ครม. เห็นชอบและอนุมัติร่างเอกสารการประชุมรัฐมนตรีพลังงานเอเปค ครั้งที่ 14 เชื่อช่วยขับเคลื่อนพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนในไทย
วันนี้ (14 สิงหาคม 2567) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติการรับรองร่างเอกสารในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีพลังงานเอเปค ครั้งที่ 14 (APEC Energy Ministerial Meeting: APEC EMM 14) ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 - 16 สิงหาคม 2567 ณ เมืองลิมา สาธารณรัฐเปรู จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ (1) ร่างแถลงการณ์ลิมา การประชุมรัฐมนตรีพลังงานเอเปคประจำปี ค.ศ. 2024 (Lima Statement 2024 APEC Energy Ministerial Meeting) และ (2) ร่างแนวนโยบายเอเปค เพื่อพัฒนาและปรับใช้กรอบนโยบายด้านไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก (APEC Policy Guidance to Develop and Implement Low-Carbon Hydrogen Policy Frameworks in the Asia - Pacific) สรุปสาระสำคัญดังนี้
1. ร่างแถลงการณ์ลิมา การประชุมรัฐมนตรีพลังงานเอเปค ประจำปี ค.ศ. 2024 เป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีพลังงานเอเปคในการผลักดันความร่วมมือด้านพลังงานร่วมกันในด้านต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่การบรรลุเป้าหมายพลังงานสะอาดควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นคงทางพลังงานภายในภูมิภาคเอเปค เช่น (1) ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกภาคส่วน (2) ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน ลดผลกระทบจากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใช้พลังงาน (3) ผลักดันโครงการ/กิจกรรมความร่วมมือในการปรับใช้เทคโลยีสมัยใหม่ เพื่อพัฒนาระบบพลังงานให้มีประสิทธิภาพ (4) ส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการพัฒนาโครงการพลังงานสะอาดและโครงการสนับสนุนด้านพลังงาน
2. ร่างแนวนโยบายเอเปคเพื่อพัฒนาและปรับใช้กรอบนโยบายด้านไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก เป็นเอกสารแนวทางผลักดันความร่วมมือของเขตเศรษฐกิจเอเปคในการพัฒนาไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำโดยใช้กลไกของคณะทำงานด้านพลังงานเอเปคในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ เช่น (1) ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง (2) หารือแนวทางการพัฒนามาตรฐานและความปลอดภัยของไฮโดรเจน (3) ส่งเสริมการเติบโตของห่วงโซ่อุปทานและตลาดโฮโดรเจนให้เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง
“ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมรัฐมนตรีพลังงานเอเปค ประจำปี ค.ศ. 2024 ทั้ง 2 ฉบับ ในครั้งนี้ จะช่วยวางกรอบนโยบายความร่วมมือด้านพลังงานของไทยเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านพลังงานของเอเปค (APEC Energy Goals) ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาดและประสิทธิภาพพลังงาน สอดคล้องกับการจัดทำนโยบายของแผนพลังงานชาติของไทยที่มีเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการลดการปล่อยคาร์บอนจากภาคพลังงาน เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว