ฝ่ายปกครองสุพรรณฯ บุกจับพ่อค้ายาขณะกำลังจะกระพือเมีย

เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี (ชุดไกรสีห์) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี(มังกร 27) บุกจับพ่อยาบ้าคืนเดียว 2 รายติดรายแรกจับนุ้ยเขาดินจอมลวดลายพ่อค้ายาบ้า ขณะกำลังจะกระพือกับเมีย และบัติ เดี้ยงการละคร ทิ้งยาบ้าใส่กระติกน้ำแข็งแล้วแกล้งเป็นลม ขณะถูกบุกจู่โจมซึ่งผู้ต้องหาทั้ง2คนเป็นเรียนชั้นประถมด้วยกัน แล้วมาจับมือเป็นพ่อค้ายาเสพติด

เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 14 ส.ค.67 นายธรรศ ศรีดุษฎี  ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี (ชุดไกรสีห์) เจ้าหน้าที่ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี (มังกร 27) ร่วมกันจับกุมพ่อค้ายาบ้า นายพิเชษ (ขอสงวนนามสกุล) ฉายานุ้ยเขาดิน อายุ 47 ปี ได้ที่บ้านพักพร้อมของกลาง ยาบ้า 190 เม็ด และนายสมบัติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ของกลางยาบ้า 50 เม็ด

นายธรรศ ศรีดุษฎี  ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า ปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมพ่อค้ายาเสพติดครั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี (ชุดไกรสีห์) ได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบขายยาเสพติดที่หมู่บ้านเขาดิน ตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองสุพรรณบุรี พร้อมแจ้งเบาะแสของพ่อค้ายาเสพติดให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองทราบ หลังได้รับแจ้งเบาะแสและตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่าการร้องเรียนเป็นเรื่องจริง จึงได้นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี (ชุดไกรสีห์) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี (มังกร 27) เปิดปฏิบัติการทันทีโดยเป้าหมายแรกบุกตรวจค้นที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 2 ตำบลสระแก้ว  เป็นบ้านไม้ยกพื้นเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังปิดล้อมป้องกันการหลบหนีเนื่องจากได้รับข้อมูลว่าพ่อค้ายาเสพติดได้นอนอยู่ที่ชั้นบน เจ้าหน้าที่จู่โจมขึ้นไปเคาะประตูเรียกเจ้าของบ้านอยู่สักพักแต่เจ้าของบ้านไม่ยอมเปิดประตูหน้าบ้านจึงใช้วิธีงัดประตูเข้าไปถึงหน้าห้องนอนก็ตะโกนเรียกให้เจ้าของเปิดประตูห้องจากนั้นไม่นานเจ้าของ 2 สามีภรรยา ก็เปิดประตูเดินชูมืออกมาโดยฝ่ายชายนุ่งกางเกงขาสั้นไม่สวมเสื้อฝ่ายหญิงนุ่งผ้าเช็ดตัวกระโจมอกเพียงผืนเดียว

เจ้าหน้าที่ได้สั่งให้นั่งลงพร้อมถามเจ้าของห้องทราบชื่อคือนายพิเชษ ฉายานุ้ยเขาดิน ว่ามียาบ้าไหมนายนุ้ย ปากแข็งบอกไม่มีเจ้าหน้าที่จึงเค้นถามเพราะทราบว่าที่บ้านนี้มียาบ้าแน่นอนจากนั้นได้กระจายกำลังตรวจค้นทั้งในห้องนอนและบริเวณรอบบ้านก็พบยาบ้าอยู่ในซองพลาสติกใสประมาณ 20 เม็ดซ่อนอยู่ในซอกข้างฝาบ้าน เจ้าหน้าที่ก็ถามต่ออีกว่ายาบ้ามีอีกไหมนายนุ้ย ก็ยังตอบเหมือนเดิมว่าไม่มีแล้วเจ้าหน้าที่หน้าที่ไม่เชื่อค้นหาต่อก็พบยาบ้าอยู่ในซองสีฟ้าซ่อนอยู่ใกล้กัน จึงถามว่ายาบ้านี่ของใครนายนุ้ย บอกไม่รู้ว่าของใครสงสัยของพวกที่เข้ามาในห้อง แต่เจ้าหน้าที่ไม่เพราะคำพูดนายนุ้ยเชื่อไม่ได้

สอบสวนเบื้องต้นนายนุ้ย ให้การว่า ตนช่วยแม่เผาถ่านขาย แต่เงินขายถ่านแม่เป็นคนเก็บตนเลยไม่มีเงินใช้และตนก็ติดยาเสพติด พ่อค้ายาเสพติดที่ตนเป็นลูกค้าได้ชวนให้ตนขายจึงตัดสินใจขายหาเงินใช้จ่ายตนเสพยาบ้าวันละ 5-6 เม็ด ตนเสพและขายมานานยังไม่เคยถูกจับ โดยก่อนที่เจ้าหน้าที่จะบุกขึ้นมาจับตนได้เสพยาบ้าไป 2-3 เม็ดและกำลังจะกะพือ กับเมีย (มีเพศสัมพันธ์ คำศัพท์ใหม่) พอได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่เคาะประตูเรียก ก็ตกใจและสวรรค์ล่ม 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดไกรสีห์ และ เจ้าหน้าที่ชุดมังกร 27 ได้บุกเข้าตรวจค้นเป้าหมายที่ 2 เป็นบ้านสองชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูน อยู่ในพื้นที่ หมู่ 1 ตำบลสระแก้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมไว้แล้วเรียกเจ้าของบ้านทราบชื่อนายสมบัติ ให้เปิดประตูหน้า แต่นายสมบัติ กลับเปิดประตูหลังเตรียมหนีแต่ไม่รอดเนื่องจากเจ้าหน้าที่ยืนคุมเชิงเอาไว้แล้วพร้อมจู่โจมเข้าล็อกตัวไว้เมื่อเห็นจวนตัวนายสมบัติ ได้ทิ้งก้อนพลาสติกห่อยาบ้าทิ้งลงกับพื้น พร้อมทำท่าชักเป็นลม เจ้าหน้าที่จึงถามว่าเป็นอะไร นายสมบัติ บอกจะเป็นลม  แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จากนั้นได้กระจายกำลังค้นหายาบ้ากันทั่วทั้งในบ้านนอกบ้านและเจ้าหน้าที่ก็พบยาบ้าถูกเทลงในกระติกน้ำดื่มเพื่อทำลายหลักฐานแต่ยาบ้ายังไม่ทันละลายจึงยึดไว้เป็นของกลาง 

สอบสวนนายสมบัติ ซึ่งมีสภาพขาเดี้ยงจากอุบัติเหตุ ให้การว่า ตนมีอาชีพขายยาบ้าหาเงินใช้เพราะหางานทำไม่ได้ โดยรับยาบ้ามาจากเอเยนต์ในพื้นที่ ครั้งละ 100-200 เม็ดมาแบ่งขาย และเสพด้วยวันละ 5-10 เม็ด ตนขายยาบ้ามานานเคยถูกจับข้อหาจำหน่ายยาบ้า มาแล้ว 4 ครั้งติดคุกครั้งแรก 2 ปี ครั้งที่ 2 และ 3 ติดคุก 4 ปี 6 เดือนครั้งที่ 4 ถูกจับยาบ้า 1,000 เม็ดศาลตัดสินลงโทษ 25 ปีแต่ได้อภัยโทษติดคุกจริง 15 ปีครั้งที่ 5 ถูกจับข้อหาเสพขับ ติดคุก 1 ปี 9 เดือน และครั้งเป็นครั้งที่ 6 ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นบ้านนายสมบัติ ได้มีญาติของนายสมบัติ มาดูการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าทำไมไม่รู้จักเข็ดหลาบทำไมไม่เลิกพฤติกรรมเขาถูกจับข้อหาจำหน่ายยาเสพติด ติดคุกเป็นว่าเล่นเคยติดคุกอยู่ที่เรือนจำเขาบินมาแล้ว 10 กว่าปีจนญาติเอือมระอาล่าสุดก็ประสบอุบัติกระดูกขาแตกเวลาเนต้อใช้ไม้เท้า จนกลายเป็นคนพิการแต่ก็ยังไม่เลิก

นายธรรศ ศรีดุษฎี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนและได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติดจึงสนธิกำลังนำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี (ชุดไกรสีห์) จึงนำกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี (มังกร27) เข้าตรวจค้นและจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง ซึ่งประวัติของนายสมบัติ นั้นเคยถูกจับข้อหายาเสพติดมาแล้วอย่างโชกโชนเคยติดคุกเขาบิน มาแล้วแต่ไม่เลิกซึ่งจะได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.สระแก้ว เพื่อขยายผลจับกุมผู้ค้ารายใหญ่มาดำเนินคดีต่อไป