วันที่ 14 ส.ค.67  ที่ห้องไหมฟ้า โรงแรม เลอ เอราวัณ อำเภอเมือง จังหวัดพังงา กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) จัดโครงการ "สลากเกษียณ สัญจรทั่วไทย โดย กอช." เป็นครั้งที่ 2 ในพื้นที่ภาคใต้ โดยมี ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย ดร.วโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง พันโทหนุน ศันสนาคม  ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล คุณบุญธรรม เลิศสุขีเกษม ประธานอนุกรรมการส่งเสริมการออมและสมาชิกสัมพันธ์ กองทุนการออมแห่งชาติ คุณจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ ลงพื้นที่จังหวัดพังงา เพื่อดำเนินการโครงการ "โครงการ "สลากเกษียณ สัญจรทั่วไทยเกษียณ สัญจรทั่วไทย โดยมีนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายกลวัชร ทรัพย์ส่งสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายบัญชา ธนูอินทร์ ท่านปลัดจังหวัดพังงา ร่วมให้การตอนรับ จากกระทรวงมหาดไทย คณะผู้บริหารการคลังจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนันผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้แทนจาก อบต. อบจ. เทศบาล สมาชิก กอช. และชาวพังงา ร่วมรับฟังเป็นจำนวนมากพร้อมมีการจัดแสดงบูธ จาก บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT และทรูมันนี่ ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมกิจกรรมด้วย

ดร.เผ่าภูมิ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า หลังจากที่ ครม. มีมติเห็นชอบ โครงการ สลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงการคลัง ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และ กอช. ลงพื้นที่ เพื่อสร้างการรับรู้ และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อนำมาปรับปรุงโครงการฯ ดังกล่าว ให้ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน และขัดเกลาให้ได้นโยบายที่ดีและครอบคลุมที่สุด ซึ่ง กอช. เป็นหน่วยงานหลัก ในการส่งเสริมการออมให้กับคนไทย ผ่านการสนับสนุนจากภาครัฐ และเป็นกองทุนที่ส่งเสริมการวางแผนออมเงินในระยะยาว ให้กับผู้ประกอบอาชีพอิสระ ทั้งพ่อค้า ชาวไร่ชาวนา ที่มีอายุตั้งแต่ 15 - 60 ปี สมาชิกสามารถออมเงินได้ตามความสมัครใจ ขั้นต่ำตั้งแต่ 50 บาท สูงสุด30,000 บาทต่อปี และรัฐสมทบสูงสุด 100% แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี

ดร.เผ่าภูมิ กล่าวอีกว่า สลากเกษียณฯ นับเป็นนวัตกรรมเชิงนโยบายใหม่ของรัฐบาลมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออมทรัพย์ ให้กับประชาชน เนื่องจากปัจจุบัน คนไทยส่วนใหญ่ ไม่มีเงินออมที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต อีกทั้งรัฐบาลยังแบกรับภาระงบประมาณจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ กว่า 8 หมื่นล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงพฤติกรรมของคนไทยที่นิยมซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงเป็นเหตุให้ต้องอาศัยแรงจูงใจเรื่องของเงินรางวัล เพื่อให้เกิดการออมทรัพย์

"นโยบายนี้ ทำให้ประชาชนได้มีทางเลือกในการเก็บออม เพื่อการเกษียณอายุอีกรูปแบบหนึ่งในลักษณะที่คล้ายกับบำเหน็จ แถมยังได้ร่วมสนุก ในการลุ้นรางวัลเงินล้าน ทุกวันศุกร์ อีกด้วย มั่นใจว่า สลากเกษียณ จะช่วยลดปัญหาคนไทยแก่แต่จนได้ในระดับหนึ่ง และขอให้ทุกภาคส่วน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการฯ ดังกล่าว เพื่อให้เป็นกลไกที่สำคัญ ในการเก็บออม สำหรับแรงงานนอกระบบในระยะยาวต่อไป" ดร.เผ่าภูมิ กล่าว ขณะที่ภายในงาน นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม ประธานอนุกรรมการส่งเสริมการออมและสมาชิกสัมพันธ์ และ นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ ร่วมบรรยายในหัวข้อ "การส่งเสริมการออมกับ กอช. และการสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับ กอช." พร้อมเปิดเวทีเสวนา หัวข้อ "สลากเกษียณ วิชั่นใหม่ การออม รับสังคมสูงวัย" โดยมี ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ดร.วโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และนางสาวจารุลักษณ์เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนผ่านเวทีเสวนาและรับฟังข้อเสนอแนะจากประชาชนชาวพังงา

โอกาสนี้ ดร.เผ่าภูมิ และคณะผู้บริหาร กอช. สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ลงพื้นที่พบปะสมาชิก และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ สมาชิก กอช. ในพื้นที่ พร้อมเยี่ยมชมการดำเนินงาน ณ ตลาดลองแล บ้านบางนุ ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา โดยมี นายพิชญพัทธ์ เรืองชาตรี นายอำเภอตะกั่วทุ่ง ให้การต้อนรับ