เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รอง ผวจ.นครราชสีมา พร้อม พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส. ภาค 3 จัดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานควบคุมการจำหน่ายน้ำต้มใบกระท่อม ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดนครราชสีมา (ศอ.ปส.จ.นม) มี พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รายงานสถานการณ์ และร่วมกันทบทวนและต่อยอดแนวทางการดำเนินงานควบคุมการจำหน่ายน้ำต้มการจำหน่ายน้ำต้มใบกระท่อม ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
พ.ต.อ.คเชนท์ รอง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์และปัญหาน้ำกระท่อม หลังจากมีการยกเลิกการกำหนดให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาพืชกระท่อมให้เป็นพืชที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ จากการสำรวจสถานประกอบการที่จำหน่ายน้ำต้มใบกระท่อม ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 จนถึงปัจจุบันพบมีร้านค้าที่จำหน่ายจำนวน 186 ร้าน และได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ว่ามีสถานประกอบกิจการที่จำหน่ายน้ำต้มใบกระท่อมเกิดขึ้นในพื้นที่เป็นจำนวนมาก มีการส่งเสียงดัง รบกวนในเวลากลางคืน มีร้านจำหน่ายที่ใกล้สถานศึกษา นักเรียนนักศึกษาหาซื้อได้ง่าย จำหน่ายให้เด็กอายุ ต่ำกว่า 18 ปี ใส่ชุดนักเรียนนักศึกษาเข้าในร้าน นักเรียนนักศึกษาไม่เข้าเรียนเป็นสถานที่มั่วสุมควบคู่กับการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ส่งเสียงดังรบกวนเกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญ เกิดการทะเลาะวิวาท อุบัติเหตุเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ ผู้ประกอบการไม่มีความรู้ในข้อกฎหมาย เป็นอาหารที่ไม่สะอาด เป็นสาเหตุของโรคอื่น ๆ ตามมา
จังหวัดนครราชสีมา บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ชุดปฏิบัติการจัดระเบียบสังคม ดำเนินการออกตรวจจัดระเบียบสังคมอย่างต่อเนื่อง มีผลจับกุมดำเนินคดีร้านค้าที่ลักลอบจำหน่ายน้ำต้มใบกระท่อม เฉลี่ยเดือนละ 20 แห่ง รวมจำนวน 158 คดี ตามกฎหมายว่าด้วยอาหาร กฎหมายว่าด้วยยา กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันมีแนวโน้มของการแพร่ระบาดลดลง แต่ยังพบว่ามีข้อร้องเรียนต่อเนื่องจาก เกี่ยวกับการที่เยาวชนหันมาใช้น้ำกระท่อมที่ไม่ได้ผ่านการประเมินความปลอดภัยของอาหาร ปรุงผสมน้ำหวาน หรือยาอันตราย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีอายุระหว่าง 15-18 ปี ดังนั้น จังหวัดนครราชสีมา ต้องกำหนดให้การแก้ไขปัญหาจากการจำหน่ายน้ำต้มใบกระท่อม เป็นวาระสำคัญเร่งด่วน และเพิ่มความเข้มข้นในเรื่องของการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ และการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ต่อไป
ด้านนายสุรพันธ์ รอง ผวจ.นครราชสีมา เผยว่า ศอ.ปส.จ.นม มีแนวทางการควบคุมร้านจำหน่ายน้ำกระท่อม เพื่อเป็นการกำกับสถานประกอบกิจการที่จำหน่ายน้ำต้มใบกระท่อม ดำเนินกิจการให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย เพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม และเพื่อคุ้มครองสุขภาพของบุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร และบุคคลกลุ่มเสี่ยงอื่นจากการบริโภคน้ำกระท่อม จังหวัดนครราชสีมา นำโดย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จึงกำหนดให้การแก้ไขปัญหาจากการจำหน่าย น้ำต้มใบกระท่อม เป็นวาระสำคัญเร่งด่วน และกำหนดให้มีกรอบยุทธศาสตร์การดำเนินการ ดังนี้
1. ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงประโยชน์ โทษของพืชกระท่อม โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ประกอบการร้านค้าประชาชนทั่วไป เยาวชน นักเรียน นักศึกษา จัดทีมสร้างการรับรู้เชิงรุก ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทาง Social Media ชี้แจงประเด็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ปฏิบัติงานด้านพืชกระท่อม ผู้บังคับใช้กฎหมาย และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง
2.การกวดขัน ตรวจตรา และเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงในชุมชน หมู่บ้าน ริมถนนเส้นทางสายหลัก/สายรอง สร้างภาคีเครือข่ายในการเฝ้าระวังในสถานศึกษา และรอบสถานศึกษา การควบคุมการจำหน่ายยา ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยยา และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง การควบคุมการขอใช้อาคาร และการขออนุญาต ในอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3.หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายดำเนินการต่อผู้ที่ฝ่าฝืน ตามอำนาจหน้าที่อย่างจริงจัง ร้านค้า/ร้านคาเฟ่/สถานบันเทิงรอบสถานศึกษา/ริมถนน (ตร.) เขตหมู่บ้าน/ชุมชน (ปค.) บูรณาการจัดระเบียบสังคม และดำเนินการตามข้อร้องเรียน หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน
4. ใช้กลไกของคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด/คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอ ในการตั้งประเด็นวาระการกำหนดมาตรการหรือแนวทางที่จำเป็นในการแก้ไขปัญหา สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 3 สนับสนุนงบประมาณ