มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส) ประกาศความพร้อมของทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต ภายใต้การสนับสนุนด้านเทคนิคจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เตรียมลงสู้ศึกการแข่งขันเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2024 หรือ เอเอ็กซ์ซีอาร์ 2024 จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 17 สิงหาคมนี้ บนเส้นทางเขตภาคใต้และภาคกลางของประเทศไทย ด้วยรถกระบะไทรทัน1 จำนวน 4 คัน เพื่อทวงตำแหน่งแชมป์กลับคืนอีกครั้งในรอบ 2 ปี
เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต ได้เตรียมพร้อมในด้านสมรรถนะและความแข็งแกร่งของรถแข่งไทรทัน แรลลี่คาร์ บนเส้นทางออฟโรด ด้วยระยะทาง 800 กิโลเมตรในประเทศไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทีมแข่ง ทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่ ความปราดเปรียวคล่องตัว และการควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะระบบช่วงล่างด้านหลังที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น โดยในวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา หรือ 5 วัน ก่อนเริ่มการแข่งขันเอเอ็กซ์ซีอาร์ ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต ได้ทดสอบสมรรถนะของรถที่จะใช้ขับแข่งอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกองค์ประกอบของตัวรถนั้นอยู่ในสภาพสมบูรณ์และพร้อมตะลุยศึกครั้งนี้อย่างเต็มที่
มร.ฮิโรชิ มาซูโอกะ ผู้อำนวยการ ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต เปิดเผยว่า เราได้พัฒนาสมรรถนะการขับขี่ของรถไทรทัน และขยายความกว้างของช่วงล้อ ทั้งยังปรับปรุงระบบกันสะเทือนหลังแบบจัดเต็ม โดยนำจุดเด่นของรถรุ่น ปาเจโร ซึ่งเคยคว้าแชมป์ดาการ์ แรลลี่ มาปรับใช้ในการแข่งขันครั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้คือ รถแข่ง ไทรทัน แรลลี่คาร์ สามารถเร่งความเร็วได้เต็มสูบ แม้ในสเตจที่ต้องใช้ความเร็วสูง เช่น ขับขี่ด้วยความเร็วที่สูงกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยตัวรถได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้น ทั้งยังให้สมรรถนะการควบคุมรถที่ดียิ่งขึ้นตามที่เราต้องการ โดยเฉพาะบนสภาพถนนที่สมบุกสมบัน ซึ่งในปีนี้เรามีรถที่เข้าแข่งขันเพิ่มขึ้นจาก 3 คันเป็น 4 คัน และผมมั่นใจว่านักแข่งและผู้นำทางจะสามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากเราจะมีเป้าหมายทวงคืนบัลลังก์แชมป์ในรอบ 2 ปีแล้ว เรายังต้องการสานต่อธรรมเนียมปฏิบัติของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่มุ่งเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ได้จากการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตอันหฤโหด มาใช้ต่อยอดในการพัฒนารถยนต์ต่อไป
การแข่งขันเอเอ็กซ์ซีอาร์ในปีนี้ มีรถเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 67 คัน แบ่งเป็นประเภทรถยนต์ 46 คัน ประเภทรถจักรยานยนต์ 19 คัน และประเภทไซด์คาร์ 2 คัน พิธีเปิดการแข่งขันจะจัดขึ้นในวันที่ 11 สิงหาคม ณ หอนาฬิกา ใจกลางเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทางภาคใต้ของไทย จากนั้น การแข่งขัน Leg 1 อย่างเต็มรูปแบบ จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 12 สิงหาคม ตามด้วยการแข่งขัน Leg 2 ซึ่งเป็นเส้นทางที่ยาวที่สุดของการแข่งขันทั้งหมด จะเริ่มต้นพิสูจน์ความแกร่งสุดท้าทายจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีไปยังอำเภอหัวหิน ตะลุยผ่านเส้นทางที่เป็นหลุมเป็นบ่อขนาดใหญ่และเต็มไปด้วยก้อนหินตะปุ่มตะป่ำ จากนั้นการแข่งขัน Leg 3 จะเป็นเส้นทางที่ต้องใช้ความเร็วสูงบนทางฝุ่นเรียบในอำเภอหัวหิน ตามด้วยการแข่งขัน Leg 4 ซึ่งจะฝ่าเส้นทางลาดชันขึ้นลงเขา มุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนเข้าสู่การแข่งขัน Leg 5 ซึ่งวิ่งผ่านพื้นที่การเกษตร ที่มีลักษณะเป็นพื้นราบแต่มีทัศนวิสัยจำกัด ปิดท้ายด้วยการแข่งขัน Leg 6 ที่จะมุ่งเข้าสู่เส้นชัย ที่สกายวอร์ค กาญจนบุรี ซึ่งเป็นสะพานกระจกใส ที่เพิ่งเปิดตัวในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ เมื่อปี 2565
สำหรับผลการแข่งขันประจำวัน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จะรายงานความเคลื่อนไหวของการแข่งขันเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่วันแรกของการแข่งขัน จนถึงการแข่งขันช่วงสุดท้ายในวันที่ 17 สิงหาคม ทางเว็บไซต์เอเอ็กซ์ซีอาร์ของบริษัทฯ https://www.mitsubishi-motors.com/en/brand/ralliart/axcr/axcr2024/