานนี้ (14 ส.ค.67) ได้เข้ามาปรึกษา พงส.บก.ป.ให้รื้อคดีแล้วนั้น ก่อนแนะนำให้แจ้งความเป็นคดีค้ามนุษย์ วันนี้จึงมาแจ้งความกล่าวโทษต่อ พงส.บก.ปคม.ให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่ยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ได้กระทำชำเรา ด.ญ.อายุ 11 ปี เมื่อปี 2564 ซึ่งเป็นผู้เสียหายในคดีดำที่ อ.1151/2566 คดีหมายเลขแดงที่ 725/2567 ของศาลอาญาธนบุรี
โดยข้อเท็จจริงที่ปรากฎในคดีดังกล่าวมีหลักฐานที่ปรากฎว่าผลการตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม(DNA) ไม่มีความสัมพันธ์กับสารพันธุกรรม (DNA) ของจำเลยในคดีดังกล่าว ดังนั้นนายนิทัศน์ ทราบว่าในวันดังกล่าว ด.ญ.อายุ 11 ปี ได้ถูกกระทำชำเราโดยบุคคลอื่น ซึ่งถือเป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมายอาญา จึงเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ในวันนี้ เพื่อให้การต่อพนักงานสอบสวน พร้อมมอบเอกสารประกอบคำให้การ เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
ซึ่ง นายนิทัศน์ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2564 มารดาของเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี แจ้งความต่อ ร.ต.อ.จิรันธนิน กลิ่นนิรัญ พนักงานสอบสวน สน.สำเหร่ ให้ดำเนินคดีกับพระสมเกียรติ ในข้อหาพรากผู้เยาว์ กระทำอนาจารและ กระทำชำเรา ด.ญ.เอ ผู้เสียหาย และพนักงานสอบสวนได้ส่ง ด.ญ.11 ปี ไปตรวจ เชื้ออสุจิหรือสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ที่สถาบัน นิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ผลของการตรวจพบเจอเชื้ออสุจิ ผ่านการร่วมประเวณี และร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย ตามรายงานการตรวจ ชันสูตรผู้ป่วยในคดี โรงพยาบาลตำรวจ
ต่อมาพระสมเกียรติได้เข้ามอบตัว สู้คดีโดยให้การปฏิเสธ พร้อมกับทางพนักงานสอบสวนได้ส่ง พระสมเกียรติไปตรวจ เชื้ออสุจิหรือสารพันธุกรรม(ดีเอ็นเอเอ็น) ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ว่ามีความสัมพันธ์กับสารพันธุกรรม(ดีเอ็นเอ)หรือเชื้ออสุจิ ที่เก็บจาก ด.ญ.11 ปีหรือไม่ ซึ่งผลการตรวจพิสูจน์ปรากฏว่าสารพันธุกรรม(ดีเอ็นเอ)หรือเชื้ออสุจิที่ปรากฎในอวัยวะเพศของ ด.ญ.เอ ไม่มีความสัมพันธ์กับสารพันธุกรรม(ดีเอ็นเอ)ของพระสมเกียรติ แต่พระสมเกียรติ ก็ถูกดำเนินคดีและมีการฟ้องร้องต่อศาลอาญาธนบุรี ในคดีหมายเลขดำที่ อ.1151/2566 และท้ายสุดศาลได้มีคำพิพากษาเมื่อ 27 มิ.ย.2567 ในคดีหมายเลขแดงที่ อ.725/2567 ให้พระสมเกียรติ แพ้คดี ต้องโทษจำคุก และไปเสียชีวิตในเรือนจำธนบุรี เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2567
จากข้อเท็จจริงที่ปรากฎในคดีดังกล่าวมีหลักฐานชัดเจน เช่น คำให้การของ ด.ญ.เอ ผู้เสียหาย ที่ได้ให้การต่อศาลว่า “ในวันที่ 3 ต.ค.2564 เวลาประมาณ 16 นาฬิกา ข้าฯ ได้ไปหาคนรักของข้าฯ ชื่อ ฟ.และมีเพศสัมพันธ์กับนาย ฟ.โดยนาย ฟ.สวมถุงยางอนามัย จึงไม่มีน้ำอสุจิออกมาจากถุงยางอนามัย“ ดังนั้นน้ำอสุจิที่ตรวจพบในช่องคลอดของ ด.ญ.เอ ในคดีที่พระสมเกียรติ ตกเป็นจำเลยเป็นของใครยังมิทราบได้ แต่เป็นเหตุให้มีการดำเนินคดีกับพระสมเกียรติ จนเป็นเหตุให้มรณภาพในเรือนจำเมื่อ 28 มิ.ย.2567
ทั้งนี้ เมื่อ ด.ญ.เอ ถูก กระทำชำเรา โดยชายที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นบุคคลใด แต่การกระทำชำเราหรือการร่วมประเวณีระหว่าง ด.ญ.เอ และชาย ดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายอาญา มาตรา 277 “ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงยี่สิบปี ตามกฎหมายอาญาความผิดดังกล่าวเป็นความผิดอาญาแผ่นดินที่ยอมความไม่ได้และมีโทษจำคุกสูง ตนจึงมากล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ทำการสืบสวนสอบสวนหาบุคคลที่ยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด กระทำผิดต่อกฎหมายเป็นความผิดร้ายแรง เป็นภัยต่อสังคมเพราะกระทำต่อเด็ก มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามกฎหมายต่อไป